0 Kimi+no+suizo+wo+tabetai+%28Let+Me+Eat+Your+Pancreas%29+-+%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99+%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B0

Kimi no suizo wo tabetai (Let Me Eat Your Pancreas) - ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ

เข้าฉาย 23 พฤศจิกายน 2560
ผู้ชม : 12,441
ผู้กำกับ : Shô Tsukikawa
ความยาวหนัง : 115.00
Text Size

หนัง Kimi no suizo wo tabetai หรือชื่อไทยว่า ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ Kimi no Suizo wo Tabetai สร้างจากนิยาย ไลท์โนเวล โรแมนติกเรียกน้ำตา ของนักเขียนฝีมือดีอย่าง สุมิโนะ โยรุ โดยเวอร์ชั่นภาพยนตร์จะได้ ฮามาเบะ มินามิ เข้ามารับบท ยามากุจิ ซากุระ ในบทสาวสวยแสนสดใสขวัญใจหนุ่ม ๆ โรงเรียนมัธยม และ คิตามูระ ทาคุมิ หรือ //DISH จะเข้ามารับบทของ โบคุ เด็กหนุ่ม หนอนหนังสือ ผู้ไม่สนใจโลก เพื่อนนักเรียนของซากุระ โบคุ แอบชอบ ซากุระ พวกเขาสนิทกันอย่างรวดเร็วด้วยความที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน แล้ววันหนึ่ง ซากุระก็บอกว่าเธอกำลังจะตายด้วยโรคมะเร็งตับ 12 ปีต่อมา หลังการตายของซากุระ โบคุ กลับมาเป็น ครู ที่โรงเรียนเก่า ที่นั่น เขาพบสมุดบันทึกที่ ซากุระ ซ่อนไว้ เมื่อเขาเปิดบันทึกออกอ่าน ความทรงจำของหญิงสาว และความรักที่เธอไม่เคยบอกใครก็ถูกเปิดเผยขึ้น ที่ละหน้า ทีละหน้า ผ่านเรื่องราว โรแมนติก ชวนน้ำตาซึม ของความรักอีกด้าน ที่หัวใจของเราอาจไม่เคยได้เปิดใจเพื่อมองเห็น แม้มันจะอยู่ตรงหน้ามาตลอดก็ตาม Kimi no Suizo wo Tabetai พฤศจิกายนนี้ บ า ง คำ “ รั ก “ อาจ ถู ก ซ่ อ น อ ยู่ ใ น ที่ ๆ เ ร า ไ ม่ อ า จ ม อ ง เ ห็ น

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

29 พฤศจิกายน 2560 20:13:45

Let Me Eat Your Pancreas (Sho Tsukikawa | Japan | 2017)

Let Me Eat Your Pancreas หรือในชื่อไทยว่า ‘ตับอ่อนเธอนั้น ฉันขอเถอะนะ’ ซึ่งก็ชวนให้นึกถึงหนังเทือกๆ ปอบหวีดสยองอยู่ไม่น้อย  แต่ไม่เลย..ตับอ่อนฯ ไม่ได้แอบซ่อนเรื่องราวอะไรแบบนั้น  ก็เป็นหนังโรแมนติกดราม่าวัยมัธยมชวนซึ้งชวนเศร้าปกตินี่แหละ  เพียงแค่ในไดอะล็อกหนึ่งระหว่างนางเอก (Minami Hamabe) พระเอก (Takumi Kitamura) เขาคุยกันถึงเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อหนึ่งที่บอกว่าถ้าหากร่างกายส่วนไหนของเราเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บแล้วเราเอาส่วนของร่างกายเดียวกันนั้นมากินมันก็จะหายได้  อย่างเช่นถ้าป่วยเป็นโรคไตก็กินไตก็จะหายป่วยได้  ซึ่งก่อนหน้านั้นพระเอกบังเอิญไปรู้ว่านางเอกป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับตับอ่อนและอีกปีเดียวก็คงตายแต่นางเอกปิดไว้เป็นความลับไม่บอกใครแม้กระทั่งเพื่อนสนิทและครอบครัวก็เลยมีแค่พระเอกคนเดียวเท่านั้นที่รู้  แล้วพระเอกซึ่งเป็นคนเงียบๆ เก็บตัวไม่สุงสิงกับใครก็ได้กลายมาเป็นคนที่นางเอกอยากมีความสุขด้วยในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

