0 From+The+Land+Of+The+Moon+-+%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1+%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B0+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C++%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%9F+%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B0+%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%99

From The Land Of The Moon - ฟอร์ม เดอะ แลนด์ ออฟ เดอะ มูน

เข้าฉาย 27 ตุลาคม 2559
ผู้ชม : 7,481
ผู้กำกับ : Nicole Garcia (นิโคล การ์เซีย)
ความยาวหนัง : 120.00
Text Size

หนัง From The Land Of The Moon เป็นผลงานกำกับของ นิโคล การ์เซีย ผู้กำกับหญิงมากความสามารถ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ คือการเข้าชิงรางวัลปาล์มทองของเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 4 ของเธอ ... หนังดัดแปลงจากนิยายขนาดสั้นชื่อเดียวกันนี้ของ มิเลน่า อากุส นักเขียนหญิงชาวอิตาเลียน ซึ่งติดอันดับขายดีในยุโรป เดิมอากุสเขียนเป็นภาษาอิตาเลียน หลังจากได้รับคำชม ก็ถูกแปลอีก 5 ภาษา รวมทั้งภาษาฝรั่งเศส จนหนังสือติดอันดับขายดียอดขายอันดับ 1 นานนับเดือน นิโคล การ์เซียบอกว่า เธอสนใจนิยายเรื่องนี้ที่ประเด็นทางเลือกของผู้หญิง และกรอบของสังคมที่เข้ามาทำให้ชีวิตของตัวละครต้องสั่นคลอน แต่เหตุผลที่สำคัญกว่านั้น การ์เซียบอกว่า เธอทำหนังเรื่องนี้ เพราะนิยายเรื่องนี้ทำให้เธอหวนมาคิดถึงชีวิตรักของตัวเธอเอง


หนัง From The Land Of The Moon Adaptation of Milena Agus' novel ''Mal di Pietre'', set after WWII following Gabrielle (Marion Cotillard), a passionate, free-spirited woman who is in a loveless marriage and falls for another man.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

2 พฤศจิกายน 2559 02:29:27

From the Land of the Moon (Nicole Garcia / France / 2016)

ป้า Nicole Garcia นักแสดงและผู้กำกับหนังในวัย 70 งคงมีหนังให้เราได้ดูกันในปีนี้  หลังจากทำหนังยาวมาแล้วหลายเรื่อง  และมีโอกาสได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำในเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้วถึง 3 ครั้ง  The Adversary (2002), Charlie Says (2006) และ From the Land of the Moon นี้เองคือเรื่องล่าสุด

From the Land of the Moon เป็นเรื่องราวชีวิตความรักความต้องการของ Gabrielle (กาเบรียล) หญิงสาวที่ป่วยเป็นโรคทางจิตกับชายหนุ่มที่เข้ามาในชีวิตของเธอ  กระทั่งเธอได้แต่งงานกับชายคนหนึ่งที่พยายามที่จะรักเธอและดูแลเธอให้ดีที่สุด  จนกระทั่งวันหนึ่งที่กาเบรียลป่วยจนสามีต้องส่งเธอไปบำบัดรักษาที่สถานบำบัดแห่งหนึ่ง  และที่นั่นเองกาเบรียลก็ได้พบกับชายหนุ่มที่เธอหลงรักอย่างจริงจัง

ชอบมากๆ ที่สถานพยาบาลแห่งเดียวที่ตัวละครป่วยทางจิตอย่างกาเบรียลไปเพื่อที่จะบำบัดโรคไม่ใช่โรงพยาบาลจิตเวช  แต่เป็นสถานที่รักษาอาการป่วยทางร่างกาย  ซึ่งนำพาเธอให้มาพบกับชายหนุ่มที่เธอหลงรักจนเกิดบรรยากาศความรักชวนโรแมนติก  ความผูกพันชวนอบอุ่น  และชีวิตที่ถูกความพร่องทางจิตหลอกให้หลงสุขก็แสนเศร้าได้อย่างรุนแรง

