0 The+Grudge+-+%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B8

The Grudge - บ้านผีดุ

เข้าฉาย 13 กุมภาพันธ์ 2563
ผู้ชม : 10,644
ผู้กำกับ : Nicolas Pesce
ความยาวหนัง : 95.00
Text Size

หนัง Grudge การกลับมาอีกครั้งของ "ผีดุ" กับเรื่องราวบ้านต้องคำสาปที่มีวิญญาณร้ายอาศัยอยู่และมันหมายเอาชีวิต!


หนัง Grudge หรือชื่อไทยว่า บ้านผีดุ A house is cursed by a vengeful ghost that dooms those who enter it with a violent death.Producer Sam Raimi brings us a twisted new take of the horror classic. Directed by Nicolas Pesce, THE GRUDGE stars Andrea Riseborough, Demin Bichir, John Cho, Betty Gilpin with Lin Shaye and Jacki Weaver. With a screenplay by Nicolas Pesce and a story by Nicolas Pesce and Jeff Buhler, THE GRUDGE is based on the film Ju-On The Grudge written & directed by Takashi Shimizu. THE GRUDGE is produced by Sam Raimi, Rob Tapert and Taka Ichise and is executive produced by Nathan Kahane, Erin Westerman, Brady Fujikawa, Andrew Pfeffer, Roy Lee, Doug Davison, John Powers Middleton and Schuyler Weiss.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

16 กุมภาพันธ์ 2563 15:07:35

[รีวิว] The Grudge - บ้านผีดุ
--- 4/10 ---
เป็นหนังผีที่ใช้ฉากตุ้งแช่เยอะมาก และไม่น่ากลัว
เนื้อเรื่องพยายามเล่าให้ซับซ้อนโดยไม่จำเป็นเลย
โดยรวมแลดูขาดๆ เกินๆ

The Grudge หรือบ้านผีดุ ในภาคนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นการรีบูทครั้งที่เท่าไหร่แล้ว กับหนังผีในตำนาน จูออน กับเอกลักษณ์ผีสองแม่ลูกที่มาไล่ฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยภาคนี้มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวนึงอยู่ญี่ปุ่นและโดนคำสาป จนกลับมาประเทศอเมริกาที่บ้านตัวเอง แต่คำสาปตามเธอกลับมาด้วย จึงทำให้คนที่อยู่ในบ้านนั้นตายยกครัว รวมถึงทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านหลังนั้นด้วย 

เอาจริงๆ คาดไว้แต่แรกแล้วว่าหนังมันต้องแย่แน่ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นแหละ 555 คือเอาอย่างแรกที่เห็นชัดๆ เลย ตัวผี ที่แตกต่างจากต้นฉบับโดยสิ้นเชิง คือใครเป็นแฟนคลับจูออนต้องไม่ชอบแน่ๆ ล่ะ ผีขาวซีดตัวบิดเบี้ยวมันหายไป! กลายเป็นผีในรูปลักษณ์แบบอเมริกาเลยอะ แบบยังไงดีอะ เหมือนซอมบี้แหละมั้ง จึงทำให้มันค่อนข้างให้ความรู้สึกเหมือนไม่ใช่ผีที่เราคุ้นเคย สิ่งที่คุ้นเคยเดียวคงเป็นเสียงตอนผีจะโผล่ละมั้ง 

อย่างต่อมาคือหนังเรื่องนี้พยายามเล่าเรื่องทำให้มันซับซ้อนเกิ๊น! คือหนังพยายามเล่าหลายๆ เส้นเรื่อง หลายๆ เหตุการณ์ เชื่อมโยงกันไปกันมา เล่าหลายช่วงเวลา แต่พอพยายามเป็นแบบนี้คือดูออกเลยว่าแบบไม่อยากเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง พอมาทำแบบนี้มันกลับไม่ได้ซับซ้อนและชวนให้น่าติดตามขนาดนั้น คือมันเป็นสิ่งที่เหมือนคนดูรู้อยู่แล้วอะ แถมตอนจบยังหาทางลงง่ายเหลือเกิน เร็วไป ถ้าจะมาขนาดนั้นจัดหนักจัดเต็มไปกว่านั้นก็ได้ นี่แบบ “อ้าว...จบแล้วหรอ” บางคนในโรงที่นั่งด้วยกันยังงงๆ อยู่เลย 

