Teacher and Student - ครูและนักเรียน
เข้าฉาย 11 กันยายน 2557
ผู้ชม : 11,227
ผู้กำกับ
: สราวุธ อินทรพรหม
ความยาวหนัง
: ไม่ระบุ
Text Size
“ต้น” ครูโรงเรียนมัธยม คบหากับแฟนชายหนุ่มชื่อ “แอล” มาได้ห้าปีแล้ว ความรักของทั้งสองเริ่มจืดจางลงตามกาลเวลา แอลพยายามเยื้อชีวิตคู่ให้ยาวนาน โดยการพาต้นไปจดทะเบียนสมรส ขณะที่ต้นกลับรู้สึกตกหลุมรัก “โจ” ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่เขาสอนหนังสืออยู่ อันมีเหตุมาจากความทรงจำในอดีตที่ตามหลอกหลอนต้น ต้นต้องเลือกระหว่างการมีชีวิตครอบครัวต่อไปกับแอล หรือทำตามใจตนเอง
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
ความคิดเห็น (0)
GUEST
1702
11 มีนาคม 2558 18:10:03
นนน
เเสดงได้ดีคัฟ
GUEST
tran ty
16 มกราคม 2558 20:24:42
19121992
GUEST
สิชล รอดเริงรื่น
6 ธันวาคม 2557 00:28:21
หนังเรื่องสุดสึ้งมาก
GUEST
หนังไม่ดีเท่าที่คุย
29 พฤศจิกายน 2557 19:23:36
ดูแล้วไม่ดีเท่าที่คุย ขายดาราแต่ดูแล้วฉากที่น่าสนใจก็มีเท่าที่ ทีเซอร์ออก ไม่มีอะไรมากกว่าหนังตัวอย่าง เสียดายเวลาไปดู ถ้าดูในเวปได้ฟรี ก็คงดูได้แค่ครึ่งเรื่อง เพราะไม่น่าดูเท่าไหร่ คราวหน้าทำหนังแนวนี้ อย่าโฆษณาเกินตัวนะ
GUEST
ธนวัช
24 ตุลาคม 2557 21:30:49
อยากดู
ครูและนักเรียน (สราวุธ อินทรพรหม / Thailand / 2014) C-
แรกๆ มีวิธีการเล่าน่าสนใจดีนะ ชอบในส่วนที่ใช้ไตเติ้ลเครดิตตัดสลับกับฟุตเตจข่าวสถานการณ์การเมืองที่ถ่ายทอดผ่านทีวี ในเฟรมมีกรอบรูปตัวละครวางอยู่ในเฟรมซึ่งรูปจะเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมไปตามภาพข่าวการเมืองแต่ละปีที่ดำเนินไปเพื่อเล่าผ่านเวลาเห็นการเติบโตในความสัมพันธ์ของตัวละคร แต่หลังจากนั้นก็เริ่มใช้บ่อยมากขึ้นจนกลายเป็นความซ้ำซาก รวมถึงวิธีการเล่าอื่นๆ ด้วย
คนทำคงคิดว่าตัวเองคิดทุกสัดส่วนมาดีแล้วเลยใช้สัญลักษณ์หนักมือจนล้นหนังกระจัดกระจายไปหมด โดยเฉพาะสีแดงๆ เหลืองๆ แบบโต้งๆ ทั้งเสื้อผ้าของพระเอก พ่อแม่ ชุดพละ เน็กไท กระเป๋า แฟ้ม แก้วน้ำ ผ้าขาวม้า ฯลฯ รวมถึงเด็กในชุดนักเรียนสวมหน้ากากขาว ทุกอย่างโผล่มาเยอะจนกลายเป็นจุดชวนให้คนดูรำคาญหรือขำขันไป
แต่มีที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งคือการจดทะเบียนสมรสที่หนังเซ็ตขึ้นมาว่าในปัจจุบันภายใต้ความขัดแย้งทางการเมืองกฎหมายได้อนุญาตให้ชายกับชายสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้แล้ว และหนังใช้ทะเบียนสมรสซึ่งเป็นเอกสารการันตีความรักความสัมพันธ์ที่มั่นคงของคู่ชีวิตมาใช้เป็นจุดคั่นแทรกแซะให้เห็นรอยร้าวระหว่างความคิดความต้องการที่แตกต่างกันของพระเอกทั้งสองคนได้เข้าท่าทีเดียว
เมื่อเทียบกับหนังของผู้กำกับคนเดียวกันที่เคยดูอย่าง 'หล่อลากไส้ (2013 / D-)' หนังเรื่องนี้ก็มีแง่น่าสนใจกว่ามากในความที่มีอะไร มันไม่ใช่หนังเกย์ที่เอาโรแมนติกดราม่าเลี่ยนๆเซ็กส์ซีนแรงๆ เป็นกลกลวงเข้าว่าเพื่อเรียกแขกอย่างเดียว
และจุดร่วมของหนังทั้งสองเรื่องที่สัมผัสได้คือความกล้าและความมั่นของผู้กำกับที่เลือกใช้วิธีการเล่าที่คิดว่าดีและอยากทำ ถึงแม้ผลลัพธ์มันจะล้มเหลวแต่อีกในมุมหนึ่งมันก็สร้างความหลากหลายให้คนดูหนังได้อยู่บ้าง
เสียแต่ว่ามันเป็นหนังที่ยังรู้สึกว่าคนทำไม่พยายามทำให้ดีทำให้สมราคาค่าตั๋วและเวลาชีวิตที่คนดูจะต้องแลก คือหนังสั้นประกวดส่งฉายตามเทศกาลหนังสั้นในบ้านเรายังดีกว่านี้ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ใช้ไมค์บูมดีมั้ย? เอาเวลาเมคอัพมาจัดแสงหน่อยมั้ย? ส่วนเหล่านี้น่าจะเอาใจใส่
ถือว่าโชคดีที่คราวนี้ได้กิฟต์เวาเชอร์ฟรีไปดู แต่โชคร้ายคือน่าจะเก็บไว้ดูเรื่องอื่น
สรุปผลวิจารณ์หนัง