แสงกระสือ - Inhuman Kiss
หนัง Saeng-Krasue หรือชื่อไทยว่า แสงกระสือ จำ “จูบแรก” ของคุณได้ไหม? เด็กสาวแรกรุ่นในหมู่บ้านอันห่างไกล ค้นพบว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่มนุษย์เหมือนคนอื่น แต่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าพันธุ์เก่าแก่ในตำนานที่ถ่ายทอดกันผ่านทางน้ำลาย มีเพียงเด็กหนุ่มคนเดียวในหมู่บ้านที่รู้ความจริง และพยายามปกป้องเธอจากการไล่ล่าของชาวบ้านที่หวาดกลัวผีกระสือ ความใกล้ชิดของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรัก ขณะที่อสูรกายอีกสายพันธุ์หนึ่งก็ต้องการหัวใจของเธอเพื่อความเป็นอมตะ หนทางที่เธอจะอยู่รอดคือหนีออกจากหมู่บ้าน หรือการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ตามล่า... แล้วเขาจะปกป้องเธอได้หรือไม่ นำโดย “โอบ” โอบนิธิ “มินนี่” ภัณฑิรา “เกรท” สพล “เอ็ม” สุรศักดิ์ กำกับภาพยนตร์ โดย “โดม” สิทธิศิริ 1 ในผู้กำกับ Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย #แสงกระสือ #InhumanKiss 14 มีนาคมนี้ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
[รีวิว] - แสงกระสือ
--- 8/10 ---
เห้ย...เจ๋งอะ
หนังผีพล็อตคลาสสิค ไม่น่ากลัว แต่โรแมนติค และน่าประทับใจ!
ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นวันครบรอบกระสือไทยหรืออย่างไร ถึงได้มีหนังกระสือเข้าติดๆ กันถึงสองเรื่องเลยทีเดียว นั่นคือเรื่องนี้ “แสงกระสือ” และอีกเรื่อง “กระสือสยาม” ซึ่งการโปรโมทต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จะเห็นได้ว่า กระสือสยามโปรโมทได้เยอะมาก อาจจะเพราะได้ มิวนิค BNK ในใจก็เลยหวั่นๆ ว่าเรื่องแสงกระสือกระแสเงียบๆ อาจจะเป็ยแค่หนังผีธรรมดาเรื่องนึง แต่พอได้ดูแล้วน่าปรบมือให้กับหนังไทยเรื่องนี้จริงๆ
หนังจะบอกเล่าเรื่องราวแบบคลาสสิคเกี่ยวกับกระสือเหมือนที่เราคุ้นเคยกัน กับเรื่องราวที่มีไก่ วัว ควาย โดนกระสือกิน มีกระสือในหมู่บ้าน คนออกตามล่าหาความจริง แต่มันเพิ่มเติมมาด้วยความโรแมนติคกับเรื่องราวความรักต่างเผ่าพันธุ์ระหว่างกระสือกับมนุษย์ ที่ถึงแม้จะคลาสสิคแต่ก็ยังมีความร่วมสมัยเข้ามาด้วย
สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือมีความกล้าที่จะแหก แหวกความเป็นหนังผีที่เคยมีมา ด้วยการนำเอาเรื่องความรักสามเศร้า ความรักต่างเผ่าพันธุ์ เข้ามาปนกับหนังผี ที่ฉากโรแมนติคไม่ได้หวานจนเลี่ยน ใส่มาแบบพอดิบพอดี และทำได้ดีมาก ดีใจที่หนังเป็นแนวนี้ ไม่ใช่เอะอะก็จะทำแต่หนังผีตุ้งแช่อย่างเดียว ถ้ามันทำออกมาเป็นแนวนั้นมันก็คงน่าเอือมไม่ใช่น้อย และยังมีฉากท้ายๆ เรื่องที่แบบ ถ้าใครได้ดูแล้วต้องอุทานเหมือนเราแน่ๆ “เห้ย” ตกใจในความกล้าทำ กล้าเล่น และมันออกมาดีด้วย! นับว่าเจ๋งมากจริงๆ บวกกับซาวด์ประกอบที่ทำออกมาได้โคตรดีตลอดทั้งเรื่องเลย
ลืมหนังกระสือเก่าๆ ที่เคยดูไปได้เลย หนังไม่ได้เสียเวลาเล่าเรื่องต้นกำเนิดของกระสืออย่างที่ผ่านๆ มา ไม่ได้น่ากลัว หนังดำเนินเรื่องให้คนดูสนใจและน่าติดตาม มีปริศนาให้ขบคิดนิดหน่อยอยู่ตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่ดำเนินเรื่องเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และจังหวะหนังดีมาก หนังฉลาดที่ไม่ต้องให้คนดูเสียเวลาเดาให้ยากว่าใครเป็นกระสือ มันไม่ได้โฟกัสที่การตามหาตัวจริงว่า “กระสือเป็นใคร” แต่จะเน้นหนักไปพาร์ทดราม่ามากกว่าว่าจะ “ใช้ชีวิตยังไงในฐานะกระสือ” พร้อมๆ ไปกับเรื่องราวความรักสามเศร้า ที่ก่อนดูก็คิดนะว่าหนังจะทำยังไงให้เราอินกับเรื่องราวความรักของคนกับกระสือ แต่หนังมันทำได้! ถึงแม้หนังจะมีซัพพล็อตเยอะ แต่ก็แบ่งสัดส่วนมาได้พอดี มีน้ำหนักกับทุกส่วนที่หนังใส่มาได้ลงตัวสุดๆ อีกทั้งบรรยากาศในเรื่องนี้มีเสน่ห์มาก ทั้งการจัดไฟ แสง สี เรียกได้ว่าคุมโทนและมูดของหนังได้เป็นอย่างดี
