0 Dolittle+-+%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C+%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A5

Dolittle - ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล

เข้าฉาย 16 มกราคม 2563
ผู้ชม : 19,386
ผู้กำกับ : Stephen Gaghan
ความยาวหนัง : 106.00
Text Size

หนัง Dolittle หรือชื่อไทยว่า ด็อกเตอร์ ดูลิตเติ้ล หลังจากสูญเสียภรรยาเมื่อเจ็ดปีก่อน ด็อกเตอร์ จอห์น ดูลิตเติ้ล (ดาวนีย์) ผู้มีความแปลกไม่เหมือนใครและสร้างชื่อเสียงเป็นหมอและสัตว์แพทย์ของสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษ เขาใช้ชีวิตอย่างสันโดษอยู่หลังกำแพงสูง ซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ดูลิตเติ้ลกับสวนสัตว์ที่มีสัตว์หายาก แต่เมื่อพระราชินี (เจสซี่ บัคลีย์ จาก Wild Rose) มีพระอาการประชวรอย่างสาหัส ดูลิตเติ้ลจึงต้องออกเดินทางผจญภัยไปยังเกาะในตำนาน เพื่อหาวิธีรักษา พร้อมทั้งรื้อฟื้นสติปัญญาและความกล้าหาญ ต้องต่อสู้กับศัตรูและค้นพบสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ . คุณหมอออกเดินทางไปกับนักเดินทางวัยเยาว์ (แฮร์รี่ คอลเล็ตต์) และเหล่าเพื่อนที่เป็นสัตว์ดุร้าย อาทิ ลิงกอริลลาผู้มีความกังวล (รามี มาเล็ก เจ้าของรางวัลออสการ์), เป็ดสมองนก ผู้กระตือรือล้น (เจ้าของรางวัลออสการ์ ออคตาเวีย สเปนเซอร์), นกกระจอกเทศจอมถากถาง (คูเมล นันจานี จาก The Big Sick) หมีขั้วโลกที่มองโลกในแง่ดี (จอห์น ซีนา จาก Bumblebee) และนกแก้วหัวแข็ง (เจ้าของรางวัลออสการ์ เอ็มม่า ธอมป์สัน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและเป็นสัตว์ที่ดูลิตเติ้ลที่ไว้วางใจและเชื่อถือมากที่สุด


A physician discovers that he can talk to animals.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

23 มกราคม 2563 13:32:36

Dolittle เรื่องราวบทใหม่ของคุณหมดที่พูดกับสัตว์ได้

ส่วนตัวผมเองนั้นคุ้นเคยกับหนังเวอร์ชั่นล่าสุด เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ เล่นมากกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับปี 1967 ซึ่งในเวอร์ชั่นเอ็ดดี้ เมอร์ฟี่เล่นนั้นจะดำเนินเรื่องในยุคปัจจุบัน มีความทันสมัยในด้าบริบทต่างๆ ซึ่งต่างจากเนื้อเรื่องต้นฉบับที่จะดำเนินในยุคกลางอะไรประมาณนั้น และเวอร์ชั่นใหม่นี้เลือกจะที่เล่าให้ตรงตามต้นฉบับ จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจและแปลกใหม่สำหรับผมเอามาก

ในเวอร์ชั่นนี้เรื่องราวจะเริ่มต้นด้วย Dr Dolittle ได้พบรักกับภรรยาที่เป็นนักสำรวจชื่อดัง ทั่งคู่ได้รับการสนับสนุนที่ดินจากสมเด็กพระราชินี เพื่อเปิดเป็นศูนย์รักษาสัตว์ จนอยู่มาวันนึง ภรรยาเขาได้ออกเดินทางไปค้นหาของบางอย่างในทะเลอันไกลโพน แต่เกิดเหตุเรือล้มจนเสียชีวิตทำให้ Dr. Dolittle เสียใจอย่างมากและเปิดกันตัวเองกับมนุษย์ทุกคน และได้หลบหน้าอยู่กับสัตว์ต่างๆเพียงลำพัง จนกระทั่งราชินีเกิดประชวน ทำให้ Dr.Dolittle ต้องออกเดินทางไกลเพื่อค้นหาวิธีรักษาชีวิตราชินีไว้ให้จงได้

โดยรวมตัวหนังเวอร์ชั่นนี้ ดูเหมือนว่าสร้างมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะจริงๆ เรียกได้ว่าเด็กดูได้เพลินๆไม่มีพิษภัยอะไรเลย (แต่ด้วยความที่มันเป็นหนังที่มี Target เด็กเป็นหลัก อาจจะทำให้วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่บางคนชวนหลับเอาได้ง่าย) ถึงแม้ว่าหนังมันจะดูเด็กเอามาๆส่วนตัวผมเองก็เพลิดเพลินกับการผจญภัยของ DR. Dolittle เวอร์ชั่นนี้เลยทีเดียว 

