Polaroid - โพลารอยด์ ถ่ายติดตาย
เข้าฉาย 13 มิถุนายน 2562
ผู้ชม : 10,821
ผู้กำกับ
: Lars Klevberg
ความยาวหนัง
: 90.00
Text Size
หนัง Polaroid หรือชื่อไทยว่า โพลารอยด์ ถ่ายติดตาย คุณกล้าถ่ายรูปหรือเปล่า? หากว่าทุกคนในรูปจะต้องตาย! เบิร์ด ฟิทเชอร์ (แคทรีน เพรสคอตต์) ได้พบกับกล้องโพลารอยด์ตัวหนึ่งในร้านขายของเก่า แต่แล้วเธอกลับพบว่าผู้ที่ถูกถ่ายด้วยกล้องตัวนี้ล้วนแต่จะต้องตายอย่างน่า สยดสยอง เธอและเพื่อน ๆ จึงต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางออกจากสถานการณ์นี้ก่อนที่พวกเธอทุกคนจะ ถูกมันฆ่า!
High school loner Bird Fitcher has no idea what dark secrets are tied to the mysterious Polaroid vintage camera she stumbles upon, but it doesn't take long to discover that those who have their picture taken meet a tragic end.
[รีวิว] Polaroid - ถ่ายติดตาย
--- 5/10 ---
หนังผีสูตรสำเร็จ ที่ตกใจเสียงมากกว่าตัวผี (พยายามบิ้วซะดังเกิ๊น)
ตัวละครก็พากันทำอะไรโง่ๆ ตามสูตรหนังผี เช่นวิ่งหนีแล้วสะดุด เป็นต้น เห้อ - -"
Polaroid คือหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากพล็อตหนังสั้นของผู้กำกับ Lars Klevberg ที่เจ้าตัวก็ตามมากำกับเวอร์ชั่นหนังยาวนี้ด้วย ซึ่งก็ถือเป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของเจ้าตัวเหมือนกัน ส่วนเรื่องหลังจากนี้ก็ได้รับคุมงานใหญ่ กับหนังฆาตกรคลาสสิคในคราบตุ๊กตาอย่าง Chucky ใน Child’s Play
Polaroid เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่บังเอิญได้กล้องมือสองมาจากเพื่อน และใช้มันถ่ายรูปเพื่อนๆ ของเธอ แต่นั่นกลับนำมาซึ่งความหายนะ เพราะใครก็ตามที่โดนถ่ายด้วยกล้องนี้ไป วิญญาณมันจะตามมาเอาชีวิต
สำหรับเรื่องนี้ เรียกได้เลยว่าเป็นหนังผีสูตรสำเร็จ คอหนังผีก็จะคุ้นกันเป็นอย่างดีเวลาเจอเหตุการณ์นู่นนี่นั่นเต็มไปหมด คาดเดาได้ง่ายๆ รู้เลยว่าต่อไปผีโผล่แน่ เดี๋ยวคนนี้มันต้องทำแบบนั้นแบบนี้แน่ๆ และมันก็ใช่จริงๆ ที่น่าหงุดหงิดเลยคือเหล่าเหยื่อหรือตัวละครในเรื่องต้องทำอะไรโง่ๆ เสมอ เดินหาที่มึดบ้างไรบ้าง โดยเฉพาะไอ้การที่วิ่งไปสะดุดล้ม ชนนู่นชนนี้ ในระหว่างหนีผีนี่มันโคตรเก่า นี่ 2019 แล้ว ยังเล่นแบบนี้อีกหรอ - -” และมันไม่ใช่แค่ทีเดียว มันมีฉากแบบนี้ 2-3 รอบเลยทีเดียว คนที่นั่งดูในโรงนี้ถึงกับหลุดขำกันเป็นหนังตลกเลยทีเดียว ตัวหนังก็พยายามเหลือเกินที่จะให้คนดูตกใจด้วยการจั้มสแกร์ผ่านเสียง ที่ดังโคตรๆ
การดำเนินเรื่องมันก็ดูดีแค่ตอนแรกๆ มันก็น่าสนใจและหลอนพอใช้ได้อยู่ ซึ่งเป็นฉากแรกเลยนั่นแหละ บวกกับเสียงชัตเตอร์ของกล้อง ที่ติดๆ ขัดๆ ก็ชวนน่าขนลุกดีเหมือนกัน
เรื่องนี้มีจุดที่ไม่เข้าใจอยู่เยอะเหมือนกัน และสงสัยว่าจะมีทำไม คือนางเอกจะใส่ผ้าพันคออยู่ตลอด เพื่อปกปิดร่องรอยตั้งแต่แรก จนคนดูเริ่มสงสัย และเราเริ่มสนใจ อยากจะรู้ละ แต่พอเฉลยถึงที่มาที่ไป ก็ไม่ได้มีภาพให้เห็นว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ที่สำคัญ มันยังไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเหตุการณ์หลักที่เจออยู่เลยแม้แต่น้อย แล้วบทจะเสียเวลาปูประเด็นนี้ให้นางเอกเพื่อ!!!
มาถึงทางด้านตัวผีกันบ้าง ที่แรกๆ มาเป็นเงา มันก็ดูหลอน และแอบนึกในใจ ก็พอโอเคน่า ไม่ต้องเห็นเป็นเต็มๆ แต่พอมันออกมาเต็มๆ นี่สิ หมดกัน ความน่ากลัวที่สั่งสมมาตั้งแต่ต้น มันออกมาได้แบบมีพลังมหาศาล ไม่รู้ที่มาที่ไปว่ามันมีพลังเหล่านั้นยังไง จริงอยู่ที่หนังบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังกล้องตัวนี้ได้น่าสนใจว่าทำไมถึงมีผี แต่ไม่ได้บอกถึงเหตุผลว่าทำไมผีถึงเป็นแบบนั้นได้
สรุป Polaroid เป็นหนังผีที่มองข้ามไปก็ไม่ถือว่าน่าเสียดายแต่อย่างใด ที่น่ากลัวสุดคงจะเป็น กลัวว่าหนังเรื่องหน้าของผู้กำกับคนนี้อย่าง Child’s Play จะออกมาเป็นยังไงน้อออออ
ปล. รู้ก็ดีไม่รู้ก็ได้ การสะบัดภาพที่ออกมาจากกล้อง Polaroid ไม่ได้ช่วยทำให้ปรากฏภาพเร็วขึ้นแต่อย่างใด (ในเรื่องนี้ก็หยิบมาสะบัดกันซะจนรู้สึกตะหงิดๆ เลยทีเดียว)
สรุปผลวิจารณ์หนัง