On The Basis of Sex - สตรีพลิกโลก
เข้าฉาย 24 มกราคม 2562
ผู้ชม : 9,500
ผู้กำกับ
: Mimi Leder
ความยาวหนัง
: 120.00
Text Size
หนัง On the Basis of Sex หรือชื่อไทยว่า สตรีพลิกโลก On the Basis of Sex นั้นจะเล่าเรื่องในช่วงที่ รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ยังเป็นอัยการไฟแรงและคุณแม่มือใหม่ เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายในการต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียม เมื่อรูธต้องทำคดีภาษีร่วมกับสามีของเธอ อัยการ “มาร์ติน กินส์เบิร์ก” (อาร์มี แฮมเมอร์) ซึ่งเธอรู้ว่าคดีนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอาชีพและมุมมองที่ศาลมีต่อความเท่าเทียมกันเรื่องเพศ
The story of Ruth Bader Ginsburg, her struggles for equal rights and what she had to overcome in order to become a U.S. Supreme Court Justice.
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
ความคิดเห็น (0)
GUEST
ปุย
28 มกราคม 2562 17:16:31
RBG คือฮีโร่อิน คนนึงเลย นางอายุ 84 แล้ว ยังไปทำงาน เป็น ผู้พิพากษา Supreme Court Justice จนกระทั่งบัดนี้
30 มกราคม 2562 10:28:27
นี่แหละฮีโร่ในชีวิตจริง !
[รีวิว] On the Basis of Sex - สตรีพลิกโลก
(เข้าฉายจริง 24 มกราคม 2562)
--- 9.5/10 ---
ถ่ายทอดชีวิตของวีรสตรีได้อย่างน่าทึ่ง
“หนังสนุก ดุเด็จ เผ็ดมันส์ เต็มไปด้วยประโยคสนทนาที่เชือดเฉือนและเฉียบคม”
ไม่ใช่แค่เราแน่ๆ ที่คิดไปว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเรื่อง 18+ หรือเรื่องอย่างนั้น แต่มันไม่ใช่เลย มันคือเรื่องของผู้หญิงนามว่า Ruth Bader Ginsburg ที่รับบทโดย Felicity Jones กับเรื่องราวของทนายความหญิงผู้คิดเปลี่ยนโลก ต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียมกันของชายและหญิง ได้อย่างสนุก ไม่น่าเบื่อเลย
สิ่งที่เจ๋งมากๆ ที่เราเห็นตั้งแต่เริ่มยันจบก็คือ Tone และ Mood ของหนัง ที่คุมเอาไว้อย่างดี เริ่มตั้งแต่การแต่งตัวของ Ruth ที่ตั้งแต่เริ่มเรื่อง เธอจะใส่ชุดที่สีโดดเด่น แตกต่างจากคนอื่นๆ เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่าง แปลกแยกจากผู้ชาย ให้เห็นถึงสภาพสังคมในยุคตอนนั้น และในตอนจบเธอจะใส่ชุดสีเดียวกันเพื่อบ่งบอกถึงความเท่าเทียมกันในเพศสภาพ เท่านั้นยังไม่พอ หนังแต่ละองค์ยังคุมโทนของภาพตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย นับว่างานด้านภาพสุดยอดจริงๆ หนังยังใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ ที่บ่งบอกถึงสภาพสังคมในยุคนั้นๆ เช่นการที่คนผิวสีทำชนชั้นแรงงาน ผู้หญิงด้อยกว่า ชายเป็นใหญ่ อะไรทำนองนั้น
สิ่งที่ชื่นชอบมากๆ ในหนังเรื่องนี้เลยคือบทสนทนา ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นบทสนทนาที่บั่นทอนสภาพความเป็นเพศหญิงมากๆ ตั้งแต่เริ่มเรื่องยันจบเรื่อง จะมีประโยคที่ชวนจุกอยู่เต็มไปหมด เช่นการใช้คำว่า “บุรุษฮาร์วาร์ด” ในครั้งแรกที่นางเอกได้เข้าไปเรียน เราจะได้เห็นประโยคดูถูก เหยียดหยาม และข่มความเป็นเพศหญิงตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะฉากในชั้นศาลตอนท้ายเรื่อง มันดีมากจริงๆ นี่เราทั้งลุ้น สนุก ตื่นเต้น มีอารมณ์ร่วมยังกะเข้าไปนั่งในศาลด้วยเลย คำพูดแต่ละคำพูดที่ต่างฝ่ายต่างพูดออกมาเฉียบคมมาก! ยกประโยคจากในตัวอย่างมา “ในเคยมีคำว่า ผู้หญิง ปรากฏในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา” นาง Ruth จึงตอกกลับไปว่า “เช่นเดียวกับคำว่า เสรีภาพ ค่ะท่าน” บอกเลยว่าขนลุก!!!
ทางด้านนักแสดงก็ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีจริงๆ เริ่มที่นางเอก ด้วยความที่ Felicity Jones นางเป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กมาก จึงดูน่าสงสาร และยิ่งส่งถึงความไม่เท่าเทียมกันเข้าไปใหญ่ เธอสามารถถ่ายทอดบทบาทของทนายสาวมั่น แน่วแน่ ไม่ยอมแพ้ ออกมาได้อย่างน่าชื่นชม เล่นได้ดีโคตร ดีจริงๆ ดีจนทำให้เราเชื่อได้ว่าเธอคือทนายจริงๆ เช่นเดียวกันกับ Armie Hammer ที่รับบทสามี ผู้เป็นนักสนับสนุนภรรยาตัวยง ทางด้านบทอาจไม่มีอะไรเท่าไหร่ แต่ Armie เล่นออกมาได้มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะฉากบนศาล ทั้งดูสุขุม มาดเท่ห์ และหล่อสาวกรี๊ดแน่นอน อีกทั้งนักแสดงสมทบทุกคน ที่ถ่ายทอดการแสดงออกมา ทำให้หนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมอย่างที่มันควรจะเป็น
0.5 คะแนนที่หายไป คือหนังดำเนินเรื่องเร็ว จนเราอาจจะงงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่างๆ กับ Ruth นิดนึงว่าเป็นใคร เป็นไงมาไง และที่สำคัญต่อให้เรื่องนี้จะเข้มข้นเรื่องกฎหมายต่างๆ มันก็ยังทำให้คนดูไม่ได้เข้าใจยากจนเกินไป แต่ถ้าใครมีความรู้ทางด้านนี้จะสนุกและเข้าใจกับมันมากขึ้น แต่แค่นี้ก็ยอดเยี่ยมพอแล้ว ควรค่าแก่การจ่ายเงินเข้าไปดูอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
สรุปผลวิจารณ์หนัง