0 The+Current+War+-+%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2+%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B0

The Current War - สงครามไฟฟ้า คนขั้วอัจฉริยะ

เข้าฉาย 18 กรกฎาคม 2562
ผู้ชม : 12,822
ผู้กำกับ : Alfonso Gomez-Rejon
ความยาวหนัง : 110.00
Text Size

หนัง The Current War หรือชื่อไทยว่า สงครามไฟฟ้า คนขั้วอัจฉริยะ เมื่ออัจฉริยะนักประดิษฐ์ โทมัส อัลวา เอดิสัน (เบเนดิคท์ คัมเบอร์แบตช์) และเจ้าพ่อนายทุนอย่าง เจพี มอร์แกน (แมทธิว แม็คฟาเดียน) จับมือกันเพื่อผลักดันการใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) พวกเขาต้องเผชิญกับการต่อต้านทฤษฎีจาก จอร์จ เวสติงเฮ้าส์ (ไมเคิล แชนนอน) วิศวกร นักประดิษฐ์ และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ผู้สนับสนุนทฤษฎีไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ผู้ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก นิโคลา เทสลา (นิโคลัส โฮลท์) อีกหนึ่งอัจฉริยะนักประดิษฐ์ผู้เกิดในยุคเดียวกันกับเอดิสัน เรื่องราวความขัดแย้งซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามหักล้างทฤษฎีที่ก่อให้เกิดคุณูปการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้ าทั่วทั้งโลก


The dramatic story of the cutthroat race between electricity titans Thomas Edison and George Westinghouse to determine whose electrical system would power the modern world.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

22 กรกฎาคม 2562 16:54:37

[รีวิว] The Current War - สงครามไฟฟ้า คนขั้วอัจฉริยะ
--- 6.8/10 ---
ดำเนินเรื่องไม่เป็นมิตรกับคนดูเลย
ไม่แคร์คนที่ไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้าเลยสักนิด แถมยังชวนหาวในช่วงแรกอีกต่างหาก
แต่ก็ยังพอเพลินในช่วงกลางไปจนถึงท้าย

The Current War เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจทางการไฟฟ้ากันระหว่าง Thomas Edison กับ George Westinghouse และความร่วมมือของ Nikola Tesla ที่ฝ่ายไหนชนะก็จะได้ครองความสว่างสไวของโลกไปอีกหลายทศวรรษ

ฟังจากเรื่องย่อแล้วน่าสนใจมาก หนังไม่ใช่ประวัติของ Thomas Edison หรือ Nikola Tesla แต่หนังจะเล่าเรื่องการแข่งขันแย่งชิงกันทางประวัติศาสตร์ ของระบบกระแสไฟฟ้าตรงกับกระแสสลับ ซึ่งต้องบอกเลยว่าถ้าใครไม่ได้เรียนสายนี้มา หรือไม่เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับไฟฟ้า มีงงเป็นไก่ตาแตกแน่นอน!

หนังไม่แคร์คนดูเลยสักนิด และเล่าเหมือนคนดูทุกคนรู้เรื่องราวเหล่านั้นแล้ว ไม่ว่าจะที่มาที่ไปของแต่ละตัวละครว่าเป็นไงมาไง หนังเล่าข้ามขั้นตอนที่ Thomas Edison ได้ประดิษฐ์หลอดไฟไปแล้ว เพราะประเด็นสำคัญไม่ใช่ตรงนั้น หนังเล่าเรื่องหลังจากนั้น ที่ดำเนินเรื่องได้เร็วมาก แต่กลับน่าเบื่อและชวนง่วงชะมัด จนผ่านประมาณครึ่งชั่วโมงมาได้เนื้อเรื่องจึงเริ่มเข้มข้นขึ้น 

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังชวน งงไม่หายอยู่ดี เหตุการณ์แต่ละอย่างเกิดขึ้นไว ไปไว คนนั้นทำนู่นทำนี่ แป๊บๆ ไปละ ยังไม่ทันเข้าใจเลย หลายๆ อย่างก็ชวนสงสัย แถมยังทิ้งประเด็นค้างคาเอาไว้ไม่ให้คำตอบด้วยนะ 

แต่ถ้าตัดเรื่องความงงออกไป หนังก็ยังเล่าถึงการแข่งขันกันของทั้งสองคนได้อย่างสนุกพอควร ทั้งการดิสเครดิตกันไปมา มุมร้ายๆ ของ Thomas Edison หรือ Michael Shannon เรื่องการแก่งแย่งนายทุน การประโคมข่าว คือเราได้เห็นมุมมองของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากขึ้นกว่าตัวละคร 

อีกอย่างนึงที่ชอบคือการที่หนังให้ความสนใจใส่ใจในสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ ที่ Thomas Edison ได้ประดิษฐ์ขึ้นมาในระหว่างนั้นอย่างไม่ละเลย แถมจุดเด่นอีกอย่างคือหนังยังถ่ายทอดให้เราได้เห็นว่า ทั้ง 3 นักประดิษฐ์ในเรื่องนี้แลดูอัจฉริยะจริงๆ 