ความสนุกของสถานการณ์ต่างๆ เป็นเรื่องของ To Do List สิ่งที่อยากลองทำก่อนตายของนางเอก  ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีสิ่งที่พระเอกต้องให้ความร่วมมือหรือขึ้นอยู่กับพระเอกด้วย  พูดอย่างนี้ก็คงไม่ต้องเดาให้ยากแล้วล่ะว่าหนึ่งในสิ่งนั้นคือนางเอกอยากลองใกล้ชิดกับพระเอกมากกว่าที่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่นใดที่ไม่ใช่แฟน  แล้วผู้หญิงน่ารักๆ ใสๆ แบบนี้มาทำดีมาใกล้ชิดด้วยเชิงรุกสุดๆ  มีหรือที่พระเอกจะไม่หวั่นไหวใดๆ หรือไม่คิดอะไร  การที่พระเอกไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทเป็นทุนเดิมทำให้รีแอคชั่นต่อการเข้าหาของนางเอกนั้นเคอะเขิน  แต่ถึงจะเป็นคาแร็กเตอร์ที่มีการถูกบุลลี่อยู่หน่อยๆ  แต่ก็ไม่ใช่ด้วยแบบที่เจี๋ยมเจี้ยมเหนียมอายแบบเด็กมัธยมลุคเนิร์ดๆ ขี้ขลาดและเก็บตัวจนไม่มีใครคบ  หรือไม่เคยผ่านประสบการณ์ความรักใดๆ  ชอบที่ไม่ใช่ตัวละครแบบลูสเซอร์สุดทางอะไรแบบนั้น  ก็เป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดาที่มีโลกของตัวเองแบบนี้ไม่ถึงกับเป็นชายขอบหรือคนที่ต้องถูกกระทำจนน่าเวทนาแล้วนางเอกที่เข้ามาเห็นค่าของเขาก็ต้องกลายเป็นนางฟ้ามาโปรดอะไรอย่างนั้น  ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลทำให้หนังไม่ได้จะเล่าซ้ำความซ้ำซากด้วยการเรียกร้องน้ำตาคนดูจากความเศร้าหมองของชีวิตเสียจนเกินลิมิตที่เราจะรับได้

ความโรแมนติกดำเนินไปเรื่อยๆ โดยที่ทั้งพระเอกนางเอกและคนดูเองก็รู้ทั้งรู้ว่านางเอกกำลังจะตายทำให้มันมีเศร้าที่ค่อยๆ เพิ่มระดับคละคลุ้งมากขึ้นเรื่อยๆ  แต่ก็น่าเสียดายที่การเล่าเรื่องของผู้กำกับก็เล่าไปได้เรื่อยๆ ไปหน่อยเช่นเดียวกัน  นักแสดงที่มีเสน่ห์ทั้งพระเอกนางเอกและตัวประกอบอื่นๆ จึงกลายเป็นตัวช่วยให้เราอยากติดตามต่อไปได้อยู่  จริงๆ แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันมีชั้นความน่าสนใจในมุมความเป็นมนุษย์โทนมืดที่แอบซ่อนอยู่มากประมาณหนึ่งเลยนะ  แต่น่าเสียดายที่คนทำไม่ได้ตั้งใจที่จะกะเทาะในจุดเหล่านั้น  เราจึงได้เห็นแค่เหตุผลเรียบๆ ของตัวละครแต่ละตัวเท่านั้นเอง  อย่างเช่น  ทำไมนางเอกถึงไม่ยอมบอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทคนอื่นทั้งที่รักกับมาก  มากกว่าเหตุผลที่แค่ว่าเพราะกลัวคนเหล่านั้นเสียใจหรือเศร้าใจซึ่งซ้ำซากไปหน่อย  และจริงๆ แล้วพระเอกคิดอะไรยังไงกับนางเอกบ้างนอกเหนือจากมิตรภาพและความรักที่เราได้เห็นมันยังพอมีมุมคิดไปทางบวกหรือลบที่จะทำอะไรนอกเหนือจากที่คนทำให้คนดูได้เห็นได้อีกบ้าง  หรือการตั้งคำถามที่ว่าหากนางเอกรอดตายจากอาการป่วยนี้ได้จริงๆ ล่ะ  ทั้งที่เรื่องราวในตอนท้ายมันเยือกเย็นเพียงพอที่จะสำรวจสิ่งเหล่านี้ได้  ซึ่งหนังก็กล้าพาไปสู่จุดที่เราไม่ได้คาดคิดและฉุกคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและจุดจบของมันได้ถึงขนาดนั้น  โดยเฉพาะกับหนังรักใสๆ แบบนี้

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
6.5
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
7
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)

22 พฤศจิกายน 2560 18:35:36
 
เอามาฉายให้ทีครับ please
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย