211 - โคตรตำรวจอันตราย
เข้าฉาย 29 พฤศจิกายน 2561
ผู้ชม : 8,027
ผู้กำกับ
: York Alec Shackleton
ความยาวหนัง
: 86.00
Text Size
หนัง 211 หรือชื่อไทยว่า โคตรตำรวจอันตราย อย่าท้าทายอำนาจของตำรวจ เพราะพวกเขา "โคตร" อันตรายกว่าที่คุณคิด เตรียมพบภาพยนตร์เรื่องใหม่จากนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ 'นิโคลัส เคจ' กับหนังที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นการผสมผสานระหว่าง Black Hawk Down และ End of Watch ผลงานการกำกับโดย 'ยอร์ค อเล็ค แช็คเกิลตัน' ในหนังตำรวจเดือด บู๊ระอุ '211 โคตรตำรวจอันตราย' ภาพยนตร์สร้างจากเหตุการณ์จริงสุดระทึกที่ยาวนานและนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์กรมตำรวจอเมริกา เมื่อนายตำรวจที่กำลังจะเกษียณ ไมค์ แชนด์เลอร์ (นิโคลัส เคจ) และคู่หูของเขา ต้องรับมือกับกลุ่มโจรติดอาวุธร้ายแรงที่ก่อเหตุปล้นธนาคาร พร้อมกับตัวประกันอีกนับสิบ ผลงานอำนวยการสร้างสุดมันส์ สุดระห่ำ โดยโปรดิวเซอร์ขาบู๊จาก The Expendables และ London Has Fallen
[รีวิว] - 211 - โคตรตำรวจอันตราย
--- 1.5/10 ---
ห่วยที่สุดในปี 2018
“ฉันมาทำอะไรที่นี่...นี่มันอะไรกัน!!!”
หนังที่จ่าหน้าชื่อดาราที่หลายต่อหลายคนคุ้นเคยมาเลย อย่าง Nicolas Cage ดารารุ่นใหญ่ที่เคยโด่งดังในอดีต โดยเฉพาะแฟรนไชส์ National Treasure เลย ก่อนจะไปรับเล่นหนังเกรดบีซะหลายเรื่องเลย การกลับมาในครั้งนี้เหมือนเล็งเห็นแสงรำไร แต่พอได้ดูแล้ว แสงนี่ดับวูบในทันที หมดยุคป๋าจริงๆ แล้วหล่ะ กู่ไม่กลับแล้ว หนังไม่ได้ใกล้เคียงกับชื่อไทยเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่อันตรายคืออันตรายต่อคนดูเนี่ยแหละ
หนังว่าด้วยเรื่องของตำรวจวัยเกษียณ ที่ดันบังเอิญซวยมาเจอเหตุการณ์ปล้นธนาคาร และซวยยิ่งกว่านั้นเมื่อเขากำลังรับผิดชอบเด็กที่ถูกเข้าโครงการเพราะทำความผิดบางอย่างให้นั่งติดรถตำรวจมาด้วย เท่านั้นยังพอเด็กยังติดอยู่ท่ามการเหตุการณ์ยิงกันระหว่างตำรวจกับผู้ร้ายอีกด้วย ทำให้พระเอกอย่าง Cage ต้องรีบคลี่คลายปัญหานี้ลงให้โดยเร็ว
หนังเริ่มเรื่องด้วยเหตุการณ์ดูยิ่งใหญ่ระดับชาติ ยังกะสงคราม ถึงขนาดมีตำรวจสากลเข้ามาช่วย เปิดเรื่องด้วยการตั้งประเด็นข้อสงสัยเต็มไปหมดว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องไปที่นั่น เต็มไปด้วยคำว่าทำไมเต็มไปหมด ไร้เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เหล่าโจรดูมีเหตุผลในการปล้น พูดซะดูยิ่งใหญ่ มีแบบแผน เท่ซะไม่มี แต่พอปล้นจริงไร้ซึ่งชั้นเชิงในทุกภาคส่วน กลายเป็นแค่โจรปล้นแบงค์ดาดๆ ธรรมดาๆ เท่านั้น
แถมหนังยังมีประเด็นเยอะเสียเหลือเกิน เยอะมากเกินความจำเป็น ทั้งเรื่องปัญหาของเด็กผิวสี เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของกลุ่มโจร ประเด็นเรื่องพ่อลูกของพระเอก ประเด็นเรื่องลูกพระเอกกับแฟนหนุ่มที่เป็นตำรวจ ประเด็นเรื่องพระเอกสูญเสียภรรยา ด้วยประเด็นที่เยอะแยะเหล่านั้น มันกลับทำให้เรื่องราวสะเปะสะปะ ไม่เน้นสักส่วน อ่อนในทุกประเด็น หนังไม่ชูประเด็นไหนสักประเด็นให้เรา จนเราไม่สามารถจับได้เลยว่าหนังมันจะสื่อถึงประเด็นไหนกันแน่ ไม่คลี่คลายในแต่ละประเด็นอีกต่างหาก
ในหนังเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ปล้นธนาคารที่ใช้กระสุนเปลืองมาก เรียกได้ว่ามียิงกันแทบตลอดเวลา ยิงกันหมดไปเป็นคลังแสง แต่ปัญหาคือยิงกันไม่โดน! แม้กระทั่งหลายๆ เหตุการณ์ที่มันควรจะยิงโดน ยืนกันที่โล่งๆ ยิงกันไม่โดน ทั้งหน่วยสวาท ทั้งตำรวจ รวมไปถึงพระเอก ยิงกันไม่โดนได้ยังไง! ตอนจบหน่วยสวาทหรือจบตำรวจเขาไม่สอนยิงปืนกันหรือยังไงห๊าาาาา!!!
แน่นอนว่าหนังแนวนี้ต้องมีพวกหน่วยสไนเปอร์ และใช่ เรื่องนี้ก็มี แต่มุมกล้องแย่มาก เหมือนเอาภาพ .png จาก Google มาแปะลงบนเฟรม บวกด้วยมุมภาพที่ไม่น่าจะเป็นมุมมองสไนเปอร์เลยแม้แต่น้อย
ถ้าคิดว่านั่นแย่แล้ว บทพูดในเรื่องนี้แย่ยิ่งกว่า เหมือนยืนท่องบท ไม่เหมือนแสดงเลย ตัวละครสองตัวพยายามต่อบทเดียวกันด้วยประโยคเดียวกัน ที่ต้องมีการขัดหรือโผงผางเถียงขึ้นมา แต่เหมือนอีกฝ่ายรออีกฝ่ายเถียงเสียมากกว่า ไม่เหมือนบทพูดเลยแม้แต่น้อย ไม่ธรรมชาติแบบสุดๆ
หนังไม่ได้มีฉากให้ดารารุ่นเก๋าอย่าง Cage ได้โชว์ฝีมือการแสดงอะไรเลยแม้แต่น้อย ถึงบทจะบอกว่าเป็นตำรวจรุ่นเก๋า คาดหวังไว้ว่าจะได้เห็นเหมือนป๋า Liam Nelson แต่ก็ไม่ได้มีฉากเท่ๆ โชว์เก๋าเลยสักฉากเดียว นับว่าน่าเสียดายอย่างที่สุด และไม่น่าให้อภัยจริงๆ
สิ่งที่พอจะชอบของหนังเรื่องนี้เลยคือความโหดของโจร คือดุจริง ยิงเป็นยิง ฆ่าเป็นฆ่า และชอบซีนอารมณ์ ซีนเดียวของป๋า Cage นั่นแหละ สรุปแล้วเป็นช่วงเวลาเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่งที่ยาวนานมาก และน่าเสียดายแบบสุดๆ ยกให้เป็นหนังยอดแย่แห่งปีเลย
สรุปผลวิจารณ์หนัง