Anna - แอนนา สวยสะบัดสังหาร
หนัง Anna หรือชื่อไทยว่า แอนนา สวยสะบัดสังหาร ผลงานชิ้นใหม่ของผู้กำกับหนังแอคชั่นตัวพ่อ ลุค เบสซง ที่ในเรื่องนี้เขาทั้งกำกับ เขียนบท และโปรดิวซ์ ANNA คือภาพยนตร์แอคชั่น-เขย่าขวัญ ที่มีฉากหลังเป็นวงการแฟชั่นไฮโซสุดตระการตา หลังจากถูกค้นพบโดยแมวมองนางแบบ แอนนา โปเลียโทว่า (ซาช่า ลุสส์) สาวสวยชาวรัสเซีย ก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบแถวหน้าและเป็นแฟชั่นไอคอนระดับโลก แต่แอนนามีด้านที่ซ่อนไว้มากกว่าที่คนทั่วไปได้เห็น ภายใต้ความงามไร้ที่ติของเธอนั้นคือการใช้ชีวิตอยู่ในโลกสายลับสุดอันตรายที่ก้าวพลาดแม้แต่ก้าวเดียวมันหมายถึงชีวิต ร่วมแสดงโดยทีมนักแสดงคุณภาพนำโดย เฮเลน เมียร์เรน คิลเลียน เมอร์ฟี และ ลุค อีแวนส์ ANNAคือส่วนผสมของพล็อตที่น่าติดตาม การหักมุมที่ทำให้อ้าปากค้าง และฉากแอคชั่นที่จะทำให้คุณลืมหายใจ
Beneath Anna Poliatova's striking beauty lies a secret that will unleash her indelible strength and skill to become one of the world's most feared government assassins.
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
เฉียบ!!!
หนังเรื่องนี้ทั้งมันส์ บันเทิง หักเหลี่ยมหักมุมซ้อนไปซ้อนมา ตอนแรกก็จะนึกว่าธรรมดาๆ งั้นๆ แต่พอหักไปหักมา กลับมาเก็บรายละเอียดเท่านั้นแหล่ะ OMG โอ้วแม่จ้าววว!!! แจ่มมาก สไตล์การกำกับของลุค เบซงนั้นช่างเทพจริงๆ ชอบเฮียมาตั้งแต่ LUCY กับ VALERIAN แล้ว เล่าเรื่องได้เอ็นเตอร์เทนมากๆ
ส่วนเนื้อเรื่องหลายคนบอกว่าเป็นจอห์นวิคเวอร์ชั่นผู้หญิง แต่เราว่าไม่ใช่ ไม่ใกล้เคียงเลย ดูไม่คมและโหดเท่านั้น จะคล้ายๆ RED SPARROW ที่เจนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์เล่นมากกว่า แต่ไม่โหดเครียดถึงขั้นปวดกบาลแบบนั้น จะเบาและดูง่ายกว่าหลายเท่ามาก ฉากแอคชั่นคมๆ ก็มีบ้างแต่ไม่จัดจ้านเหมือนจอห์นวิค ส่วนมากจะเน้นร้อยเรียงเนื้อเรื่องมากกว่า
การแสดงของซาซ่าส์ ลุซก็เอาอยู่ ด้วยความคาแรกเตอร์จัดมากและความสวยเซ็กซี่นั้นช่างชนะเลิศ ยอมใจนางจริงๆ แค่ทำหน้านิ่งๆ ก็เอาอยู่แล้ว (อันนี้ความเห็นค่อนข้างโน้มเอียงไม่เป็นกลาง...หุหุ)
สรุปว่าแอนนาเปรี้ยวเท่ห์เลือดเย็น หนังหักเหลี่ยมเฉือนคมเจ๋ง แอคชั่นมันส์ น่าดู ถ้าชอบสไตล์สายลับจัดไปอย่าได้พลาด...
- เด็กเดินตั๋ว -
ป.ล. ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาใดๆ
สรุปผลวิจารณ์หนัง
[รีวิว] Anna - สวยสะบัดสังหาร
--- 8/10 ---
หนังสายลับหญิงที่พล็อตเก่า เดาง่าย แต่...เล่าดีและสนุก!
