Arctic - อย่าตาย
เข้าฉาย 9 พฤษภาคม 2562
ผู้ชม : 8,356
ผู้กำกับ
: Joe Penna
ความยาวหนัง
: 100.00
Text Size
หนัง Arctic หรือชื่อไทยว่า อย่าตาย เตรียมพบการแสดงที่หฤโหดที่สุดในชีวิตของ ‘แมดส์ มิคเคลเซน’ ในบทของชายที่ต้องรอความช่วยเหลืออย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางสภาพแวดล้อม ที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งตลอดทั้งปี ถึงแม้เขาจะพบกับช่วงเวลาของความหวัง ธรรมชาติอันโหดร้ายก็ได้ทำลายทางรอดของเขาอย่างไร้ความปราณี เขาจึงต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการรออยู่ในสถานที่ปลอดภัยต่อไป หรือ การออกเดินสู่หนทางที่เต็มไปด้วยอันตรายเพื่อไขว่คว้าความรอดด้วยตัวเองใน นรกแดนน้ำแข็งแห่งนี้
A man stranded in the Arctic after an airplane crash must decide whether to remain in the relative safety of his makeshift camp or to embark on a deadly trek through the unknown.
[รีวิว] Arctic - อย่าตาย
--- 6.5/10 ---
เป็นหนังที่ดูแล้วหนาว และชวนหาวด้วยเช่นกัน
เรามักจะเห็นหนังแนวเอาชีวิตรอดอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะติดเกาะ อยู่กลางทะเลกับฉลาม ติดซอกหิน ต้องเอาตัวรอดให้ได้จากสถานการณ์ต่างๆ และแน่นอนว่า Arctic ก็เป็นหนังแนวเดียวกันนั่นแหละ เพียงแต่สถานการณ์ต่างออกไป เพราะเรื่องนี้จะเล่าเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่เครื่องบินตก ต้องมาติดอยู่ท่ามกลางดินแดนน้ำแข็ง และภูเขาที่รายล้อมไปด้วยหิมะ
หนังประเภทนี้มักจะใช้นักแสดงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และเรื่องนี้ก็ใช้แค่ 2 คนหลักๆ แต่คนที่รับหน้าที่แสดงหลักจริงๆ ทั้งหมดก็คือ Mads Mikkelsen (อีกคนรับหน้าที่นอนเฉยๆ 555) ที่ในเรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นงานหนักสำหรับเขามากๆ เพราะเขาต้องรับหน้าที่แบกหนักไว้ทั้งเรื่อง ถึงแม้บทพูดจะน้อยมาก หรือเรียกได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่เขาต้องแสดงออกผ่านสีหน้าและท่าทางแทน ซึ่งต้องขอชมจริงๆ ว่าในส่วนนี้เขาทำได้ดีเลยทีเดียว
แต่หนังมันดันบอกเล่าอะไรกับคนดูน้อยมาก เราแทบจะไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ และทำไมถึงรู้วิธีการเอาตัวรอด บลาๆ และหนังผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังไม่บอกเราอยู่ดี จริงๆ เราได้เพียงแต่เพียงเดาว่าเครื่องบินตก เพราะเขาอาศัยอยู่ในซากเครืองบินเท่านั้น นอกนั้นก็ไม่รู้อะไรเลย แถมเขายังเดินไปหลุมศพ ซึ่งหนังก็ไม่ได้บอกเราอีกเช่นกันว่าหลุมศพนั้นเป็นของใครมาจากไหน
เป็นหนังชั่วโมงครึ่งนิดๆ ที่เรารู้สึกว่ามันนานมาก หนังดำเนินเรื่องได้ชวนง่วงสุดๆ ปกติหนังแนวนี้มันจะมีจังหวะตื่นเต้น ลุ้นเยี่ยวเหนียว เสียววาบๆ ไปกับตัวละคร แต่ในเรื่องนี้ไม่มีฉากให้ตื่นเต้นอะไรแบบนั้นเลย ถึงมีก็แทบจะไม่ลุ้นอะไรขนาดนั้น จึงทำให้มันกลายเป็นหนังท่ามกลางความหนาวที่ชวนหาวเกินไปสักหน่อย
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ในส่วนองค์ที่สามของหนัง ค่อนข้างทำออกมาได้ดีขึ้น พร้อมกับตอนจบที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว กับคำถามปลายเปิดให้กับโชคชะตาของตัวลคร
สรุปแล้ว Arctic เป็นหนังเอาตัวรอดที่ค่อนข้างน่าเบื่อกับการเดินเรื่องไปสักหน่อย แต่ยังมีดีที่นักแสดง และการถ่ายทำ ที่มีทัศนียภาพที่งดงาม บวกกับเสริมตัวละครให้เด่นด้วยการให้เขาใส่เสื้อสีแดงตัดกับสีหิมะ นับว่าเป็นงานภาพที่ใช้ได้เลยทีเดียว
สรุปผลวิจารณ์หนัง