0 %E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7+-+Ruk-Mot-Kaew

รักหมดแก้ว - Ruk-Mot-Kaew

เข้าฉาย 25 ธันวาคม 2557
ผู้ชม : 4,412
ผู้กำกับ : Saranyoo Jiraluck
ความยาวหนัง : ไม่ระบุ
Text Size

ไฟเลี้ยว (น้ำหวาน พิไลพร) คิดเอาไว้ว่าการได้เป็นแฟนกับ บั๊กโจ้ (ปอนด์ ณปรัชญ์) นั้น จะทำให้ความรักของเธอโคตรชิล เหมือนนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ริมทะเลตอนพระอาทิตย์ตกดิน ไม่เร่งรีบ ไม่เรียกร้อง และไม่ผูกมัด ตามประสาชะนีอินดี้รักอิสระเหนือสิ่งอื่นใด ไฟเลี้ยววาดฝันไว้ว่าความรักที่ดีคือความรักที่ต่างฝ่ายต่างเว้นช่องว่างให้แก่กันและกัน ไม่ใกล้จนอึดอัดและไม่ไกลจนห่างเหิน เธอผ่านผู้ชายมาหลายคน ผิดหวังมาซ้้ำซาก จนกระทั่งได้มาเจอกับบั๊กโจ้คนที่เหมือนจะใช่สุดๆ บั๊กโจ้ เป็นหนุ่มตี๋หน้ามึนแสนอารมณ์ดี เจ้าของร้านเหล้าที่เหมือนเปิดไว้เป็นห้องรับแขกให้เพื่อนๆ มาสังสรรค์ กะเอาฮาไม่หาผลกําไร เขาไม่เคยคิดจริงจังกับชีวิต เพราะคิดว่าอนาคตเป็นเรื่องอีกยาวไกล และเวลาก็เป็นทรัพยากรที่ใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมด
ด้วยจังหวะการใช้ชีวิตที่เข้าคู่กันอย่างน่าอัศจรรย์ บั๊กโจ้และไฟเลี้ยวจึงตกลงใจคบหากันแบบหลวมๆ กลางวันทํางาน กลางคืนสนุกสนานในวงเหล้าเคล้าเพลงร็อค โดยมีสมาชิกในก๊วนคอทองแดงที่พบปะกันทุกคืนไม่มีขาด แต่ทุกๆ วงเหล้าย่อมต้องเลิกราฉันใด ชีวิตก็คงต้องมีจุดเปลี่ยนฉันนั้น และความรักก็ไม่ต่างกัน เมื่อถึงจุดหนึ่งกติกาของหัวใจที่ไฟเลี้ยวตั้งไว้เกิดสั่นคลอน และความเหยาะแหยะของบั๊กโจ้ก็ยิ่งแต่จะทําให้ชีวิตของเขาดิ่งลงเหว ความรักของทั้งคู่กําลังแล่นมาถึงทางตัน แถมเหล่าแก๊งค์เพื่อนขั้นเทพที่คอยเป็นที่ปรึกษาด้านหัวใจต่างก็แยกย้ายจากกันไปคนละทิศคนละทาง เขาทั้งสองกําลังจะได้เรียนรู้ว่า โลกที่พวกเขามองเห็นและวาดฝันตอนยังไร้เดียงสานั้นช่างแตกต่างกันอย่างลิบลับกับสิ่งที่ต้องเผชิญจริงๆ
มันเผ็ดร้อนกว่าเหล้ายี่ห้อใดๆ ในโลก และเจ็บปวดกว่าเพลงรักทุกเพลงรวมกัน จะยุติคําว่าเรา หรือจะเลือกเมากับคําว่ารัก มีแต่ไฟเลี้ยวและบั๊กโจ้เท่านั้นที่จะเป็นผู้เลือก และ การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่มีโซดา ไม่มีโทนิค ไม่มีมิกเซอร์ มีแค่รักหมดแก้ว!

