Backstabbing for Beginners - ล้วงแผนล่าทรยศ
เข้าฉาย 24 พฤษภาคม 2561
ผู้ชม : 9,729
ผู้กำกับ
: Per Fly
ความยาวหนัง
: 110.00
Text Size
หนัง Backstabbing for Beginners เรื่องราวของทูตหนุ่มไฟแรกที่เป็นผู้ประสานให้กับสหประชาชาติ เขาได้ถูกส่งไปอิรักหลังยุคสงครามที่เจ้าหน้าที่รัฐและประเทศหิวอำนาจจะยึดคลังน้ำมันของอิรัก เขาต้องทำหน้าที่การทูตในดินแดนสุดแสนอันตราย คนเดียวที่พอจะแนะนำเขาได้ก็คือเจ้านายของเขาที่เป็นนักการทูตมากประสบการณ์นั่นเอง
A young program coordinator at the United Nations stumbles upon a conspiracy involving Iraq's oil reserves.
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้ ถ้าใครรู้เรื่องราวของการคอรัปชั่นในโครงการ Oil for Food ของทาง UN และเรื่องราวความขัดแย้งต่างๆ ในประเทศอิรัก ก็จะอินและเข้าใจมันได้ไม่ยาก แต่สำหรับส่วนตัวผมต้องบอกว่า งง ในบางจุด และตามไม่ทันบ้างเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะขอรีวิวในฐานะคนที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้มาละกันว่าไปดูมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างที่บอกว่าหนังค่อนข้างใช้ความรู้พอสมควร และต้องใช้สมาธิอย่างมากในการดูหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะผม เฉกเช่นเดียวกับเรื่อง Beruit ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ว่า ถ้าพลาดนิดเดียวคุณอาจจะไม่เข้าใจได้ สำหรับเรื่องนี้ก็เหมือนกัน ผมบอกได้แต่เพียงว่า ค่อนข้างตามทันยากกว่า Beruit พอสมควร แต่ก็ไม่ได้เข้าใจยากเกินไป อาจจะมีสงสัยบ้าง แต่หนังก็ยังสามารถเล่าเรื่องไม่ให้เรางงจนเกินไปได้เหมือนกัน
หนังการเมืองเข้มข้น แอคชั่น ทริลเลอร์ เปิดโปงเบื้องลึกเบื้องหลังของรัฐบาลเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริงจากความทรงจำของ “ไมเคิล ซัวร์ซาน” อดีตเจ้าหน้าที่ UN ผู้พันตัวมาเป็นนักข่าว โดยเรื่องราวก็เล่าผ่านตัว “ไมเคิล” ผู้ประสานงานนักการทูตรุ่นใหม่ไฟแรงที่ต้องมารับผิดชอบโครงการ Oil for Food ของทาง UN ที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจที่อิรัก เขาต้องทำงานร่วมกับนักการทูตมากประสบการณ์อย่าง “ปาชา” แต่แล้ว ไมเคิล ก็พบว่าโครงการนี้เต็มไปด้วยการคอรัปชั่น และการแสวงหาผลประโยชน์มากมาย ทางออกเดียวของเขาคือต้องเปิดโปง แต่มันจะเป็นการสร้างอันตรายให้ตัวเขาเอง ทำให้เขาไว้ใจใครไม่ได้ เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่ถือมีดพร้อมแทงข้างหลังเขาเสมอ
ขอพูดถึงนักแสดงนำก่อน ในเรื่องนี้ได้ “ธีโอ เจมส์” ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาเค้าจากหนังเรื่อง “ไดเวอร์เจนท์” ครั้งซึ่งด้วยบทบาทที่เป็นคนขวาจัด รักความยุติธรรม ไม่ยอมให้ใครมาซื้อสิทธิ์ขายเสียงใดๆ ทั้งสิ้น บุคคลิกดูสุขุม น่าเชื่อถือ และเหมาะสมกับบทนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่...แต่ด้วยความที่เป็นแบบนั้นตัวผมกลับเห็นว่าเล่น “แข็ง” ไปหน่อย เมื่อต้องมาประชันบทบาทกับนักแสดงผู้มากประสบการณ์อย่าง “เบน คิงสลีย์” ที่มารับบทเจ้านายของไมเคิล เป็นนักการทูตมากประสบการณ์ จะเห็นได้ว่า เบน เล่นได้ดีกว่ามาก และยิ่งมาเข้าฉากด้วยกันจะเห็นได้ว่า เบน เด่นกว่ามากๆ ทำให้กลบรัศมีของ ธีโอ ไปได้พอสมควรเลย (ไม่นับเรื่องรัศมีความหล่อนะ)
ทางด้านเนื้อเรื่องค่อนข้างเข้มข้นในเรื่องการเมืองมากทีเดียว ส่วนตัวรู้สึกสนุกและตื่นเต้นกับมันมาก ว่าตัวพระเอกจะเปิดโปงเหตุการณ์นี้ได้ไหม จะทำมันยังไง และใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์คอรัปชั่นระดับโลกนี้บ้าง ด้วยความที่บรรยากาศหนัง+กับชื่อเรื่องของมัน ทำให้เราเกิดคำถามในใจว่า “ตกลงไว้ใจใครได้มั่งวะเนี่ย” แต่หนังดำเนินเรื่องเร็วมาก คอยป้อนข้อมูลมาให้เราอย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้คนดูอาจรับข้อมูลขาดตกบกพร่องไปบ้าง เรียกได้ว่ารัวหมัดมาอย่างเร็ว ไม่สนว่าเข้าไม่เข้าเป้า อย่างที่บอกไปข้างต้น ถ้าไม่ได้ศึกษาหรือมีความรู้เรื่องการคอรัปชั่นนี้มาก็อาจจะงงๆ บ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ก็ยังสามารถสนุกกับหนังได้อยู่ หนังชวนว้าวอีกครั้งตอนปลายๆ เรื่อง และชวนอึ้งกับเหตุการณ์ที่ถูกเปิดโปงอันน่าเหลือเชื่อนี้
โดยรวมแล้วชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกันนะ แต่ขอย้ำกันอีกสักรอบว่า ถ้าอยากอิน อยากสนุก และอยากเข้าใจหนังให้มากกว่านี้ ก็ควรจะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการคอรัปชั่นในโครงการ Oil for Food และความขัดแย้งในอิรักมานิดหน่อย แต่ถ้าใครรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว รับรองว่าคุณจะตื่นเต้นกับมันในทุกจังหวะของหนังเลยทีเดียว ขนาดผมไม่ค่อยรู้เรื่องราวพวกนั้น ยังสนุกและลุ้นไปกับมันได้เหมือนกัน รับไป 7/10 คะแนน
สรุปผลวิจารณ์หนัง