Sasha Luss (Anna) สวยมว๊ากกกกกก
Anna ผลงานการกำกับของเจ้าพ่อหนังแอ็คชั่น Luc Besson ที่มักจะเอานักแสดงสาวคนสวยมาเล่นบทบู๊ และในเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสาวสวยนามว่า Anna ที่ฉากหน้าเธอคือนางแบบสาวสวยระดับท็อปของวงการนางแบบ แต่ภายในเธอคือสายลับสาวฝีมือฉกาจที่ถูกฝึกมาอย่างดี
ตอนแรกสารภาพเลยว่า คิดไปก่อนแล้วว่ามันออกมาไม่เวิร์คหรอก มันก็แค่หนังสายลับดาดๆ ธรรมดา แต่พอได้ดูแล้ว เห้ย! สนุกเฉยเลย!
ซึ่งหนังสายลับเราเห็นแนวๆ นี้มาหลายเรื่องละ ถึงแม้มันจะมีการหลอกล่อคนดู มันก็ยังคงเดาง่ายอยู่ดี แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างและสนุกคือวิธีการเล่าเรื่องเนี่ยแหละ ในหนังเรื่องนี้มันจะมีการเล่าแบบย้อนไปมา ระหว่างปัจจุบันกับอดีต และหนังก็ใช้การเล่าแบบนี้เกือบทั้งเรื่อง ซึ่งน่าแปลกดีที่หนังเล่าแบบนี้แต่เรากลับไม่งง และเข้าใจได้ง่ายๆ เลย มันเล่าได้ดีมาก เรารู้สึกว่ามันเจ๋ง และเวิร์คมากๆ เลยแหละ เหมือนกับหนังพาเราไปจุดนึง และย้อนกลับไปเพื่ออธิบายในจุดนั้น และกลับมาเล่าต่อได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่รู้สึกสะดุด
ถึงแม้จะเป็นหนังสายลับดราม่า ทริลเลอร์ แอ็คชั่น แต่มันก็ไม่ได้มีความตรึงเครียดแบบหนังสายลับเรื่องอื่นๆ เพราะมันได้ใส่ความตลกขบขันออกมาอย่างละนิดอย่างละหน่อยให้ได้ยิ้มได้หัวเราะกัน หลายๆ ฉาก และที่สำคัญอารมณ์ขันในหนังเรื่องนี้มันไม่ได้ดูเกินไปจนทำให้เสียอรรถรสกับเรื่องราวเลยแม้แต่น้อย
มันไม่ใช่หนังสายลับแอ็คชั่นจ๋า หรือโลกนักฆ่าอย่าง John Wick ฉากแอ็คชั่นก็ไม่ได้เยอะ แต่มันก็มีฉากแอ็คชั่นที่น่าจดจำเหมือนกัน (เช่นฉากในร้านอาหารที่เราเห็นในตัวอย่าง) ในตัวหนังจริงมันส์มากและเท่กว่าเยอะ! แต่กลับกัน ฉากแอ็คชั่นตอนท้ายเรื่องทำออกมาไม่ค่อยดีเลย รู้สึกขัดๆ ยังไงก็ไม่รู้ เหมือนตัวเธอเหนื่อยยังไงยังงั้น ขนาดใช้มุมกล้องช่วยแล้วนะ แต่มันก็ดูคนละเรื่องกับฉากในร้านอาหารเลยจริงๆ แถมจุดที่โคตรขัดอีกอย่างคือ ไอ้พวกที่สู้กับนางเอกบางคนเป็นทหาร เป็นบอดี้การ์ด ยิงปืนไม่โดนนางเอกกันเลยสักนัดเนี่ยนะ!!! มันใช่หรอออออ!!!
