0 %E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4+-+Toot+Too+Ku+Chart

ตุ๊ดตู่กู้ชาติ - Toot Too Ku Chart

เข้าฉาย 24 พฤษภาคม 2561
ผู้ชม : 50,105
ผู้กำกับ : M.Mass Team
ความยาวหนัง : 127.00
Text Size

หนัง Toot-Too-Ku-Chart หรือชื่อไทยว่า ตุ๊ดตู่กู้ชาติ เรื่องราวของหมู่บ้านคุ้งระกาหมู่บ้านนอกเมืองหลวงที่มีวิถีชีวิตแบบบ้านๆ ทำนาทำไร่เลี้ยงช้างตามภาษาชาวบ้านธรรมดา แต่ที่ทำให้หมู่บ้านคุ้งระกาดูไม่ธรรมดาก็เพราะมีชายไทยหัวใจหญิงอย่าง ป้าแฟง(หม่ำ ม๊กจ๊ก) ,เดือน(โก๊ะตี๋ อารามบอย) ,ทองหอม(ติ๊ก กลิ่นสี) ,ทองก้อน(จิ้ม ชวนชื่น) และสร้อย(น้องบิว ขาวคง) ที่คอยสร้างสีสันให้กับหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ความสุขมักจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อทัพของ มังตราบุเรง(ฟิล์ม รัฐภูมิ) ลูกชายของพระเจ้าอโนรธา ปะละมินถิ่น(ตู่ นพพล) เจ้าเมืองยโสธาราวดี ได้หวังยกทัพมาตีเมืองอโสรยาเมืองหลวงของไทย แต่ทว่าการที่จะเข้าตีเมืองอโสรยาได้นั้นทัพของมังตราบุเรงจำเป็นต้องผ่านทางหมู่บ้านคุ้งระกาที่ตั้งขวางทางอยู่ ทำให้หมู่บ้านคุ้งระกาตกอยู่ในอันตราย เมื่อพ่อใหญ่แห่งหมู่บ้านคุ้งระการู้ข่าวจึงเรียกชาวบ้านมาประชุมเพื่อหาอาสาสมัครไปสืบความ ที่เมืองยโสธาราวดีว่ากองทัพจะยกทัพมาตีหมู่บ้านของตนเมื่อใด ชาวบ้านเมื่อได้ฟังต่างเกี่ยงกันไม่มีใครอาสา มีเพียงกลุ่มของป้าแฟงชายไทยหัวใจหญิงที่ขออาสาทำเพื่อประเทศชาติไปสืบความที่เมืองยโสธาราวดี แต่ถ้าจะไปกันแค่กลุ่มของป้าแฟงอาจทำไม่สำเร็จพ่อใหญ่จึงให้ ไกล(โย่ง อามแชร์) ,บุญถึง(โตส อัครัช) และแสง(สงกรานต์ รังสรรค์) ไปช่วยอีกแรง แล้วทั้งกลุ่มก็ออกเดินทางไปยังเมืองยโสธาราวดี โดยการปลอมตัวเป็นทหารของทัพยโสธาวดีที่กำลังเดินทัพกลับเมือง เมื่อไปถึงเมืองยโสธาราวดีกลุ่มของป้าแฟงก็แอบไปอยู่ในกลุ่มของนางรำเพื่อจะได้เข้าถึงตัวของมังตราบุเรงได้โดยง่าย ส่วนคนที่เหลือก็ได้แอบไปสืบความกับเหล่าทหาร หลังจากที่ได้แยกย้ายกันไปสืบความ ในที่สุดพวกเขาก็ได้รู้วันยกทัพของเมืองยโสธาราวดี ที่จะบุกมาตีหมู่บ้านของพวกเขา แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะหนีกลับไปบอกความลับที่รู้มา พวกเขาก็ถูกจับได้เสียก่อน แล้วพวกเขาจะกลับไปช่วยหมู่บ้านของตนได้สำเร็จหรือไม่ มาเอาใจช่วยพวกเขาได้ใน “ตุ๊ดตู่กู้ชาติ”

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

1 มิถุนายน 2561 04:28:33

ตุ๊ดตู่กู้ชาติ (อานนท์ มิ่งขวัญตา | ไทย | 2018)

