0 Adrift+-+%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B8%9D%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%99

Adrift - รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน

เข้าฉาย 26 กรกฎาคม 2561
ผู้ชม : 11,234
ผู้กำกับ : Baltasar Kormákur
ความยาวหนัง : 100.00
Text Size

หนัง Adrift หรือชื่อไทยว่า รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน "Adrift" คือเรื่องราวที่จะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจจนลืมไม่ลง มันคือเรื่องของจิตวิญญาณมนุษย์ที่สามารถเอาชนะได้ทุกอุปสรรคด้วยพลังแห่งรัก นำแสดงโดย เชย์ลีน วู้ดลีย์ ("The Fault in Our Stars, เฟรนไชส์ Divergent) และ แซม คาฟลิน (Me Before You, เฟรนไชส์ Hunger Games), "Adrift" สร้างจากเรื่องจริงสุดประทับใจของสองหัวใจอิสระที่พบกันโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นความรัก นำไปสู่การผจญกัยสุดยิ่งใหญ่ในชีวิต สองนักเดินเรือที่พร้อมจะออกเดินทางข้ามมหาสมุทร ทามี่ โอลด์แฮม (วู้ดลีย์) และ ริชาร์ด ชาร์ป (คาฟลิน) ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพวกเขากำลังล่องเรือเข้าสู่หนึ่งในพายุเฮอริแคนที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์ หลังจากพายุพัดผ่าน ทามี่ตื่นขึ้นมาพบว่าริชาร์ดบาดเจ็บสาหัสและเรือของพวกเขาเหลือแต่ซาก เมื่อไม่สามารถหวังให้ใครมาช่วยได้ ทามี่ต้องหาทางรวบรวมสติและความแข็งแกร่งเพื่อช่วยชีวิตชายคนเดียวที่เธอรัก


Based on the true story of survival, a young couple's chance encounter leads them first to love, and then on the adventure of a lifetime as they face one of the most catastrophic hurricanes in recorded history.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

25 กรกฎาคม 2561 15:30:28

[รีวิว]Adrift - รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน
--- 6.5/10 ---
“เป็นหนังที่มีแต่น้ำ เนื้อน้อยอย่างน่าเสียดาย มีดีที่จุดหักมุมและตอนจบ”

Adrift หรือชื่อภาษาไทยว่า รักเธอฝ่าเฮอริเคน หนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริง โดยเป็นเรื่องราวของคู่รัก Tami Oldham (Shailene Woodley) และ Richard Sharp (Sam Claflin) ต้องลำบากลำบนลอยเคว้งอยู่กลางทะเล และต้องทำทุกอย่างเผื่อเอาชีวิตรอดไปให้จงได้ เรื่องมันเกิดจากที่ทั้งคู่ต้องนำเรือลำหนึ่งไปส่งให้เจ้าของ แต่ในระหว่างการเดินทางก็ต้องเจอกับโคตรเฮอร์ริเคนแคทรีนา ทำให้พวกเขาประสบอุบัติเหตุติดอยู่บนเรือกลางทะเล มองไปไม่เห็นแม้แต่ผืนแผ่นดิน

หนังเล่าเรื่องโดยการตัดสลับระหว่าง เหตุการณ์ปัจจุบัน (ตอนติดอยู่บนเรือกลางทะเล) กับ เหตุการณ์ในอดีต (ตอนที่ก่อนทั้งสองจะรักกันและตอนรักกันก่อนเดินเรือ) ด้วยการตัดสลับแบบนี้ มันก็ทำให้หนังดูน่าสนใจไม่ใช่เล่น แต่มันกลับกลายเป็นการฆ่าตัวตายไปในที่สุด เพราะในจังหวะที่กำลังถึงจุดไคลแมกซ์ของเรื่องในระหว่างติดเรือ กลับตัดมาเหตุการณ์ในอดีตซะงั้น!? ทำให้กระชากอารมณ์คนดูเกินไป ได้แต่อุทานเบาๆ ในใจว่า “เอ๊า!” และเป็นแบบนี้หลายฉากเลยทีเดียว กำลังพีคๆ บิ้วอารมณ์คนดูได้อย่างดี ก็ตัดมาเหตุการณ์ในอดีตอีกแล้ว รวมไปถึงฉากที่น่าจะเป็นจุดพีคมากๆ ของเรื่องก็น่าจะเป็นฉากพายุเฮอริเคนที่โดยส่วนตัวคิดว่าทำออกมาได้สั้นไป และน่าจะดึงดราม่าอะไรได้มากกว่านี้

หนังน่าจะ “เล่าเยอะไป” ในส่วนของเหตุการณ์ในอดีต ความสัมพันธ์ของคู่พระ-นาง แต่ถึงแม้จะเล่าเยอะแค่ไหน เราก็ยังไม่เชื่อ และไม่เห็นความผูกพันธ์ ความรักของทั้งสองคนนี้จริงๆ เลย อีกส่วนที่น่าจะให้ความสำคัญกว่า ตัวหนังก็กลับ “เล่าน้อยไป” โดยเฉพาะส่วนที่ติดอยู่บนเรือกลางทะเล เรายังไม่ค่อยได้เห็นความลำบาก การดิ้นรน เอาตัวรอด และท้อแท้กับชีวิตสักเท่าไหร่ กับเวลา 41 วัน ที่ติดอยู่กลางทะเล เวลามันผ่านไปเร็วมาก เร็วเกินไปจริงๆ ทั้งที่น่าจะขยี้ความดราม่าส่วนนี้ให้ได้มากกว่านี้ แถมน่าเสียดายกับฉากที่ (เหมือนจะ) โรแมนติก

แต่ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งที่ดีมาอยู่ในตอนท้ายเรื่อง จุดหักมุมของเรื่องยิ่งทำให้เรา “เฮ้ย” ก็เซอร์ไพรส์อยู่พอสมควร และคาดไม่ถึงเหมือนกัน (ถ้าไม่ได้รู้เรื่องราวมาก่อนนะ) และฉากจบที่คลี่คลายเรื่องราวทำได้ดี แถมยังซาบซึ้งกว่าฉากที่(เหมือนจะ)โรแมนติก ที่ใส่มาแทบทั้งเรื่องเสียอีก สิ่งที่น่าชื่นชมอีกสิ่งหนึ่งคือนักแสดงนำอย่าง Shailene Woodley ที่แบกรับหนังทั้งเรื่องเลย เราจะเห็นเธอทุกฉากในหนัง ลืมภาพจำเธอจาก Fault in our stars ได้เลย เธอดูเก่งและโตขึ้นมาก การแสดงอาจไม่ได้โดดเด่นมาก แต่ต้องยอมรับว่าเธอแบกหนังเรื่องนี้ไว้จริงๆ

โดยรวมแล้ว Adrift เป็นหนังที่มีแต่น้ำ เนื้อหลักๆ น้อยมาก เป็นหนังมีดีที่ตอนจบ จุดหักมุม ถ้าไม่รู้จะดูเรื่องอะไร นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว ไม่ซาบซึ้ง โรแมนติก ดราม่าจนน้ำตาไหล แต่ก็ดูได้เพลินๆ

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
5.5
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
6.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)