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

8 มกราคม 2558 12:01:45
รักหมดแก้ว (ษรัณยู จิราลักษม์ / Thailand / 2014)
 
จริงๆ มันก็ดูเพลินๆ ดีนะ แล้วก็ชอบอะไรหลายๆ อย่าง การเล่าการตัดต่อบางอย่างบางตอนที่หนังไทยไม่ค่อยเล่นกัน การเข้าออกและการกลับมาของตัวละครที่ไม่ได้มีแค่พระเอกนางเอกที่มันมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตทั้งความคิดและความสัมพันธ์ การกำกับการถ่ายภาพที่ทำให้หนังมันดูแพงขึ้น ทั้งที่ก็เห็นๆ ว่ามีโลเคชั่นเดิมๆ เหมือนที่เคยเห็นในหนังรอมคอมไทยที่ผ่านๆ มา ผับ ร้านเหล้า บ้าน-สระว่ายน้ำ ห้องขัง มหาวิทยาลัย ฯลฯ 
 
แต่เสียดายที่บทมันชัดไปหน่อยโดยเฉพาะไดอะล็อก ก็รู้สึกว่าตัวละครมันกลมแหละแต่ตัวที่กลมก็กลมด้วยรูปแบบที่เป็นแบบฉบับไปหน่อย อ่าน คาลิล ยิบราล ปมพ่อแม่ในวัยเด็ก แบบถ้าเล่าที่มาที่ไปแบ็กกราวน์ชัดๆ แบบนี้มันจะกลม จริงๆ คือมันจะดีก็ได้นะถ้าไม่เล่า Voice Over แบบนี้ ลำดับเรื่องแบบนี้ การเห็นคนหนึ่งนั่งอ่านยิบราลกับตากับอีกคนที่มาบอกว่าเนี่ยกูอ่านคาลิล ยิบราล นะ มันให้ความรู้สึกต่างกันนะ อันหลังทำให้มันมีความกระแดะจางๆ ออกมาให้รู้สึกถึงความไม่จริงอยู่หน่อยๆ ความเก๋ไก๋มันทำให้ความปกติมนุษย์ธรรมดาของตัวละครลดลงไปในความรู้สึกของเราจนเราเข้าไม่ถึงตัวละคร ทั้งๆ ที่เราก็สนใจทัศนคติที่คล้ายตัวเราของตัวละครพระเอกนางเอกด้วย แต่พอมันยิงธีมกระจายไว้หลายที่หลายฉากมันก็มีอิดเอียนกันบ้าง
 
ชอบตัวละครของมาช่าที่สุดในเรื่องถึงเราจะรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้มันสร้างขึ้นมาเป็นทั้งตัวแย้งและสนับสนุนพระเอกนางเอกตรงๆ ไปหน่อย คือตัวละครมันดีแหละแต่ไดอะล็อกที่มันพูดมันตรงไป และยังมีการเล่าด้วย Execution ที่คลิเชอยู่บ้าง แต่มาช่าก็เอาอยู่ดีมากจริงๆ ฉากนอนเตียงในโรงพยาบาลที่นั่งคุยกับ อ๊อฟ ปองศักดิ์ แค่ฉากเดียวทำให้มาช่าตีตื้นขึ้นมามีมิติได้ น้ำตารื้นๆ น้ำเสียงสั่นเครือที่เรารู้สึกว่าถึงจะเข้มแข็งถึงจะกร้านโลกยังไงความรู้สึกมันก็ขัดแย้งกับทัศนคติตัวเองได้เหมือนกัน
 
ส่วนที่ดับที่สุดคือพระเอกกับฉากดราม่าไคลแม็กซ์ที่ตั้งใจเรียกน้ำตาแต่กลับพังเพราะเล่นเก้กังยังไม่ถึง แต่ยังดีที่มีนางเอกช่วยไว้ได้บ้าง ถึงจะบ้างแบบน้อยนิดก็ตามที...แล้วฉากในศาลนี่มองมันตลกขำๆ ก็โอเค แต่เราก็ไม่ซื้อในฐานที่เป็นฉากใช้สรุปธีม...จุดเปลี่ยนก่อนหน้านั้นมันง่ายไปหน่อยที่จะให้โรแมนติกขนาดนั้น แต่ดีหน่อยที่ยังรู้สึกว่าเดี๋ยวหลังจากหนังจบในโลกของตัวละครที่เป็นแบบนี้มันก็ยังจะตบตีกันอีกอยู่นั่นแหละ

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
6.5
การดำเนินเรื่อง
6.5
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7.5
คะแนนเฉลี่ย
6.9
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)