พจน์ อานนท์ นี่พี่แกทำหนังถี่ติดต่อกันมาหลายปีเลย  และทุกปีๆ หนังทุกเรื่องของแกก็จะถูกโลกโซเชี่ยลโขกสับต่างๆ นานาว่าเป็นหนังไม่ดีไม่เอาไหนไร้สาระ แต่บางเรื่องกลับทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจนเป็นที่อิจฉาของเหล่าคนทำหนังด้วยกันเอง แต่พอมาถึงหนังเรื่องล่าสุดนี่กลับเหมือนเป็นเวรเป็นกรรมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เมื่อหนังซึ่งลงทุนลงแรงเล่นใหญ่ใส่เยอะที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตผู้กำกับอย่าง ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ทำรายได้ไม่ดีเท่าที่หนังลงทุนไป

ทั้งงานสร้างที่มีทั้งเซตหมู่บ้าน ฉากแอคชั่น ฉากสงคราม และมีทั้งกองทัพนักแสดง ต้องเรียกว่ากองทัพเพราะใช้นักแสดงเปลืองไม่แพ้กับหนังใหญ่ๆ อย่าง สุริโยไท หรือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ของท่านมุ้ยเลย ถ้าให้ไล่เรียงคร่าวๆ ก็นับนักแสดงที่มีชื่อเสียงนอกเหนือจากน้องๆ ลูกหม้อได้ราว 40 ชีวิต!!! ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นเล็ก ทั้งนักแสดงตลกสร้างสีสัน และนักแสดงมากฝีมือ ไปจนถึงนักแสดงประกอบอีกหลายร้อยชีวิต นี่ยังไม่รวมนักแสดงอีกหลายคนที่เคยเห็นในภาพโปรโมตแต่ถูกตัดออกไปจากหนังนะ สุดท้ายคือ CGI มนต์ขลังแฟนตาซีที่เพิ่มความยิ่งใหญ่อลังการเข้าไปอีก

เปิดเรื่องมาก็ดูเป็นหนังตลกที่เดินเรื่องได้โอเคเลยนะ และไหลลื่นกว่าที่คิดในช่วงแรกๆ ถึงงานถ่ายภาพจะไม่ได้ดีนักและทำสีจนผิดเพี้ยนไม่เป็นธรรมชาติเนียนไปด้วยกันทุกช็อตฉาก กองทัพตุ๊ดตู่ที่นำโดย หม่ำ จ๊กมก จิ้ม ชวนชื่น  โก๊ะตี๋ และ ติ๊ก กลิ่นสี ก็สามารถเรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย โดยเฉพาะรายหลังที่แย่งซีนเรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่อง  ถึงมุกตลกเหล่านั้นมากกว่าครึ่งมันเก่าเกรอะและเฉิ่มเชยแบบที่เห็นกันได้ทั่วไปในละครโทรทัศน์หรือรายการตลก  ที่ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินมาดูในโรงหนังก็มีให้ดูได้ที่บ้านฟรีๆ แต่ก็ยังฮาได้อยู่ด้วยคาแร็กเตอร์ของแต่ละตัวละคร  ส่วน โย่ง อาร์มแชร์ กับ สงกรานต์ รังสรรค์ ก็ซัพพอร์ตได้โอเคกว่าที่คาดไว้

ส่วนตัวไม่ได้ดูถูกดูแคลนการเอารสนิยมเพศมาเล่นตลกในเรื่อง เพราะมีความคิดว่าเมื่อชายหรือหญิงซึ่งรักเพศตรงข้ามถูกหยิบมาเล่นล้อในหนังได้ เพศทางเลือกที่เหลือก็สามารถถูกหยิบมาเล่นล้อได้เช่นกันหากพูดบนความเท่าเทียม แต่ทัศนคติที่ตั้งใจสอดแทรกและภาพผลลัพธ์ที่ได้ไม่ควรดูถูกหรือเหยียบย่ำสิทธิเสรีภาพและความเป็นคน  ซึ่ง ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ยังอาการดีกว่าหนัง(ไทย)หลายๆ เรื่องก่อนหน้านี้นะ มุกที่หยีที่สุดในเรื่องเพศคือมุกที่ตัวละครทอมในหมู่บ้านสองคนพูดถึงพวกตุ๊ดในลักษณะว่าไปรบให้ตายๆ กันให้หมดก็ดีพวกลักเพศ ซึ่งไม่ได้พาไปสู่มิติอื่นใด ทิ้งไว้แต่ขยะ แต่มุกที่หยะแหยงที่สุดในเรื่องกลับไม่ใช่มุกที่เล่นล้อเรื่องเพศตรงๆ แต่เป็นมุกสังขารหน้าตาที่สั่งให้เอาไปกุดหัวเมื่อเห็นว่าพวกตุ๊ดนี้หน้าตาอัปลักษณ์ ถึงจังหวะมันจะชวนให้ตลกก็เถอะ

