โปรเม อัจฉริยะต้องสร้าง - Promae
หนัง Pro May หรือชื่อไทยว่า โปรเม อัจฉริยะต้องสร้าง จุดเริ่มต้นทั้งหมด มันเกิดจากพ่อคนหนึ่ง พ่อที่เชื่อว่าจะทำให้ลูกสาวสองคนไปเป็นนักกอล์ฟระดับโลกให้ได้ คุณเริ่มอยากรู้แล้วใช่ไหมว่าเขาเริ่มกันยังไง เรื่องราวทั้งหมดของ “เม-เอรียา จุฑานุกาล” และ ครอบครัวของเธอที่เริ่มต้นจากการทิ้งโลกวัยเด็กของเธอไว้เบื้องหลังและเริ่มเล่นกอล์ ฟตั้งแต่ยังเด็ก ตลอดเวลาเม และ ครอบครัว ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ทั้งเรื่องกอล์ฟ และบททดสอบ ความยากลำบากในการใช้ชีวิต ช่วงเวลาที่บาดเจ็บ การตกลงสู่จุดที่แทบจะเรียกได้ว่าต่ำที่สุดของชีวิต ครอบครัวของพวกเธอ พาหัวใจของเธอก้าวข้ามผ่านความล้มเหลว ก้าวข้ามผ่านจุดที่ต่ำที่สุดในชีวิตนั้นมาได้อย่างไร เพราะความพยายามที่ไม่เคยหยุด ไม่ว่าจะผิดหวัง ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหน เธอยังคงเดินหน้าจนติดท๊อปเท็นของโลกไปได้ในตอนนี้ รวมถึงสร้างปรากฏการณ์ให้วงการกอล์ฟโลก และทั้งหมดนี้ คือเรื่องราว ที่จะเป็นแรงผลักดันให้กับทุกคนที่มีฝัน ทำทุกอย่างทุกวิถีทาง เพื่อไปให้ถึงฝันนั้นแบบ “เม-เอรียา จุฑานุกาล” และครอบครัวของเธอ “โปรเม” อัจฉริยะต้องสร้าง ภาพยนตร์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม หมายเหตุ: ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของนักกอล์ฟหญิงชาวไทยมือ 1 อันดับโลก เอรียา จุฑานุกาล หรือ โปรเม เรื่องราวทั้งหมดในภาพยนตร์เรื่องนี้ 99% เป็นเรื่องจริงที่ถูกถ่ายทอดออกมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน
[รีวิวหนัง] โปรเม อัจฉริยะต้องสร้าง
--- 8/10 ---
หนังชีวประวัตินักกีฬาที่ไม่ได้ดีที่สุด
แต่ก็เป็นหนังชีวประวัติที่น่าดูที่สุดเรื่องนึงของไทยเช่นกัน
ต้องบอกว่าน่าดูมากตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ไม่รู้ว่าในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย เคยทำหนังประวัตินักกีฬามาบ้างหรือเปล่า แต่เท่าที่พยายามนึกดูนี่ไม่มีเลยสักเรื่อง และโปรเม ก็มีวัตถุดิบเรื่องราวมากพอที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสักเรื่อง
คุณว่าความสำเร็จ เกิดขึ้นเพราะพรสวรรค์หรือเพราะพรแสวง คำถามนี้เราอาจตอบไม่ได้ แต่ที่รู้ๆ ความสำเร็จของโปรเมมีจุดเริ่มต้นมาจากความ “บ้า” ของพ่อ ที่ได้สร้าง “เม” จนกลายมาเป็นโปรและคว้าอันดับ 1 นักกอล์ฟหญิงของโลกได้
หนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องกอล์ฟก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก มีความเป็นมิตรกับคนดู ด้วยการอธิบายเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟเล็กน้อยผ่านฉากๆ นึง แถมที่สำคัญคนที่ไม่ได้รู้จักหรือติดตามวงการนี้กับตัวของ เม อารียา ก็สามารถมาดูเรื่องนี้แล้วอินได้ไม่ยากเลย เพราะหนังเรื่องนี้จะพาคุณไปรู้เรื่องราวเหล่านั้นเอง