ทางด้านการแสดงต้องปรบมือให้ทั้ง 3 นักแสดงเลย โอบ-โอบนิธิ ในบทของ น้อย ที่ต้องบอกว่าการของเขายอดเยี่ยมจริงๆ ดูเป็นธรรมชาติ และซีนดราม่าก็แสดงออกมาได้ถึงเช่นกัน ตามมาด้วย เกรท-สพล ในบทของ เจิด ก็เล่นได้ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ที่สำคัญ มินนี่-ภัณฑิรา ในบทของ สาย ที่นอกจากการแสดงที่ยอดเยี่ยมในทุกส่วนของเธอแล้ว เธอยังเป็นกระสือที่น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกถึงมากที่สุด อีกทั้งเรื่องนี้ยังรายล้อมไปด้วยนักแสดงที่เล่นดีกันทุกคนเลยจริงๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม หนังยังมีบางจุดที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างกับบางเหตุการณ์ในหนัง และถึงแม้ CG โดยรวมจะดูดี แต่ก็มีบางฉากที่ยังไม่เนียน และดูลอยมากๆ อยู่เหมือนกัน
สรุปแล้ว แสงกระสือ เราชอบเลยแหละ เป็นหนังผีไทยเรื่องนึงที่น่าประทับใจ และไม่ผิดหวังเลย ชอบในความกล้าเล่น กล้าคิด กล้าทำ ของเรื่องนี้มาก หมายรวมไปถึงซาวด์ประกอบที่ยอดเยี่ยมด้วย อยากให้ลองไปดูกันนะครับ หนังไทยไม่ได้แย่เสมอไปนะ
สรุปผลวิจารณ์หนัง
แสงกระสือ Inhuman Kiss เปิดตำนานกระสือสไตล์ใหม่
เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้มีหนังผีกระสือฉายโรงเลย ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานฉายทางทีวีซะมากกว่า พอเอาเข้าจริงกระสือก็ดันมาพร้อมๆ กัน 2 เรื่องในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น แสงกระสือ และ กระสือสยาม
จริงๆ แล้วโปรเจคแสงกระสือนี้เป็นผลงานที่เรียกได้ว่าถ่ายทำเสร็จเป็นปีแล้วก็ว่าได้ แต่กว่าจะเสร็จสิ้นทุกกระบวนความจนได้ฉาย ก็ข้ามปีกันเลยทีเดียว ส่วนตัวผมชอบนะที่หนังไทยให้ความสำคัญกับงาน Post-Production ให้เวลาในการทำงานขั้นตอนสุดท้ายให้ออกมาดีที่สุดไม่ต้องเร่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังที่ต้องใช้ CG เยอะๆ แบบนี้ ผลงานจะได้ออกมาไม่สุกเอาเผากิน
หลังจากได้ดูหนังทั้งเรื่องแล้ว เรียกได้ว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ตัวหนังเองเล่าเรื่องได้ทันสมัย วางบทและปมต่างๆ ของตำนานกระสือได้ดี มีการใช้มุมมองใหม่ในการตีความจากคำว่าผี เป็นปีศาจที่ต้องอยู่ร่วมกับมนุษย์ และฉาบบรรยากาศไปด้วยความรักของทั้ง 3 ตัวละครหลัก อารมณ์ทีได้ออกมาราวๆ Twilight เลยทีเดียว
อย่างแรกที่ต้องชื่นชมเลยคือ 3 นักแสดงหลักอย่างน้องมินนี่ เกรท และโอบ เล่นได้เข้าถึงตัวละคร และช่วยกันทำพาหนังทั้งเรื่องได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบเลยจริงๆ เรียกง่ายๆคือ Cast เรื่องนี้ปังจริง คนเล่นดีจริง อย่างที่สองที่ต้องชมนั่นก็คือ งานภาพ การถ่ายทำ ดีไซน์ฉากต่างๆ ออกมาสวยงาม ถ่ายภาพสวยงามมาก เป็นอีก 1 หัวใจหลักของหนังเรื่องนี้ที่ต้องชมจริง
ตัวบทหนังเองเอาจริงๆ มันก็ยังพูดคำว่า Perfect ได้ไม่เต็มปาก เพราะในความที่มันเป็นหนังไทย มันจะต้องมีจุดที่ขาดๆ เกินๆ แทรกเข้ามาบ้างประปราย แต่โดยรวมของหนังทั้งเรื่องแล้ว สามารถทำให้เรามองข้ามจุดบอดต่างๆออกไปและสนุกไปด้วยกันกับหนังได้ตลอดทั้งเรื่องจริงๆ
