TOMORROWLAND - ผจญแดนอนาคต
เข้าฉาย 21 พฤษภาคม 2558
ผู้ชม : 16,168
ผู้กำกับ
: Brad Bird (แบรด เบิร์ด)
ความยาวหนัง
: 130.00
Text Size
หนัง Tomorrowland หรือชื่อไทยว่า ผจญแดนอนาคต ด้วยชะตาชีวิตที่ร่วมกัน แฟรงค์ อดีตเด็กอัจฉริยะ ผู้เหนื่อยหน่ายและท้อแท้ และเคซี่ สาวน้อยผู้ปราดเปรื่อง มองโลกในแง่ดี และมีความกระหายใคร่รู้ทางวิทยาศาสตร์ ต้องร่วมภารกิจสุดอันตรายในการไขปริศนาของสถานที่ลึกลับที่อยู่ที่ไหนซักแห่งในห้วงเวลาและอวกาศที่รู้จักแค่ชื่อที่ถูกเรียกขานว่า ''ทูมอโรว์แลนด์'' สิ่งที่เขาต้องทำที่นั่นจะเปลี่ยนแปลงโลก และพวกเขาไปตลอดกาลจากบทภาพยนตร์โดย แบรด เบิร์ด และผู้เขียนบท/ผู้ร่วมสร้าง ''ลอสท์'' เดมอน ลินเดลอฟ จากเรื่องราวโดย ลินเดลอฟ, เจฟฟ์ เจนเซ่น, และแบรด เบิร์ด Tomorrowland ผจญแดนอนาคต จะพาผู้ชมไปสู่การผจญภัยสุดตื่นเต้นแบบนอนสต็อปสู่มิติใหม่ที่เคยอยู่แค่ในฝันเท่านั้น
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
ความคิดเห็น (0)
GUEST
sims
22 พฤษภาคม 2558 20:29:12
ไม่มี
Tomorrowland เมื่อทุกสิ่งเป็นไปได้
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า Tomorrowland นั้้น ก่อนจะมาเป็นภาพยนตร์นั้น มันคือชื่อโซนในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์มาก่อนนั้นเอง ซึ่งเป็นโซนที่ตัว วอลท์ ดิสนีย์เคยวาดฝันไว้ว่าจะให้เป็นเมืองแห่งอนาคต ที่มีการบริหารจัดการ วางผังเมืองอย่างเบ็ดเสร็จ เพียบพร้อม ลงตัว แต่เสียดาย วอลท์ ดิสนีย์ได้เสียชีวิตไปก่อนที่โปรเจคนี้จะได้เริ่มต้น ตอนนี้มันก็เลยพัฒนามาเป็นแค่โซนในดิสนีย์แลนด์แค่นั้น ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่มีการนำเอาโซนหรือเครื่องเล่นในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์มาสร้างเป็นภาพยนตร์ และสองเรื่องก่อนหน้านั้นคือ Pirates of The Caribbean กับ The Haunted Mansion นั่นเอง
โครงการนี้ถือว่าเป็นโปรเจคยักษ์ของค่ายดิสนีย์ในปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะทุ่มทุนสร้างไปถึง 190 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ตัวงาน CG ของเรื่องนี้เรียกได้ว่าสามารถเนรมิตเมืองโลกอนาคตได้ออกมาอย่างสมจริงสุด แต่เสียดายตรงที่บทของภาพยนตร์นั้น ไม่สามารถนำพาภาพยนตร์ไปให้ถึงฝั่งฝันในตอนจบได้
ตัวหนังช่วงแรกๆ - กลางๆ เรื่องนั้นทำออกมาได้น่าติดตามดีทีเดียว แต่เนื่องด้วยไอเดียที่บรรเจิด กับปมต่างๆ ที่ทิ้งไว้รายทางมันมากมายจนกระทั่งช่วงท้ายเรื่อง การเฉลยปม หรือการบิ้วให้คนดูลุ้นไปด้วย เหมือนกับว่ายังไม่ค่อยมีพลังซะเท่าไหร่เพราะจัดเต็มไปตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของเรื่องแล้วนั่นเอง
โดยรวม Tomorrowland นั่นเป็นภาพยนตร์ที่ *ถ้าดูซ้ำและมองลึกลงไปในเนื้อหาที่เป็นอยู่ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่แฝงแง่คิดพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องมีในวัยเด็ก นั่นก็คือ การเป็นนักฝันนั่นเอง และนักฝันที่เองที่จะเป็นตัวจุดประกายในการพัฒนาสิ่งของต่างๆให้สามารถใช้งานได้ และพัฒนาโลกให้ดีขึ้น ซึ่งถ้าใช้ไปในทางที่ไม่ดี โลกนี้ก็จะมีแต่พังกับพังเท่านั้นเอง ผมให้ 8.7/10 สำหรับเรื่องนี้
สรุปผลวิจารณ์หนัง