หนังมีการดำเนินเรื่องที่สนุก ไม่น่าเบื่อ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในวัยเด็ก ผ่านการฝึกซ้อมสุดโหดของผู้เป็นพ่อ (และโค้ช) จนมาถึงแมชที่ส่งผลให้เธอประสบความสำเร็จคว้าอันดับ 1 ของโลกในวงการกอล์ฟ เราจะได้เห็นพัฒนาการ ปัญหา จุดหักและเรื่องราวที่ “สร้าง” ให้ “เม” กลายมาเป็นโปรจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างดีเลย
สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดของเรื่องต้องยกให้บทพ่อ ที่แสดงโดย ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ที่หาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ เรียกได้ว่าทุกฉากที่เขาปรากฏตัว แสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมสุดๆ เล่นอารมณ์ในทุกซีน และทำได้อย่างดีมากๆ คาแร็คเตอร์เหมือนพ่อตัวจริงด้วย อีกทั้งตัวละครนี้ยังกลมมากๆ เป็นคาแร็คเตอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเรื่องเลย เพราะมันทำให้เรารู้สึกโกรธและเกลียดมาตลอดทั้งเรื่อง แต่สุดท้ายปลายทางกลับทำให้เรารัก นับถือ และเคารพ การกระทำของตัวละครนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ประมาณว่า “เออจริงของเขาว่ะ”
และก็ต้องพูดถึง คริสซี่ นักแสดงผู้รับบท เม-เอรียา ที่บอกตรงๆ ว่าหน้าตาและรูปร่างไม่เหมือนหรือใกล้เคียงกับโปรเมเลยสักนิด แต่ต้องยอมรับว่าการแสดงของเธอนับว่าแสดงได้ในระดับที่เอาอยู่เลยแหละ
แต่แน่นอนว่ามันก็มีข้อเสียเหมือนกัน อย่างแรกเลยเรารู้สึกว่าหนังมันขัดกับชื่อเรื่องอยู่พอสมควรนะ เพราะหนังชื่อ “โปรเม” แต่ตัวละครที่เด่นจริงๆ คือ “พ่อ” ไม่ใช่มันไม่ดีนะ เราชอบมันด้วยซ้ำ เพียงแต่เหมือนกับชื่อหนังโฟกัสผิดจุดไปหน่อย แถมเรายังไม่ได้เห็นการแข่งขัน ความพยายาม แรงฮึดสู้ ความตั้งใจของตัว เม อารียา เท่าที่ควร เช่นเดียวกัน เรายังไม่รู้เหตุผลเบื้องหลังที่พ่อต้องเคี่ยวเข็ญเมหนักขนาดนั้นด้วย
ก็อย่างที่บอก หนังไม่ได้เน้นถึงการแข่งขันกอล์ฟ มันเลยกลายเป็นว่าฉากการแข่งขันมันไม่สมจริง ดูไม่อิมแพ็ค ไม่ตื่นเต้น และไม่ส่งผลให้เรารู้สึกลุ้นมากเท่าไหร่
สรุปแล้ว โปรเม อัจฉริยะต้องสร้าง เป็นหนังที่จริงๆ แล้ว เราไม่รู้ว่าหนังเปลี่ยนแปลงเรื่องราวความจริงไปมากมายแค่ไหน แต่ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ นับว่าหนังกล้าที่จะนำเสนอแง่มุมออกมาได้อย่างไม่อายเลย ตัวหนังสะท้อนให้เห็นเลยว่าความสำเร็จมันไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน คำว่า อัจฉริยะ มันไม่ได้เกิดกับทุกคน มันต้อง “สร้าง” ขึ้นมา และที่สำคัญหนังไม่ได้พาเรามาดูความสำเร็จของเธอ แต่หนังพาเรามาให้รู้ว่า กว่าที่จะประสบความสำเร็จ มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง
ปล. ตอน End-Credit มีเพลงของ Jelly Rocket ขึ้นนี่กรี๊ดเลย ฟังเพลิน
สรุปผลวิจารณ์หนัง