Manchester by the Sea - แค่ใครสักคน
หนัง Manchester by the Sea หรือชื่อไทยว่า แค่ใครสักคน Manchester By The Sea เล่าเรื่องครอบครัวแชนด์เลอร์ ครอบครัวชนชั้นแรงงานจากแมสซาชูเซตส์ที่โจ (ไคล์ แชนด์เลอร์) พี่ชายของลี (เคซีย์ แอฟเฟล็ก) จากโลกนี้ไปอย่างไม่คาดคิด เขาจึงต้องเป็นคนดูแลหลานชาย (ลูคัส เฮดเจส) แล้วลีก็ต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมในอดีตที่พลัดพรากเขาจากอดีตภรรยา แรนดี้ (มิเชล วิลเลี่ยมส์) และชุมชนที่เขาได้เกิดและเติบโตมา หนังถ่ายทำที่นอร์ท ชอร์ แห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งหนังเรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดย เคนเนธ โลเนอร์แกน (You Can Count On Me, Margaret) หนังเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย แมตต์ เดมอน (Jason Bourne), คิมเบอร์ลี่ สจ๊วต (Through a Lens Darkly: Black Photographers and the Emergence of a People), คริส มัวร์ (The Adjustment Bureau) และเควิน วอลช์(The Way Way Back) ผ่านบริษัท K-Period Media
หนัง Manchester by the Sea An uncle is asked to take care of his teenage nephew after the boy's father dies.
Manchester by the Sea - แค่ใครสักคน
137 min | Drama | Directed by Kenneth Lonergan
1 ในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในรางวัลออสการ์ปีนี้ แม้จะไม่ได้ถือว่าเต็งที่จะคว้ารางวัลมากนัก แต่หลังจากที่ผมได้ชม หนังเรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว Manchester by the Sea เล่าถึงเรื่องราว ลี แชนด์เลอร์ ที่ต้องหวนกลับบ้านเกิดในแมนเชสเตอร์อีกครั้ง เนื่องจากพี่ชายของเขาเสียชีวิตอย่างกระทันหัน เขาจึงต้องกลับมาจัดการธุระ รวมไปถึงต้องมาดูแลหลานชาย และด้วยเหตุการณ์นี้เอง ทำให้เขาต้องกลับมาอยู่ในเมืองที่เขาได้พบกับโศกนาฏกรรมที่ทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่าง
แม้ว่าชองของหนังจริงๆ มันจะเป็นดราม่า แต่ตลอดทั้งเรื่องหนังถูกสอดแทรกมาด้วยมุกตลกร้าย ที่เป็นความตลกในความขมขื่น ซึ่งจุดนี้เองก็ทำให้หนังไม่มีความน่าเบื่อ เพราะตัวหนังก็เล่าเรื่องไม่มาก พลอตไม่ได้ซับซ้อน แต่เน้นให้ผู้ชมคลุกคลีไปกับตัวละครของ ลี ที่ในตอนแรกสุดเราจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงดูอมทุกข์และไม่มีความสุข โดยในจุดนี้เองก็ต้องชื่นชม เคซี่ย์ แอฟเฟล็ก ที่ถ่ายทอดได้อย่างยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ และเต็งที่จะคว้านำชายในปีนี้ แต่ที่เซอร์ไพร์สมากกว่าสำหรับตัวผมคือ ตัวละครหลานชาย ลูคัส แชนด์เลอร์ ที่รับบทโดย ลูคัส เฮดเจส เล่นได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้รุ่นใหญ่ในเรื่อง
Manchester by the Sea จึงเป็นหนังที่ผมค่อนข้างชอบมากเรื่องนึง ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา อย่างที่ผมกล่าวไป นอกจากจะเต็มเปี่ยมไปด้วยนักแสดงคุณภาพ ผมยังชื่นชอบที่หนังเล่าอย่างเรียบง่าย แต่ทรงพลังถึงคนที่พยายามต่อสู้กับบางสิ่งที่ยากลำบากมากที่จะสู้ นั่นคือความเจ็บปวดและความทุกข์จากอดีต และการสูญเสีย แม้มันจะเรียบแต่ก็เพลิดเพลิน จนตัวผมดำดิ่งไปกับความอึดอัดของตัวละคร จนท้ายที่สุดแทบจะหลุดร้องไห้ออกมา
ถือว่าสมราคาสำหรับ อีก 1 นอมินีหนังเยี่ยมในปีนี้ ไม่อยากให้พลาดชมด้วยประการทั้งปวงครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง