John Wick : Chapter 2 - แรงกว่านรก 2

           เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ John Wick ภาคแรกเรียกได้ว่าเป็นหนังแอ็คชั่นสุดเดือดแสนมันส์ ขึ้นหิ้งหนึ่งในหนังแอ็คชั่นที่มันส์ที่สุดในช่วงขวบปีหลังมานี้ คือความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวละคร โปรดักชั่นดีไซน์โลกอาชญากรที่โม้ได้แสนแนบเนียนกับยุคสมัย การดีไซน์ฉากแอ็คชั่น (โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครเอกใช้ปืนราวกับเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะ) และพล็อตเรื่องเรียบง่ายไม่ซับซ้อนแต่มีหมัดฮุกที่เด็ดดวง ว่าด้วยเรื่องนักฆ่ารีไทร์ตัวฉกาจที่สุนัขของเขาถูกฆ่าตาย นั่นทำให้เขากลับมาหยิบปืนอีกครั้งสร้างความฉิบหายวายวอดกับบรรดาศัตรูที่ถูกฆ่าเรียงคน และเสิร์ฟความตื่นตาตื่นใจกับรสชาติแอคชั่นดิบๆ ที่หาดูได้ยากให้กับคนดู ความดิบระห่ำที่มีรสกึ่งๆ จะแมสเคล้ากับความเป็นหนังแอ็คชั่นคัลท์ๆ ตอกย้ำความมีเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

                การกลับมาอีกครั้งใน John Wick 2 ราวกับว่าตัวหนังได้เพิ่มดีกรีความบ้าระห่ำขึ้นไปจนสุดอีกขั้น กับเปอร์เซ็นต์ฉากแอ็คชั่นที่เพิ่มขึ้น กระสุนปืนที่มากขึ้น และการฆ่าที่มากขึ้น ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้องค์ประกอบเดิมที่เรียบง่าย โลกในหนังที่มีการสมมติองค์กรอาชญากรได้รับการขยายให้เราเห็นดีเทลที่น่าสนใจ และหนังก็หยิบใช้ทุกอย่างที่เซ็ตขึ้นในโลกที่สร้างขึ้นได้อย่างเพลิดเพลินลงตัว

                นอกเหนือจากความเป็นเอกลักษณ์ของรสแอ็คชั่นแล้ว สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจมากๆ คือปูมหลังตัวละคร John Wick ผู้เป็นนักฆ่ามือพระกาฬที่อยากจะวางมือใช้ชีวิตอย่างสงบสันติอยู่บ้านชานเมืองเงียบๆ กับสุนัขคู่ใจ แต่มิวายต้องถูกชักนำให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับโลกเดิมของเขาทุกทีไป มิติที่น่าสนใจของตัวละครคือ ถึงแม้เจ้าตัวจะดูอยากวางมือและรักสันติเท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่ถูกปลุกให้ของขึ้นและกลับมาหยิบปืนอีกครั้ง เขาก็ดูหฤหรรษ์ไปกับการฆ่า ราวกับว่าการฆ่าเท่านั้นที่มอบความหมายของความเป็นตัวตนให้กับเขา และไม่อาจแยกไปจากชีวิตของเขาได้

          John Wick และ John Wick 2 อาจไม่ได้เป็นหนังที่มีหน้าหนังระดับ Top ที่มีโปรดักชั่นดีไซน์อลังการ หรือมีนักแสดงระดับแม่เหล็กมากมายเท่าใดนัก แค่คุณภาพที่อัดแน่นไปด้วยความมันส์ระห่ำแบบดิบๆ บนเส้นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนยุ่งเหยิงมากเกินความจำเป็น จนไม่นำพาเหมือนหนังฟอร์มยักษ์หลายๆ เรื่อง นับเป็นหนังที่คอแอ็คชั่นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

John Wick Chapter 2 - แรงกว่านรก 2

122 min | Action/Thriller | Directed by Chad Stahelski

ระห่ำ + มันส์ + ไม่หยุดยั้ง ที่เพิ่มเติมด้วยความสวยงามด้านภาพยนตร์ คือคำที่สามารถนิยามหนังเรื่องนี้ได้ หลังจากที่ John Wick ภาคแรกได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 2014 หนังสร้างเซอร์ไพร์สด้วยเสียงตอบรับที่ยอดเยี่ยม และจากความสำเร็จนี้เองก็ทำให้ภาคต่อถูกสร้างออกมาทันที ซึ่งผมต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า John Wick Chapter 2 นี้ยอดเยี่ยม ไม่แพ้ หรือจะต้องบอกว่ายิ่งกว่าภาคแรกซะด้วยซ้ำ โดยในภาคนี้ จอห์น วิค จะต้องไปรับภารกิจที่ตนไม่เต็มใจทำมากเท่าไหร่ แต่ก็ต้องทำเนื่องจากต้องชำระหนี้ที่ตนติดไว้ก่อนจะรีไทร์วงการนักฆ่า และการรับภารกิจนี้เอง ก็นำไปสู่การต่อสู้แบบ non-stop ที่เดือดยิ่งกว่าภาคแรก