จุดที่ชวนติ ที่สุดของหนังน่าจะเป็นการที่ตัวหนังนั้นเดินเรื่องไวมาก แป๊ปๆถึงที่หมายแป๊ปๆ ก็จบแล้ว อาจจะทำให้คนดูบางท่านยังไม่เต็มอิ่มกับหนังเลย หนังก็จบลงแล้ว

สรุปแล้วถึงแม้ว่าตัวหนังนั้นจะค่อนข้างเด็กเอามากๆแต่ผมก็เอ็นจอยกับการดูหนังเรื่องนี้ตลอดทั้งเรื่องจริงๆ 7.5/10

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
8.5
ฝีมือนักแสดง
9.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
7.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
20 มกราคม 2563 19:50:07

[รีวิว] Dolittle
--- 5.8/10 ---
เรื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรเลย ตัวเอกก็ไม่น่าสนใจพอ
พอดูได้เพลินๆ เอาไว้แก้คิดถึง RDJ

Dolittle คือหนังที่รายได้เปิดตัวไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ในต่างประเทศ และมีแววเจ๊งมาแต่เนิ่นๆ แถมคะแนนวิจารณ์แต่ละสำนักในต่างประเทศก็เข้าขั้นแย่ ยิ่งสำหรับเราที่คุ้นเคยกับ Dolittle ฉบับ Eddie Murphy แล้วด้วยนั้น ยิ่งทำให้เวอร์ชั่นนี้ดูดร๊อปลงไปในทันที เอาจริงๆ ถึงแม้จะไม่เคยมี Dolittle มาก่อนหน้านี้ เวอร์ชั่นนี้ก็ไม่ดีเท่าที่ควรจริงๆ

Dolittle บอกเล่าเรื่องราวของหมอคนหนึ่งที่สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ เขาได้รับภารกิจให้ไปช่วยเหลือราชินีที่ป่วยอยู่ ด้วยการต้องไปตามหายาแก้พิษบนเกาะแห่งหนึ่ง ทำให้ตัวของ Dolittle ต้องผจญภัยออกไปกับผองเพื่อนสัตว์ต่างๆ

เรารู้สึกว่าหนังเปิดเรื่องเร็วเหลือเกิน มันพอเข้าใจแหละว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันน่าจะมีความดราม่าเจาะลึกสภาพจิตใจของตัวละครอย่าง Dolittle สักหน่อย เรื่องราวการดำเนินเรื่องยิ่งไม่มีอะไรเข้าไปใหญ่ คือตัวหนังเองพยายามจับตัวละครจับสัตว์ไปผจญภัย มีความเล่นใหญ่ ใส่ซีนอลังๆ ชวนว้าวมาบ้าง แต่มันก็น้อยเหลือเกิน มันเบาบางมาก ที่สำคัญตัวละครนำอย่าง Dolittle ที่รับบทโดย Robert Downey Jr. กลับไม่มีเสน่ห์ และไม่สามารถสร้างความน่าสนใจให้กับหนังได้เลยจริงๆ เสียดายความเป็นตัวของเขามาก หรืออาจไม่มีพื้นที่ให้เขาได้แสดงความสามารถอะไรเลย และสิ่งที่น่าเสียดายยิ่งกว่านั้นคือสัตว์แต่ละตัว ที่ได้นักแสดงบิ๊กเนมมาทั้งนั้น ตัวละครที่เสียดายสุดคงจะเป็น Jip หมาแว่นที่ให้เสียงพากย์โดย Tom Holland จากตัวเด่นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นใน Avengers กลับกลายเป็นแค่ตัวประกอบไปซะงั้น เอาจริงๆ การแบ่งบทสัตว์แต่ละตัวก็ทำได้ไม่ดีอีกต่างหาก มุกตลกแต่ละอย่างมันก็ไม่ค่อยเวิร์คไม่ค่อยทำงานสำหรับเรา ได้แต่แบบยิ้มหึๆ ฮาสุดคงตัวละครกระรอกนั่นแหละ คลิปโปรโมทที่ RDJ ออดิชั่นสัตว์ยังฮากว่าเยอะ

สรุปแล้ว Dolittle เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ไม่ได้ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ได้ดี ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ น่าจะเหมาะสำหรับครอบครัวพาลูกพาหลานไปดู น่าจะเอ็นจอยมากกว่า ตัดเรื่องเหตุผล ตัดเรื่องความรู้สึกตัวละคร Dolittle ออกไป แล้วเหลือไว้เพียงแต่สิงสาราสัตว์ต่างๆ กับการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ ก็น่าจะพอไหวอยู่แหละมั้ง

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
6
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
5.8
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)