มาถึงเรื่องนักแสดง ชุดนี้แหละเราว่าเหมาะแล้ว บทบาทอัจฉริยะ เราก็นึกถึง Benedict Cumberbatch และเขาก็แสดงบท Thomas Edison ออกมาได้มาตรฐาน ตามมาด้วยบทผู้ช่วย ที่แสดงโดย Tom Holland ที่ถึงแม้จะไม่ได้ออกมาเยอะ แต่ก็ยังคงความเป็น Tom Holland ในแง่ที่ดูจริงจังและได้มาตรฐานอีกเช่นเดิม อีกฝั่งอย่าง Nicholas Hoult ในบทของ Nikola Tesla ที่ออกมาน้อยกว่าสองนักประดิษฐ์แห่งยุค แต่ก็ยังแสดงออกมาได้ดีไม่แพ้กัน แต่เสียดาย Michael Shannon ในบทของ George Westinghouse ที่ไม่ได้มีซีนให้โชว์ฝีมือในการแสดงสักเท่าไหร่เลย

สรุป The Current War เป็นหนังที่เฉพาะกลุ่มพอสมควร ที่ดูไม่ยาก และเริ่มมาเข้ารูปเข้ารอยตอนหลัง แต่อาจจะงงในเรื่องราวที่เหล่าตัวละครได้กล่าวออกมาเหมือนกัน แถมบางฉากก็พยายามตัดต่อและถ่ายทำแบบแปลกๆ ที่ไม่เข้าใจว่าทำทำไมเหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ยังพอดูเพลินได้ในระดับที่โอเค ทำให้ได้รู้ประวัติศาสตร์มากขึ้น เพียงแต่มันไม่สนุกเท่าที่ควร

ปล. Nikola Tesla ออกมาน้อย และก็เล่ามาได้น้อยเหมือนชีวิตจริงเจ้าตัวเลย ที่นับว่าเป็นอัจฉริยะที่โลกลืมสมชื่อจริงๆ 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
6.8
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
22 กรกฎาคม 2562 14:46:41

แรกๆ ก็จะงงๆ ข้อมูล ดูไม่ค่อยทัน เหมือนเรื่องจะเดินหน่วงๆ แต่ก็มีหลายส่วนเล่าไปเยอะมากๆ พอช่วงกลางๆ ก็จะเริ่มทันเริ่มดูรู้เรื่อง เริ่มอินตาม แต่ก็จะงงอยู่ดีว่าต้องโฟกัสใคร ใครเป็นคนที่เราต้องเอาใจช่วย เอาใจช่วยไปเอาใจช่วยมา เอ้า! เป็นอีกฝ่ายที่ต้องไปเข้าอกเข้าใจแทนแบบงงๆ ดูไปดูมาจนจบเพิ่งรู้ว่านี่เค้ากำลังแข่งขันกันหรือนี่ มีแพ้มีชนะกันด้วยหรือ เอ้าแล้วคนนั้นแพ้หรือ ไม่ยักเข้าใจ (สรุปน่าจะงงเท่าเดิม) แต่ได้ความรู้เกี่ยวกับช่วงเวลาประวัติศาสตร์ในการมีไฟฟ้าและแสงสว่างจากหลอดไฟในโลกมนุษย์เกิดขึ้น ได้รู้จักโทมัน อันวา เอดิสัน, นิโคลา เทสลา, เจนเนอรัล อิเล็กทริคและเวสติ้งเฮ้าส์ อิเล็คทริค มากขึ้น

หนังจะออกแนวเหมือนหนังธุรกิจ อินโนเวชั่น เฉือนคมกัน ฟิลลิ่งเหมือนเรื่อง The Big Shot, Money of the world, The Founder, Social Network แต่เป็นเกิดขึ้นยุคหลายทศวรรษก่อนหน้านี้ในอเมริกาแทน


การแสดงหลักๆ จะถ่ายทอดผ่านโทมัส เอดิสันซึ่งนำแสดงโดย เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ กับ กับ ไมเคิล แชนอนที่ฟาดฟันกันอย่างดุเดือดในวงการธุรกิจ มีนิโคลัส โฮล์ทและน้องทอม ฮอลแลนด์ร่วมแจมเบาๆ การถ่ายทอดส่วนมากเป็นอารมณ์ดราม่า เฉือนคมกัน และมีการถ่ายทอดความรักความทุ่มเทของแต่ละฝ่ายที่มีต่อการสร้างสรรค์ ประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาในโลกนี้

งานสร้างก็ได้พาเราไปสู่นิวยอร์กยุคเมื่อร้อยปีก่อนได้อย่างสมบูรณ์ทั้งฉาก เสื้อผ้า การกระทำของแต่ละตัวละคร งานสร้างและการถ่ายทอดภาพค่อนข้างมีนัยสำคัญและสัญลักษณ์เชิงภาพยนตร์ หลายรายละเอียดในแต่ละฉากแต่ละชุดสะท้อนบุคลิกภาพและความคิดของตัวละครได้ละเอียดดี

- เด็กเดินตั๋ว -

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
8
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
8.5
คะแนนเฉลี่ย
7.9
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)