หลังจากที่ดูจบ สำหรับผมต้องบอกว่ามันเป็น 1 ในหนังภาคต่อ (sequel) ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องนึง เทียบกับพวก Judgement Day หรือ Riad 2 เลยก็ว่าได้ ซึ่งจะว่าไปตัวหนังเองก็คล้ายกับ Raid 2 ซึ่งคล้ายในทีนี้หมายความว่า สานต่อความสำเร็จจากภาคแรก ด้วยสเกลที่ใหญ่ขึ้นและน่าค้นหามากขึ้น ที่สำคัญคือทำได้ยอดเยี่ยมและน่าจดจำยิ่งกว่าภาคแรกเสียอีก

และเหตุผลเพิ่มเติมที่ทำให้ผมรัก John Wick Chapter 2 มาก คงต้องแบ่งเป็นข้อๆให้ดังนี้ครับ

1. คิวบู๊ที่สมจริง และแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของทีมสตันท์เลยครับ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะจากที่ผมไปค้นคว้าหาข้อมูลมาก็พบว่า ตัวผู้กำกับเองแกเป็นสตันท์มาก่อน ทำให้งานคิวบู๊ต่างๆ ค่อนข้างดีงามมาก

2. คีอานู รีฟ ยิ่งเล่น ยิ่งเท่ ยิ่งเก๋า การฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมเพิ่มเติมในการมารับบทจอห์น วิค ของนักแสดงชายคนนี้ออกผลดีเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยเสริมความเท่ และความเป็นนักฆ่าที่เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ และการใช้อาวุธทุกชนิดออกมาได้เข้มแข็ง น่าเชื่อถือ และจับต้องได้มากขึ้น

3. ความประทับใจ (สุดๆ) ที่มีต่อภาคแรก นั่นคือหนังสร้างโลกของนักฆ่า กฎของนักฆ่า รวมไปถึงสถานที่และระบบต่างๆ ออกมาได้น่าสนใจ ซึ่งในภาคนี้มันถูกพูดถึงมากขึ้น ขยายใหญ่และทำให้เราเห็นรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น ซึ่งในจุดนี้เอง ทำให้ตัวหนังยิ่งน่าค้นหามากขึ้น ส่วนตัวอาจจะเพราะผมชอบอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ดูหนังประเภทเจ้าพ่อ มาเฟีย หรือรวมไปถึงการอ่านการ์ตูนรีบอร์นมาตั้งแต่เด็ก ฮ่าฮ่า

4. กลับมาที่เรื่องของฉากแอ็คชั่นสักนิด สิ่งทีผมประทับใจมาก คือการที่จอห์น วิคต่อสู้แบบ non-stop ด้วยการใช้ปืนต่อสู้แบบระยะประชิด มันดูเท่และน่าสนใจ จนทำให้ผมนึกไปถึงฉากต่อสู้ในโบสถ์ของ Kingsman เลยทีเดียว

5. หนังไม่ได้มีดีแค่บู๊มันส์อย่างเดียว แต่ด้านงานภาพก็ยังถ่ายออกมาได้สวยงาม ดนตรีประกอบก็ดีงาม และที่สำคัญไม่ตัดต่อเร็วแต่ไร้สาระ ตัดต่อบ้าพลังจนดูไม่ได้ (แบบที่พึ่งเจอไปใน re6)

6. หมาของจอห์นวิค… (ซึ่งตัวคีอานู รีฟเองก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหนังฉายแล้วว่า หมาในภาคนี้ไม่ตายนะครับ!!)

และทั้งหมดนี้ คือคร่าวๆ ที่ผมพอจะนึกออกหลังจากดูจบ หนังค่อนข้างครบถ้วนและทำได้ดีเท่าที่มันควรเป็น ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงจริงๆ เนื้อเรื่องแม้จะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก (อย่างที่หลายคนพูดถึงภาคแรก ว่าบทไม่มีอะไรเน้นยิงกันอย่างเดียว) แต่ภาคนี้ก็เสริมให้มันดูมีอะไรมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ส่งผลให้ John Wick Chapter 2 เป็นหนังแอ็คชั่นภาคต่อ ที่หากใครดูภาคแรกมาแล้วไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าใครยังไม่เคยดูภาคแรก ผมแนะนำให้รีบหามาดูแล้วรีบไปต่อเนื่องกับภาค 2 โดยเร็ว เพราะผมเชื่อจริงๆ ครับ ว่า John Wick จะเป็นอีก 1 ตำนานอย่างแน่นอน รับประกันความดีงามและความมันส์เลยครับ