มาพูดถึงการหลอกของเรื่องนี้บ้าง มักจะเป็นคำถามแรกๆ ที่คนมักสงสัยว่า หนังเรื่องนี้มีฉาก Jump Scare เยอะไหม? ฉากพวกตุ้งแช่ แฮ่! อะไรแบบนี้ บอกเลยว่าเรื่องนี้มีเยอะมากจริงๆ ไม่ว่าตัวละครจะทำอะไรก็ตามมันจะต้องเจออะ คือง้างมาเลย ง้างมาแบบ คิดในหัวได้เลยว่ามาแน่ๆ โผล่แน่ๆ ดนตรีบิ้วมาและ มุมกล้องมาและ ทุกอย่างลงตัวแบบผีมันต้องโผล่มาแฮ่เร็วๆ นี้แหละ ที่สำคัญคือเป็นแบบนี้ทั้งเรื่อง! เดาง่ายมาก ใครดูหนังผีเยอะๆ จะรู้สึกเหมือนผมแน่ๆ เท่านั้นไม่พอ การหลอกแต่ละฉากคือมันจำเจมาก ซ้ำ หนังเรื่องอื่นใช้ไปเยอะแล้ว เอาจริงๆ เราไม่ได้ติดใจหรือเกลียดอะไรฉากพวกนี้หรอก เพียงแต่ว่าอยากให้มันมีชั้นเชิงมากกว่านี้ ถ้ามาแบบในเรื่องนี้นะ ถ้าคนดูเดาได้นะ ใส่มาเลย ใส่มาเต็มๆ ทุกๆ นาที ยัดมาแบบยัดมาเลย เดาง่ายใช่มั้ย ก็กดดันด้วยฉากหลอกเยอะๆ จนทำให้คนดูหายใจหายคอไม่ทันไปเล๊ย ไม่ต้องไปเล่นท่ายาก หลอกให้คนดูเหนื่อยไปเลย แต่อันนี้คือแบบขาดๆ เกินๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกเหมือนกัน และไอ้ที่ตลกเข้าไปใหญ่คือต้องมีตัวละครนำพาให้เราไปเจอฉากเหล่านั้น มันเป็นปกติอยู่แล้วหล่ะหนังผีต้องมีตัวละครแบบอยากรู้อยากเห็น และเรื่องนี้ก็มีแบบนั้น แต่บางทีมันก็อยากรู้อยากเห็นเกินเหตุไป๊ ไม่สมเหตุสมผลสุดๆ เหมือนกับว่าฉากตุ้งแช่ต่างๆ มันไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างดำเนินเรื่อง แต่เหมือนกับตัวเรื่องเนี่ยแหละนำพาไปหาฉากตุ้งแช่เหล่านั้น อารมณ์เหมือนอยากโดนหลอกเหลือเกินอะไรทำนองนั้น มันจึงเดาทางง่ายแบบสุดๆ มีฉากนึงตอนผีหลอกตลกดี ผีมีการยืนโบกมือให้เหยื่อที่โดนด้วย โคตรตลก 555 

ในเรื่องนี้มีหลายสิ่งที่ไม่จำเป็นเลยจริงๆ แต่ที่ขัดใจสุดคือการมีอยู่ของตัวละครตำรวจผู้ชาย รู้สึกโคตรไม่มีประโยชน์กับเรื่องยังไงไม่รู้ 

ว่าไปเยอะแล้ว มาพูดสิ่งที่น่าชื่นชมของหนังเรื่องนี้บ้าง นั่นก็คือการจัดแสงไฟ แต่ละฉากคือดีไซน์ออกมาดีมาก ทำการบ้านมาดีจริงๆ หลายๆ ฉากเห็นถึงความตั้งใจมากๆ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่น่าเสียดายที่การหลอกและการดำเนินเรื่องน่าผิดหวังจริงๆ

สรุป The Grudge - บ้านผีดุ เป็นหนังผีที่ใช้ฉากตุ้งแช่เยอะมาก แต่ดูขาดๆ เกินๆ ไปซะหน่อย และเนื้อเรื่องก็พยายามทำให้มันซับซ้อนแต่ก็ดันไม่ได้ซับซ้อนและไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยจริงๆ ไปไม่สุดสักทางเลย สรุปคือมันไม่เวิร์คสำหรับเราสักเท่าไหร่ ดูไปก็ได้แต่หัวเราะหึๆ ไป

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
2
การดำเนินเรื่อง
2
ดนตรีประกอบ
4
ฝีมือนักแสดง
5
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
4
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
ไม่มีรูปโปรไฟล์ SS
14 กุมภาพันธ์ 2563 11:36:07

A house is cursed by a vengeful ghost that dooms those who enter it with a violent death.Producer Sam Raimi brings us a twisted new take of the horror classic. Directed by Nicolas Pesce, THE GRUDGE stars Andrea Riseborough, Demin Bichir, John Cho, Betty Gilpin with Lin Shaye and Jacki Weaver. With a screenplay by Nicolas Pesce and a story by Nicolas Pesce and Jeff Buhler, THE GRUDGE is based on the film Ju-On The Grudge written & directed by Takashi Shimizu. THE GRUDGE is produced by Sam Raimi, Rob Tapert and Taka Ichise and is executive produced by Nathan Kahane, Erin Westerman, Brady Fujikawa, Andrew Pfeffer, Roy Lee, Doug Davison, John Powers Middleton and Schuyler Weiss.

