The Hunt - จับ ล่า ฆ่า โหด
เข้าฉาย 12 สิงหาคม 2563
ผู้ชม : 5,790
ผู้กำกับ
: Craig Zobel
ความยาวหนัง
: 90.00
Text Size
หนัง The Hunt เรื่องราวของกลุ่มคนแปลกหน้า 12 คน ได้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความสับสน โดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ไทย, มาที่นี่ได้ยังไง และทำไมถึงต้องเป็นพวกเขา ทั้งหมดต้องหาความจริง และหาทางเอาชีวิตรอดไปจากที่นี่ให้ได้!
Twelve strangers wake up in a clearing. They don't know where they are, or how they got there. They don't know they've been chosen - for a very specific purpose - The Hunt.
[รีวิว] The Hunt - จับ ล่า ฆ่า โหด
--- 7/10 ---
สนุก บันเทิง โหด เลือดสาดสมชื่อ Blumhouse
แต่น่าเสียดายที่หนังแผ่วปลายซะงั้น
The Hunt - จับ ล่า ฆ่า โหด เป็นเรื่องราวของกลุ่มคนแแปลกหน้าที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความสับสนในสถานที่ที่พวกเขาไม่รู้ สิ่งเดียวที่ให้พวกเขามาคืออาวุธ แต่หารู้ไม่ว่า มันคือการเปิดเกมคนล่าคนของพวกคนรวย
The Hunt เป็นหนังที่สร้างโดยค่าย Blumhouse ค่ายหนังสยองขวัญ ที่ทำให้เรื่องนี้เป็นหนังทุนต่ำแต่เน้นความเลือดสาด มีฉากโหดๆ เครื่องในกระจุย
จริงๆ The Hunt ก็ไม่ใช่หหนังแนวที่แปลกอะไร และเราก็เห็นกันมาบ่อยแล้ว กับเกมคนล่าคน เอาที่ใกล้เคียงสุดและผ่านไปไม่นานก็ Ready or Not (2019) เนี่ยแหละ
เรียกได้ว่าหนังเปิดมาได้สนุกและน่าสนใจเลยทีเดียว กับกลุ่มคนที่ถูกจับมา และมีอาวุธป้องกันตัวจากเหล่าคนรวย มาถึงก็เปิดเกมล่าใส่กันไม่ยั้ง นับว่าสนุกและน่าสนใจจริงๆ แถมยังมีการหลอกล่อคนดูเกี่ยวกับตัวละครต่างๆ ด้วย ว่าเห้ยใครตัวเอกกันแน่วะ (แต่ก็เดาไม่ยากนะ) เราชอบในจุดนี้มากจริงๆ แต่ก็ยังมีจุดที่สงสัยว่า ทำไมต้องให้ตัวละครครอบปาก ถ้าจะให้พวกเขาเอาออกกันง่ายขนาดนั้น - -
หนังเพิ่มดีกรีความสนุกเข้าไปอย่างต่อเนื่องด้วยการนำพาตัวละครมาพบเจอกับเหตุการณ์อื่นๆ นอกจากการไล่ล่า คือพอตัวละครออกมาจากพื้นที่ปิด แทนที่จะเอาตัวรอดในพื้นที่จำกัด กลายเป็นว่าต้องเอาตัวรอดในพื้นที่เปิดกว้าง และระแวงว่าจะเชื่อใจใครได้บ้าง มันก็สนุกไปอีกแบบ
หลังจากหนังเปิดเผยตัวละครเอกแล้วมันก็ยังคงสนุกอยู่ ยังคงมีฉากแอ็คชันโหดๆ ให้เห็นกันอยู่ แถมตัวเอกนี้ยังมีคาแรคเตอร์ที่ดูกวนตีนอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งมันก็เป็นจุดที่ทำให้หนังสนุกเช่นกัน
แต่หนังดันมาแผ่วปลายซะงั้น เหมือนพอหนังดำเนินไปเรื่อยๆ ความสนุกมันก็เริ่มลดลงๆ เริ่มคุยกันเยอะกว่าแอ็คชัน เริ่มจากเหตุผลในการจับคนมาไล่ฆ่าในครั้งนี้ก็พอเข้าใจ แต่ก็ยังงงๆ ว่าทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร และจุดที่ข้องใจมากๆ คือทำไมต้องปิดบังใบหน้าของนายหญิงบอสใหญ่ที่แสดงโดย Hilary Swank ไว้ตลอดทั้งเรื่อง และมาเฉลยในตอนท้ายๆ มันไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรเลย ในตัวอย่างก็โชว์หน้าเธอหลาซะขนาดนั้น ไม่เข้าใจเจตนาในการปิดบังใบหน้าเธอเลยจริงๆ และในซีนท้ายเรื่องมันก็สนุกแหละ มีความกวนตีนในฉากสู้กัน แต่มันไม่ได้สนุกหรือน่าสนใจเท่าต้นเรื่องแค่นั้นเอง
สรุปแล้ว The Hunt ถือเป็นหนังที่สนุก ดูได้เพลินๆ โหด เลือดสาด แต่งงๆ กับเหตุผลบ้าง และความสนุกแผ่วปลายอย่างน่าเสียดาย
สรุปผลวิจารณ์หนัง