The Red Turtle - เต่าแดง
เข้าฉาย 26 มกราคม 2560
ผู้ชม : 8,181
ผู้กำกับ
: Michael Dudok de Wit (ไมเคิล ดูด็อค เดอ วิท)
ความยาวหนัง
: 80.00
Text Size
หนัง The Red Turtle หรือชื่อไทยว่า เต่าแดง การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยมไร้บทพูด เล่าชะตากรรมของชายคนหนึ่งที่ประสบเหตุเรืออับปาง ทำให้เขาติดอยู่บนเกาะร้าง และได้พบกับเต่าสีแดง ที่ทำให้ชีวิตต้องพบกับจุดเปลี่ยน ตลอดเวลาเขาเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง จนกระทั่งพบกับหญิงสาวคนหนึ่งและเริ่มต้นใช้ชีวิตกับเธอ
หนัง The Red Turtle The dialogue-less film follows the major life stages of a castaway on a deserted tropical island populated by turtles, crabs and birds.
Red Turtle (Michaël Dudok de Wit / France, Belgium, Japan / Animation / 2016)
ถ้าไม่นับหนังเทศกาลหรือหนังรอบสื่อ นี่ถือเป็นรางวัลสำหรับการเสียตังค์ดูหนังโรงปกติเรื่องแรกในรอบ 3 สัปดาห์!!! ซึ่งผิดปกติชีวิตส่วนตัวมากจริงๆ T^T
ส่วนตัวเป็นคนชอบเต่าอยู่ละ แล้วยิ่งได้เห็นเต่าในเรื่องนี้ที่ลวดลายสีสันประณีต ละเอียดอ่อน มันยิ่งดีงามมากๆ เต่าสีแดงตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเข้มมันสวยสะดุดตามากๆ การที่ไม่ได้ดูตัวอย่างหนังมาก่อนก็ทำให้มิราเคิลทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนังกลายเป็นเซอร์ไพรส์ไปทุกสิ่งอัน ทำให้เราเอ็นจอยกับหนังไปได้เรื่อยๆ มีทั้งความลุ้น ความระทึก ความตื่นตาตื่นใจ ความน่ารัก ระคนเคล้าคลอกันไปอย่างลงตัว
จังหวะที่คนกับเต่าเจอกัน แล้วจ้องหน้ากันครั้งแรก อย่างที่เห็นในภาพนี่มันอบอวลด้วยหลากความรู้สึกมากๆ ทั้งรู้สึกน่ากลัว หวาดระแวง น่าเกรงขาม มิตรภาพ โรแมนติก ลึกลับ ศักดิ์สิทธิ์ น่าค้นหา ความมหัศจรรย์เต็มไปหมด จนน้ำตาคลอเบ้า ก่อนที่ฉากต่อๆ มาหนังจะนำพาให้เราไปพบกับความละเอียดอ่อนของความเป็นมนุษย์ ไปจนถึงสรรพชีวิตน้อยใหญ่ที่เวียนว่ายตายเกิดอย่างงดงาม ปาฏิหาริย์กับชีวิตจริงมันเข้าเนื้อนวลน้ำได้ละมุนจริงๆ แค่งานภาพก็ตื่นตากับโทนสีสันงามๆ เพลินตาอยู่แล้ว ยิ่งได้ดนตรีประกอบหนังเพราะๆ ใสๆ ยิ่งเพลินใจเข้าไปอีก
การเริ่มเรื่องด้วยการให้การตายของอีกคนคือจุดเริ่มต้นของการเกิดเพื่อได้พบเจอ แต่การตายของอีกคนกลับต้องจากไปไม่มีปาฏิหาริย์ให้ฟื้นคืนนี่ก็หนักหน่วงสุดๆ นะ
แต่หนังทั้งหมดจนถึงตอนจบ อาจจะไม่ถึงขั้นกระแทกใจเราจังๆ อาจจะเพราะมันค่อยๆ นำพาเราไปพร้อมๆ กับตัวละครทีละน้อยๆ จนคาดเดาได้ไม่ยากว่า จุดจบของตัวละครที่หนังต้องการจะพาไปถึงจะลงเอยยังไง นอกจากนั้น หนังมันก็ยังกรุ่นให้ได้นึกย้อนถึงชีวิตหลากหลายแง่มุมที่กว้างใหญ่ไพศาลมากๆ ทำให้เห็นภาพความหวังที่จะรอดชีวิต ได้ดิ้นรนเอาตัวรอดได้ใช้ชีวิตและเติบโต แต่ก็พาให้ตระหนักว่าสุดท้ายชีวิตก็ต้องจบลง ไม่ว่าจะได้พรจากฟ้าให้พบเจอปาฏิหาริย์ชีวิตในรูปแบบไหน มีความสุขระหว่างทางเพียงใด แต่ชีวิตหนึ่งมันก็เกิดมาและดับไป หมุนเวียนเป็นวัฏจักรไปเพียงเท่านี้
สุดท้ายนี้ ขอมอบรางวัลแย่งซีนให้กับปูขาวทุกตัวในหนัง ที่ทำให้ยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง ทุกครั้งที่มันโผล่มาเลย ไปดูกันเถอะ เชียร์ที่สุดในนอมินีออสการ์แซง Zootopia เลยเรื่องนี้ ชอบมากๆๆๆๆๆ รักเลย
สรุปผลวิจารณ์หนัง