ถึงแม้สุดท้ายหนังจะอาศัยโครงสร้างของการเล่าเรื่องราวของตัวละครจิตไม่ปกติเทือกๆ นี้ที่ดูซ้ำซากไปหน่อย  แต่รายละเอียดระหว่างทางนั้นงดงามและน่าสนใจ  ทั้งตัวละคร  สถานการณ์  และโลเคชั่นที่ตัวละครไปเยือนต่างก็ทำหน้าที่ขับเล่าความสุขที่แท้จริงและปนลวงให้งดงามไปพร้อมกับความจริงที่ตัวละครต้องกลับมาเผชิญ  และทั้งหมดทั้งมวลหนังได้พาเราเข้าถึงส่วนสำคัญที่สุดนั่นก็คือการให้เราเข้าใจความรู้สึกของตัวละครที่ป่วยทางจิตได้อย่างจับใจ  เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ส่วนนักแสดงทั้ง Marion Cotillard, Louis Garrel และ Alex Brendemühl ก็ต่างถ่ายทอดตัวละครได้สมจริง  สะเทือนอารมณ์ได้อย่างน่าชื่นชม  โดยเฉพาะเจ้มารียงนั่นแล
 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7.5
การดำเนินเรื่อง
8
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
7.8
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
27 ตุลาคม 2559 23:54:33

From the Land of the Moon 

120 min | Drama/Romance | Directed by Nicole Garcia 

ภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศส ที่ดัดแปลงจากหนังสือชื่อเดียวกัน หนังว่าด้วยเรื่องราวของ แกบรีแอล หญิงสาวผู้โหยหารักแท้ที่ต้องแต่งงานกับผู้ชายแสนดีที่แม่ชอบแต่ตัวแกบรีแอลไม่ได้รัก จนมาวันนึงเธอต้องไปรักษาตัว ณ ที่ห่างไกล เธอได้ตกหลุมรักนายทหารเก่าคนนึงที่ไปรักษาตัวที่เดียวกับเธอ มหากาพย์ความรักจึงเริ่มขึ้นเมื่อแกบรีแอลต้องเลือกระหว่างผู้ชายที่เธอรักกับผู้ชายที่รักเธอ 

แม้ว่าพลอตจะดูน้ำเน่าไปบ้างแต่ด้วยการกำกับ งานภาพ และ การแสดงของ มาริยง โกติยาร์ นักแสดงสาวฝรั่งเศสมากฝีมือที่เรื่องนี้เธอมาเต็มและทุ่มสุดตัว ทั้งอินเนอร์และโชว์เนื้อหนังซึ่งทำได้ดีตามมาตรฐานที่สูงมากของเธอ และเป็นตัวที่คอยผลักหนังให้ดีงามได้ ผมดูแล้วเคยอ่านสกู๊ปผ่านๆว่าตัวผกก.อยากได้นางมาเล่นเท่านั้น ซึ่งผมเห็นด้วยจริงๆว่าถ้ามาริยงไม่มาผมอาจจะหลุดไปในโทนเบื่อหนังเลยก็ได้  

ช่วงปูเรื่องในตอนแรกๆอาจจะน่าเบื่อไปนิด แต่พอดูไปได้สักพักกลับเริ่มอินและเริ่มสัมผัสได้ถึงรัศมีของความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งหนังยังพูดถึงประเด็นเฟมินิสค่อนข้างมาก (ก็แหงล่ะ) ทำให้ภาพรวมของหนังทำให้ผมชอบในระดับนึง 

หากใครหาหนังโรแมนติกดราม่าน้ำดี ที่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่ารสชาติค่อนข้างขม เหมาะสำหรับคนที่รอปราฎิหารย์ หรือผิดหวังในความรักอยู่ในอารมณ์หม่นหมอง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนฟังเพลงอกหักร้อยเพลง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเห็นถึงแสงหรือสิ่งที่สวยงามอยู่บ้าง ตามธรรมชาติของชีวิตมนุษย์

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
7
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
8.5
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
7.3
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย

ความคิดเห็น (0)