และมันก็ไม่ใช่หนังสายลับจ๋าๆ เหมือนกัน ฉากการทำภารกิจโดยรวมถูกบอกเล่าอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่เป็นสายลับหญิงมันน่าจะมีอะไรที่มากกว่าการเอาปืนมายิงฆ่ากันหรือเตะต่อย เราแทบจะไม่ได้เห็นประโยชน์ของการเป็นสายลับหญิงหรือการใช้มารยาหญิงเท่าไหร่เลย เช่นพวกการเค้นข้อมูลจากปากเป้าหมาย หรือหลอกล่อให้ติดกับ นับว่าน่าเสียดายเหมือนกัน
ทางด้านการแสดงต้องขอชื่นชมเลยว่า Luc Besson เลือก Sasha Luss ได้เหมาะสมกับบทบาทมาก เธอสวยมว๊ากกกกก เสน่ห์ล้นโคตรรรร และหน้าตาดึงดูดสุดๆ (จริงๆ แล้วก่อนมาแสดงเธอก็เคยเป็นนางแบบมาก่อน) ใบหน้าเธอทั้งสวยและดูอันตรายไปพร้อมๆ กัน แต่น่าเสียดายที่การแสดงของเธอแทบไม่มีอะไรให้น่าจดจำนอกจากใบหน้าสวยๆ ของเธอสักเท่าไหร่ ไม่ได้แสดงแย่นะ แค่ธรรมดาและไม่น่าจดจำ แต่เป็นทางด้านการแสดงของ Helen Mirren, Luke Evans และ Cillian Murphy ที่ดูโดดเด่นและดีกว่าเยอะมากๆๆๆๆ
สรุปแล้ว Anna เป็นหนังที่สวยสะบัดสังหารสมชื่อจริงๆ ความสนุกของมันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแอ็คชั่นและการเล่าเรื่องที่ดูได้เพลินมาก ไม่น่าเบื่อเลยสักฉาก มีความกวน ความปั่น และบันเทิงจริงๆ เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์กับความสนุกเลยทีเดียว
Anna หนังสายลับสไตล์ Luc Besson
Luc Besson ถือเป็นผู้กำกับอีกคนที่มีสไตล์การทำหนังที่เฉพาะตัว เป็นของตัวเองมาก และมีผลงานหนังแอคชั่นสุดคลาสสิคมากมาย และหนึ่งในเรื่องที่ผมชอบมาตั้งแต่สมัยเด็ก คงหนีไม่พ้นเรื่อง The Fifth Element ภาพยนตร์แอคชั่น Si-Fi ที่เนื้อเรื่องในสมัยนั้นไม่ได้มีคนตอบรับดีๆ เท่าไหร่ แต่กลับกันมาในยุคปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกยกให้เป็นภาพยนตร์คลาสสิคของผู้กำกับคนนี้ไปแล้ว
สำหรับเรื่อง Anna นั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ อันนา เด็กสาวผู้ตกอับในชีวิต ถูกเลือกให้มาเป็นสายลับ KGB ให้กับทางรัสเซีย โดยภาระกิจล่าสุดที่เธอต้องแผงตัวไปทำนั้น หน้าฉากคือการเป็นซูเปอร์โมเดลในฝรั่งเศส และเมื่อเวลาผ่านไปเธออยากจะวางมือ เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองได้เป็นอิสระจากงานสายลับนี้ให้ได้
โดยรวมแล้วนั้นการเล่าเรื่องถึงแม้ว่าจะไม่ได้หวือหวา หรือแปลกใหม่อะไร แต่ด้วยความที่เป็นหนังของ Luc Besson กำกับ สไตล์การเล่าเรื่องจะออกไปทางคล้ายๆ หนังสายลับเก่าๆ คลาสสสิคที่ผู้กำกับคนนี้เคยทำ รวมไปถึงลักษณะการเล่าที่เรียกได้ว่าแหวกแนวมาก ถ้าจะให้ยกตัวอย่างแบบไม่สปอยเนื้อเรื่องคงบอกได้เพียงว่า หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องแบบเดินหน้า 2 ก้าว ถอยหลัง 1 ก้าว ยาวๆ ไปตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องเลย
ถึงกระนั้นด้วยความที่มีการเล่าเรื่องแบบนี้ถ้าเป็นหนังยุคก่อนปี 1980-1990 คงจะตื่นตาตื่นใจไม่น้อย แต่โดยรวมแล้วพอมันกลายมาเป็นหนังยุคนี้มันเลยทำให้ดูล้าสมัย และด้วยความที่มีการย้อนการเล่าเรื่องบ่อยมาก แทนที่หลังๆ ตัวหนังจะดูเท่ห์และให้ฉากการเล่าเป็นไฮไลท์ในการเฉลยปม กลับกลายเป็นยิ่งมีการเล่าย้อนตัวหนังโดยรวมดูตลงขึ้นมาทันทีเลยทีเดียว
สรุปแล้วส่วนตัวผมเองนั้นค่อนข้างเฉยๆ กับหนังเรื่องนี้มาก อาจเป็นเพราะการเล่าเรื่องสไตล์นี้ ในยุคปัจจุบันนี้อาจจะไม่ทันสมัย และดูแปลกใหม่อะไร แต่ถ้ามองว่าเป็นหนังย้อนยุคเมื่อ10-20 ปีก่อนคงสนุกขึ้นได้ไม่มากก็น้อย และไม่แน่ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า หนังเรื่องนี้อาจจะขึ้นหิ้งคลาสสิคอีกเรื่องก็เป็นได้ 7/10
สรุปผลวิจารณ์หนัง