Alien: Covenant - เอเลี่ยน โคเวแนนท์
หนัง Alien: Covenant ริดลีย์ สก็อตต์ ย้อนกลับคืนสู่จักรวาลที่เขาเคยสร้าง Alien ด้วยภาพยนตร์เรื่องใหม่ ''Alien: Covenant'' ภาค 2 ของ Prometheus ซึ่งเป็นภาคต่อในหนังไตรภาคชุดนี้ และเชื่อมโยงโดยตรงเข้ากับนิยายวิทยาศาสตร์ปี 1979 ของสก็อตต์เอง โดยเรื่องราวจะดำเนินขึ้นเมื่อการเดินทางสู่ดาวเคราะห์อันไกลโพ้นที่สุดอีกด้านหนึ่งของกาแล็กซี่ ลูกเรือของยานอาณานิคม Covenant ได้ค้นพบสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นสวรรค์ซึ่งยังไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน แต่แท้จริงแล้วมันคือโลกอันตรายและดำมืด เป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ที่เจ้าเล่ห์และบ้าคลั่งหนึ่งเดียวนั้นคือ เดวิด (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) ผู้รอดชีวิตจากการสำรวจ Prometheus ที่ถูกทำลายไปแล้ว
หนัง Alien: Covenant The crew of the colony ship Covenant discover what they think is an uncharted paradise, but it is actually a dark, dangerous world, whose sole inhabitant is the synthetic David, survivor of the doomed Prometheus expedition.
หากใครก็ตามที่เป็นแฟนหนังชุด Alien ทั้งหลาย หรือเป็นแฟนของหนังจำพวก Monster อยู่แล้ว ชอบดีไซน์คาแรกเตอร์ประหลาดล้ำ ซีจีไออลังการเต็มเม็ดเต็มหน่วย การออกแบบซีนที่น่าตื่นเต้นลุ้นระทึก ผสานไปกับความน่าสะพรึงของเหล่าสัตว์ประหลาด ก็ไม่ควรที่จะพลาดการกลับมาของแฟรนไชส์ Monster ระดับตำนานอย่างเอเลี่ยนใน Alien: Covenant ด้วยประการทั้งปวง การันตีด้วยการกลับมาของผู้กำกับชั้นครูอย่าง Ridley Scott ผู้กำกับ Alien (1979) ปฐมบทแห่งเอเลี่ยน ซึ่งขึ้นหิ้งตำนานไปแล้ว และ Prometheus (2012) ที่ฉีกตัวออกไปเป็นหนังไซไฟอภิปรัชญาก่อนจะเชื่อมเรื่องราวมาสู่ Alien: Covenant
สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์สำคัญของหนังชุดเอเลี่ยน คือการผสานความเป็นอภิปรัชญาในหนัง ผ่านดีไซน์ของเจ้าตัวเอเลี่ยน ตัวละคร พล็อต ได้อย่างแยบยลคมคาย เช่นเดียวกันใน Alien: Covenant หนังได้สานต่อประเด็นว่าด้วยพระเจ้าหรือผู้สร้างเข้ามาเป็นฉากหลังของเรื่อง ซึ่งดูจะเป็นประเด็นที่สานต่อมาจาก Prometheus (2012) แต่น่าสนใจมากๆ เมื่อหนังชวนให้ตัวละครถกเถียงปัญหาแทนคนดู ไปถึงจุดที่ก้ำกึ่งระหว่างความเชยกับความน่าสนใจ และหนังก็เลือกที่จะไม่เปิดเปลือยคำตอบที่ชัดเจน
ในแง่ของความบันเทิง ในการเล่าเรื่องหนังยังมีจุดบกพร่องในหลายๆ จุด โดยเฉพาะความแข็งแรงของตัวบท ตัวละครหลายๆ ตัวถูกทำให้ไม่สำคัญเกินไป พล็อตที่ไม่ได้เกินความคาดหมายของคนดู กระนั้นจุดแข็งแรงที่สุดของหนังอย่างซีจีไอและดีไซน์ตัวละครเอเลี่ยน และจังหวะซีนต่างๆ ยังทำได้ดีและน่าสนใจ ทว่ามันถูกลดทอนความลุ้น ความสนุกลงไปด้วยบทที่ไม่แข็งแรงนัก
ถึงแม้จะเป็นการกลับมาที่พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำว่ายิ่งใหญ่ของ Monster ระดับตำนานอย่างเอเลี่ยน แต่มนตร์ความขลังของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ และบรรยากาศซีนที่คุ้นเคย ก็ยังคำให้เราหวนคิดถึงความรู้สึกเดิมๆ ที่มีต่อแฟรนไชส์ชุดนี้ ถึงแม้จะมีหลายเสียงบ่นไม่ชอบดีไซน์ของเจ้าตัวเอเลี่ยนเวอร์ชั่นนี้ ในแง่ที่ค่อนข้างจะกระจัดกระจายไม่มีความหนักแน่นภาพจำเหมือนซีนแหวกท้องมนุษย์ออกมาเกิด และดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก แต่มองอีกแง่หนังก็ได้สร้างจินตนาการใหม่ๆ ได้น่าสนใจ และมีเซนส์ของการล้อตัวเองอยู่ไม่น้อย
สรุปผลวิจารณ์หนัง