การให้คะแนนส่วนตัวมองว่าหนังยังไม่มีความสมบูรณ์เลย.สอบตกเรื่องการดำเนินเรื่องของหนัง จังหวะjump scare ดูเว่อมากไม่มีความสมจริง ส่วนตัวให้4/10

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
3.5
การดำเนินเรื่อง
2
ดนตรีประกอบ
4
ฝีมือนักแสดง
6.5
กราฟฟิก
4
คะแนนเฉลี่ย
4
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
12 กุมภาพันธ์ 2563 15:51:50

The Grudge ตำนานบทใหม่ของผีจูออน

คงไม่มีใครไม่รู้จักหนังผีญี่ปุ่น ที่สร้างมาหลายภาคมากอย่าง Ju-On ซึ่งด้วยความที่ได้รับความนิยมขนาดนี้ทำให้ฮอลีวูดซื้อไปรีเมคมาแล้ว 2 ภาค ในช่วงต้นยุค 2000 ซึ่งเวอร์ชั่นนั้นค่อนข้างไม่ค่อยติดตาคนดูซักเท่าไหร่ แม้จะดันทุกรังทำภาค 3 เป็นหนังแผ่นก็ตาม (ซึ่งภาค 3 นี้บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเคยมีการสร้างอยู่) จนปี 2020 ฮอลลีวูด ได้เวลาเอามารีเมคอีกครั้ง ซึ่งมันจะกลายเป็นหนังรีเมคที่สร้างจากหนังที่รีเมคมาจากเวอร์ชั้นต้นฉบับอีกทีนึง เรียกง่ายๆ เลยคือรีเมคแบบอินเซปชั่นนั่นเอง 555

เรื่องราวในภาคนี้ว่าด้วยเมื่อปี 2004 ฟีโอน่า พยาบาลสาวลูกหนึ่งที่พึ่งจะเสร็จธุระจากการต้องไปดูแลคนไขที่บ้างหลังหนึ่งในญี่ปุ่น เธอได้เดินทางกลับบ้านในอเมริกา แต่แล้วทั้งครอบครัวนี้ก็ได้เสียชีวิตอย่างลึกลับ จากนั้นไม่นานมีผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ก็เกิดคดีฆ่าตกรรมอีกเช่นกัน จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ปี นักสืบมอลดูน ที่พึ่งย้ายมาใหม่พร้อมกับลูกชายของเธอ ต้องมาทำคดีที่ยิ่งสืบสาวเรื่องราวลึกลงไปเรื่อยๆ ต่างเชื่อมโยงกับคดีของครอบครัว ฟีโอน่าเมื่อ 2 ปีก่อน ณ บ้านเลขที่ 44 และหลังจากที่มอลดูนได้เข้าไปสืบเรื่องราวในบ้านหลังนั้น ดูเหมือนว่าเธอจะถูกบางอย่างติดตามออกมาด้วย

จะว่าไปแล้วส่วนตัวผมค่อนข้างที่จะชอบเรื่องราวใน Ju-On เวอร์ชั่นนี้นะที่มีความพยายามจะเชื่อมโยงอาถรรพ์ของบ้านเจ้าปัญหาในญี่ปุ่น ที่แพร่เชื้อร้ายมาสู่บ้านเลขที่ 44 ในอเมริกา รวมไปถึงการตัดต่อที่เล่าเรื่อง 3 ไทมไลน์สลับไปมาพร้อมๆกัน (ซึ่งอาจจะดูงงๆในช่วงแรก แต่พอดูๆไปแล้วก็จะค่อยๆเข้าใจมากขึ้น) ส่วนตัวผมเองนั้นคิดว่าเวอร์ชั่นนี้มันก็ไมได้เลวร้ายอะไรนะ ฉากตุ้งแช่ก็ทำงานกับคนดูดีทีเดียว เพียงแต่หนังมันยังหาความกลมกล่อม และบทสรุปที่น่าพึงพอได้ให้กับคนดูยังไม่ได้เท่านั้นเอง 6.5/10

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
4.5
การดำเนินเรื่อง
7.5
ดนตรีประกอบ
6.5
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
6.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)

หนังภาพยนตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง