0 Kursk+-+%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2

Kursk - หนีตายโคตรนรกรัสเซีย

เข้าฉาย 10 มกราคม 2562
ผู้ชม : 16,231
ผู้กำกับ : Thomas Vinterberg
ความยาวหนัง : 120.00
Text Size

หนัง Kursk หรือชื่อไทยว่า หนีตายโคตรนรกรัสเซีย สร้างจากเหตุการณ์เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ K-141 ระเบิดและจมลงสู่ก้นทะเลแบเรนท์สเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2000 เป็ยเหตุให้ลูกเรือชาวรัสเซียเสียชีวิต 118 ศพ ลูกเรือที่รอดชีวิตจากการระเบิด 23 คน ต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดกันเอง นาทีต่อนาทีก่อนที่อ็อกซิเจนจะหมด เพราะรัฐบาลรัสเซียยังปฏิเสธความช่วยเหลือจากรัฐบาลนานาประเทศ ทำให้ครอบครัวลูกเรือต้องต่อสู้กับระบบราชการเพื่อช่วยชีวิตคนที่พวกเขารักถึงแม้โอกาสมันจะริบหรี่แค่ไหนก็ตาม


The film follows the 2000 K-141 Kursk submarine disaster and the governmental negligence that followed. As the sailors fight for survival, their families desperately battle political obstacles and impossible odds to save them.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

15 มกราคม 2562 14:54:02

[รีวิว] - Kursk - หนีตายโคตรนรกรัสเซีย
--- 6/10 ---
หนังสร้างมาจากเรื่องจริงที่น่าตื่นเต้น
แต่น่าเสียดาย ที่ทำมาได้ไม่อินเท่าที่ควร

ล่าสุดที่เราได้เห็นหนังเกี่ยวกับเรือดำน้ำก็คือเรื่อง Hunter Killer ที่เป็นหนังแอ็คชั่นแบบเต็มสูบ ซึ่งมาในเรื่องนี้ Kursk จะไม่ใช่หนังแอ็คชั่นแต่อย่างใด หากแต่มันคือหนังดราม่า เอาชีวิตรอดในเรือดำน้ำต่างหาก ซึ่งมันสร้างมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 2000

หนังว่าด้วยเรื่องของการอัปปางของเรือดำน้ำ K-141 หรือ Kursk ที่เกิดเหตุระเบิดภายในเรือขึ้น ทำให้เรือต้องจมลงสู่ก้นทะเล เหล่าลูกเรือก็ต้องหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ พร้อมกับสถานการณ์บนบกของรัสเซียที่ตึงเครียด ที่พยายามจะช่วยเหลือพวกเขา แต่ก็ปฏิเสธการช่วยเหลือจากนานาชาติโดยสิ้นเชิง

หนังมีเทคนิคการถ่ายทำที่เจ๋งดี เพราะมีการเปิดเรื่องด้วยการใช้ขนาดภาพแบบ 4:3 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิด ผูกพัน ของตัวละครต่างๆ ทั้งเหล่าลูกเรือ และครอบครัว แต่พอหนังเล่าไปสักพัก ที่ต้องเป็นฉากเรือดำน้ำ หนังกลับขยายขนาดภาพให้กว้างขึ้นเป็น 2.35:1 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความห่างไกล อ้างว้าง ของทะเล และหนังก็ค่อยกลับมา 4:3 ในตอนท้ายเรื่อง เผื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ส่งผลต่อเหล่าครอบครัวต่อไป

หนังเปิดเรื่องด้วยการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเหล่าเพื่อนๆ และครอบครัว ที่เป็นลูกเรือของ Kursk อย่างผิวเผิน จนทำให้เราไม่ได้รู้จักภูมิหลังของแต่ละตัวละครสักเท่าไหร่ แถมยังทำให้เราไม่ผูกพันธ์กับตัวละครใดๆ ในเรื่องสักเท่าไหร่เลย รวมถึงฉากดราม่าของหนังทหารซะส่วนมาก เวลาผู้ชายต้องออกไปรบ ไปออกเรือ ก็ต้องมีซีนดราม่าทะเลาะหนักๆ กับครอบครัว แต่หนังเรื่องนี้ไม่มี ถ้ามันมีหนังคงจะสร้างจุดดราม่า ให้คนดูได้เอาใจช่วยตัวละครมากกว่านี้เป็นแน่แท้

เหตุการณ์ในเรือดำน้ำยังทำออกมาได้พอใช้ได้ และมันก็ไม่มากพอที่จะทำให้กระทบอารมณ์คนดูได้เท่าไหร่นัก หนังมีฉากชวนให้กดดันกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บของลูกเรือ ซึ่งนักแสดงก็ถ่ายทอดมันออกมาได้ดีพอสมควร รวมถึงฉากดำน้ำไปหาของที่ชวนให้ลุ้นระทึก กดดันสุดๆ (และนั่นก็เป็นฉากเดียวที่รู้สึกลุ้นที่สุดในหนังแล้ว) ซึ่งด้วยเหตุนั้น ทำให้เหตุการณ์ในเรือดำน้ำ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดูเป็นเหตุการณ์ที่อ่อนที่สุดในเรื่องไปซะเลย

มาถึงเหตุการณ์บนบกของครอบครัวกันบ้าง ชอบที่หนังพยายามสื่อให้เห็นว่าเหล่าครอบครัวลูกเรือเหล่านั้นจะทำยังไงเมื่อรู้ว่าสามีของตนติดอยู่ในเรือดำน้ำที่อัปปาง ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้ทำได้ดีกว่าเหตุการณ์ในเรือดำน้ำเสียอีก แต่อย่างที่บอก ถ้าหนังปูความสัมพันธ์และพาร์ทดราม่าหนักๆ ของครอบครัวให้มากกว่านี้ เราจะอินกว่านี้มาก

รวมไปถึงเหตุการณ์ทางการเมืองของรัฐบาลรัสเซียที่ปฏิเสธทุกการช่วยเหลือของนานาชาติ แต่ก็มีการยื่นมือมาช่วยของเพื่อนเก่าจากอังกฤษ ที่ได้ Colin Firth มาแสดงบทนี้ นั่นทำให้เขาเหมือนตัวประกอบตัวนึงที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำในหนังเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นจุดที่น่าเสียดายมากๆ เพราะเขาไม่ได้โชว์ฝีมือในการแสดงสักเท่าไหร่เลย

แต่หนังก็ยังมีฉากท้ายเรื่องที่ชวนกระอักกระอ่วนเช่นกัน ซึ่งฉากนั้นเรียกได้ว่าเฉียบเลยทีเดียว

สรุปแล้ว Kursk เป็นหนังหนีตายในเรือดำน้ำ ที่ไม่ค่อยจะระทึกสักเท่าไหร่ และเราก็ไม่อินกับมันเลยสักนิดเดียว ดราม่าก็ไม่ถึง นับว่าน่าเสียดายมากๆ

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
5.5
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
5.5
ฝีมือนักแสดง
6
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
6
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)