ระหว่างดูจะเอาใจช่วยมากๆ เพราะเห็นความตั้งใจและความกล้าทำในช่วงแรกๆ แต่เมื่อหนังค่อยๆ ดำเนินไปกลับเละเทะและเหลวไหลมากขึ้นเรื่อยๆ ความไหลลื่นที่ยังพอมีเริ่มคุมไม่อยู่ เกิดการไม่ปะติดปะต่อ และขาดความเป็นเหตุเป็นผล รวมๆ จึงกลายเป็นหนังตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอีกเรื่องหนึ่งที่เหมือนทำเพราะเงินเหลือจากกำไรเรื่องก่อน และผลมาจากการทำงานแบบเดิมๆ กับโปรดักชั่นเล็กที่ต้องมาคุมงานหนังสเกลใหญ่กว่าเดิมมากทั้งบทหนัง  งานสร้างที่ออกแบบเอง และการกำกับ มันก็ทำให้เกิดอาการเอาไม่อยู่

ความตลกไร้ทิศทางไม่สามารถทำให้มีแก่นสารสาระได้เพียงเพราะฉากสงครามที่พยายามโหมภาพความรุนแรง ความดราม่า ความเสียสละรักชาติแบบทื่อๆ ได้ ทั้งที่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คิดมาได้น่าสนใจ เช่น เรื่องเพศสภาพและรสนิยมเพศในยุคสมัยก่อนกับความเสียสละในการสงคราม ภาพกองทัพชุมชนตุ๊ดตู่ในตอนท้ายเรื่อง หรือการใช้เพลง เดือนเพ็ญ ที่ร้องโดย เจนนิเฟอร์ คิ้ม ในฉากถูกขังคุก ซึ่งถ้าหากคนทำใส่ใจที่จะให้พื้นที่หนังเล่าเรื่องราวจากการสำรวจมุมมองเหล่านี้ตั้งแต่แรกก็คงได้น้ำได้เนื้อให้เอาไว้ถกเถียงประเด็นกันได้มากกว่านี้แน่ๆ เพราะใจยังเชื่อว่านักแสดงตลกเหล่านี้ยังมีความสามารถในมุมอื่นๆ นอกจากความตลกที่สามารถโอบอุ้มความจริงจังให้รอดได้  แต่พอมันไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ

แต่ถึงยังไงการที่ได้เห็น ดิลก ทองวัฒนา เล่นบทตลกนอกเหนือจากภาพเครียดๆ ในจอทีวี แล้วเล่นได้ตลกด้วยก็ถือเป็นความเซอร์ไพรส์หนึ่ง แล้วยังได้เห็น เทพพิทักษ์ เล่นเป็นโหรหลวงคู่กับ หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม ซึ่งเทพพิทักษ์ต้องร่วมงานกับดาราใหญ่หลายชีวิตก็นับเป็นอีกก้าวประสบการณ์ของเขาที่ได้เห็นจากในหนัง แล้วยังมีน้องขนมจีน กับ อำภา ภูษิต ที่เล่นบทดราม่าได้แบบนึกว่าเป็นหนังคนละเรื่อง และการกลับมาของ ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่ส่วนตัวผมไม่ได้เห็นหน้าค่าตาเขามานาน ถึงสุดท้ายแล้วจะมีการทำให้นักแสดงฝีมืออย่าง เฟรช อริศรา กับ เมย์ ภัทรวรินทร์ ต้องดูฝืนๆ อยู่ผิดที่ผิดทางไปบ้างก็ตามที

สิ่งที่ติดใจมากที่สุดนอกเหนือจากตัวหนังก็คงเป็นเครดิตชื่อพี่พจน์แกเนี่ยแหละ ที่เครดิต เรื่อง/บทภาพยนตร์ ในตอนต้นใช้ชื่อ พจน์ อานนท์ แต่พอเครดิตจบชื่อผู้กำกับกลับใช้ อานนท์ มิ่งขวัญตา ซึ่งเป็นชื่อของคนเดียวกัน เซอร์แดกสุดๆ ไปเลย

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
4
การดำเนินเรื่อง
5.5
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
6.5
กราฟฟิก
5.5
คะแนนเฉลี่ย
5.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)