สรุปแล้ว แสงกระสือ ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกของปี 2019 ที่น่าจับตามองทั้งในด้านคุณภาพนักแสดง คุณภาพProduction ความตั้งใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ สะท้อนออกมาในหนังทำให้คนดูอินและสนุกไปกับมันได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว 8/10
ดีงาม ประทับใจ เพอเฟกต์
น่าจะเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์หนังไทยเลยสำหรับเรื่องแสงกระสือ คือรู้สึกประทับใจตั้งแต่เริ่มเรื่องจนดูจบเลย เป็นหนังที่ให้รายละเอียด ให้ความหมายและถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ มีความผสมผสานระหว่างตำนานท้องถิ่นและความสากลเชิงการถ่ายทอดในภาพยนตร์ เหมือนดูหนังฮอลลีวู้ดที่เป็นแนวหนังผีหมู่บ้านล่าแม่มด หรือหนังแวมไพร์ มนุษย์หมาป่า แต่เป็นธีมกระสือในหมู่บ้านนอกเมืองห่างไกลในเมืองไทย มีความแปลกใหม่ในประสบการณ์การดูมากๆ หนังมีมิติการเล่าในแต่ละตัวละครค่อนข้างกำลังดีเลย เล่าเรื่องปูมหลัง เล่าวิธีการกระทำ วิธีการคิด เล่าความสัมพันธ์ให้ข้อมูลคนดูให้ได้คิดต่อได้ดี คือให้ข้อมูลมากพอประเมินนึงและเปิดให้ตีความ ให้คิดต่ออีก ที่สำคัญกว่าคือการถ่ายทอดอารมณ์ทำได้ดีมากๆ แทบเข้าใจความรู้สึกของทุกตัวละครได้ดีเลย
การแสดง
อิ่มเอม...กำลังดีเลย ทุกคนนำพาหนังไปได้อย่างสมูทมากๆ ไม่ขาดไม่เกิน ส่วนตัวคิดว่าแคสนักแสดงมาดีมาก นักแสดงนำทั้งสามดูงามกำลังดีเลย การแสดงก็เป็นการแสดงภาพยตร์ ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป นำพากระสือมาสิงร่างได้อารมณ์จริงๆ ฉากรักดูรักจริง เศร้าดูเศร้าจริง เป็นห่วงกันจนรับรู้ได้ราวกับไปเป็นสักคนในนั้นด้วยเองเลยจริงๆ
งานสร้าง
ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคืองานภาพและแสง เป็นอะไรที่เหนือมาตรฐานหนังไทยหลายๆ เรื่องเลย คืองานภาพสวยมาก ดีมากๆ สื่อสารเรื่องราวและอารมณ์ได้ดีมากๆ ดูแล้วสุนทรีย์กับภาพประมาณนึงเลย นอกจากงานภาพงานซีจีก็เป็นอะไรที่เรียกว่าเป็นจานหลัก แทบเป็นพระเอกเลย หนังดีไม่ดี ซีจีมีผลมากเลย แต่เรื่องนี้งานดีมาก ผีดูลุคอินเตอร์มาก ออกแบบมาได้ดีมาก (ไม่แพ้นาคีเลย) แลดูให้อารมณ์เหมือนดูหนังผีฝรั่งพวกคอนเจอริ่งที่มีซีจีคุณภาพนั้นเลย งานฉากและเสื้อผ้าดูสมูทกับเรื่องมาก ไม่ขัดหูขัดตา มีความมานะมานีปิติชูใจ ให้อารมณ์นั้นเลย บ้านเรือนร่องสวนไร่นาก็ดูน่าเชื่อถือว่าเป็นสถานที่ที่เหล่าตัวละครอยู่อาศัยจริง ไม่ได้ดูเป็นฉากแห้งๆ ดูมีรายละเอียดมีดีเทล ที่เห็นจะไม่โดดเด่นออกมาจะเห็นจะมีแค่เพลงที่ผสมผสานกลมกลืนแต่ไม่โดดเด้งออกมา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าแย่อะไรเลย ทุกอย่างล้วนผสมผสานออกมาสมบูรณ์แบบมากๆ
เป็นหนังที่เหมาะกับทุกคนจริงๆ วัยรุ่น แฟนกันพากันไปดู ตอนไปดูเห็นผู้ใหญ่ก็ไปดูด้วยหลายคน แต่ก็ยังเห็นโรงหนังยังโล่งๆอยู่ก็แอบหวั่นๆ อยากให้มาสนับสนุนเรื่องนี้กันเยอะๆ หนังไทยดีๆแบบนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะสนับสนุน คนดูได้ความบันเทิงไปเต็มๆ คนสร้างได้กำลังทุนกำลังใจที่จะทำหนังดีๆไว้อีกต่อไป ยังไงขอฝากแสงกระสือไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนไทยด้วยจริงๆ🙏
- เด็กเดินตั๋ว -
สรุปผลวิจารณ์หนัง