Akira - อาคิระ
หนัง Akira หรือชื่อไทยว่า อาคิระ One of the best-known examples of contemporary Japanese animation, this cyberpunk adventure takes place in the post-apocalyptic city of Neo-Tokyo. A teen-age boy is exposed to a mysterious energy source and develops telekinetic powers that place him at the center of a conflict that may destroy the world.
หนึ่งในตำนานอนิเมะญี่ปุ่นสุดคลาสสิค กับเรื่องราวการผจญภัยในโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 แห่งนคร Neo-Tokyo เมื่อกลุ่มวัยรุ่นได้เจอกับเด็กปริศนาผู้มีพลังจิต ทำให้พวกเขาต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเพื่อนของเขาก็โดนจับไปทดลองกลายเป็นชนวนครั้งใหม่ที่อาจทำให้โลกสลายเป็นจุล
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
Akira
" เทตตตซือออโอ้ กับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่ยังไปไม่ถึง "
124 min | Animation/Sci-fi | Directed by Katsuhiro Otomo
ภาพยนตร์อนิเมชั่นสัญชาติญี่ปุ่นที่ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 1988 และเรื่องราวในหนังเริ่มต้นในปีเดียวกันว่าด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ในเมืองหลวงของประเทศอย่างโตเกียว และต่อมาได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จนประเทศได้พินาศสิ้นไป 31 ปีต่อมาญี่ปุ่นได้สร้างเมืองหลวงขึ้นมาใหม่ในนาม นีโอ โตเกียว แต่ผลกระทบจากเหตุการณ์ในอดีตทำให้สภาพสังคมเสื่อมโทรมลงไปเรื่อย ๆ ก็ได้มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึงที่ออกซิ่งยามวิกาลและโดนตำรวจรวบอยู่บ่อย ๆ นำโดย คาเนดะ และ เท็ตสึโอะ สองเพื่อนซี้ พวกเขาออกซิ่งป่วนเมืองกันทุกคืนจนกระทั่งคืนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นและเท็ตสึโอะโดนองค์กรลับจับตัวไป ทำให้คาเนดาและเพื่อน ๆ ต้องออกตามหา และช่วยเหลือเท็ตสึโอะออกมาให้ได้
ต้องบอกก่อนว่าจริง ๆ แล้ว Akira เป็นหนังที่คุณก็สามารถหาดูได้จากแผ่นดีวีดีหรือ vod ทั่วไปเพราะก็เป็นหนังเก่า แต่การที่ได้ชมผ่านจอภาพยนตร์มันเป็นอีกอารมณ์นึงเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผมได้ชมผ่านจอ IMAX มันสุดยอดมากทั้งในเรื่องของงานภาพ ดนตรีประกอบที่ถ้าพูดกันตามตรงก็คือมันไม่ทำให้เราง่วงกับวิธีการเล่าของหนังแบบสโลวเบิร์น หรือถ้าใครดูหนังอย่าง Blade Runner ที่มีแบ็คกราวเป็นความ Cyberpunk ที่มีกลิ่นแบบนีโอโตเกียวเหมือนกันก็จะพอนึกภาพออกอยู่บ้าง เพียงแต่ด้วยความเป็นอนิเมชั่น pacing ของหนังก็จะช้าไปอีกระดับด้วย การรับชมบนจอภาพยนตร์ทำให้เรามีสมาธิและได้เข้าไปอยู่ในหนังได้จริง ๆ กว่าเดิมจนผมได้เห็นความสวยงามของหนังเรื่องนี้มากขึ้น (ก่อนหน้านี้สารภาพว่าดูผ่านแผ่นแล้วกว่าจะจบก็ต้องเปิดดูใหม่หลายรอบมาก ฮา)
และแม้ว่าหนังจะผ่านยุคสมัยของญี่ปุ่นมาถึงสองยุค เป็นเวลาร่วม 3 ทศวรรษ แต่ประเด็นในหนังก็ไม่ได้ดูเก่าไปเลยแม้แต่น้อย แต่อาจจะไม่ใช่กับประเทศญี่ปุ่น เพราะพวกเขาในปัจจุบันนี้ค่อนข้างแตกต่างจากดิสโทเปียที่พวกเขากลัวไปมากในระดับนึงเลยทีเดียว และในขณะเดียวกันความเสื่อมโทรมใน Akira ดูจะใกล้เคียงกับบางประเทศในแถบ sea มากกว่า จนนึกว่าในเรื่องเป็นนีโอบีเคเคไปเลยบางที
ความเป็นอมตะของหนังไม่ได้มีเพียงแค่ประเด็นที่หนังจะสื่อสารกับเราในเรื่องเท่านั้น แต่รูปแบบ เรื่องราว งานภาพมันดูไม่ใช่หนังเก่าขนาดนั้น ดนตรีประกอบที่โคตรล้ำมันเลยยังคงดึงความสนใจให้เราเข้าถึงข้อมูลยาก ๆ ซับซ้อน ๆ ที่หนังจ่ายให้กับเราได้ง่ายขึ้น ผมจะไม่บอกว่าหนังเรื่องนี้มันสนุกนะ แต่มันเป็นหนังที่ควรค่าและคุ้มค่าที่จะลองดูโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงภาพยนตร์สักครั้ง เพราะมันเหมือนได้พาเราย้อนเวลากลับไปในช่วงนั้น ทำให้เราเข้าใจความกลัวของคนยุคนั้น และในตอนนี้มันได้เป็นเช่นนั้นหรือไม่ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากแล้ว
ถือว่าเป็นอีกโปรแกรมที่แนะนำให้ไปรับชมกันเลยครับหากมีโอกาส โดยเฉพาะช่วงเดือนนี้ที่ก็ไม่ค่อยมีหนังโปรแกรมใหม่ ๆ ให้ได้ดูกันเท่าไหร่ เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์การรับชมอนิเมชั่นญี่ปุ่นขึ้นหิ้งเรื่องนี้แบบเต็ม ๆ ตาตัวเองสักครั้ง ยิ่งถ้าคุณเป็นคนชอบอนิเมชั่น ชอบความไซไฟ หรือแม้แต่คุณชอบหนังอย่าง Blade Runner นี่เป็นอีก 1 จินตนาการในแบบฉบับ Cyberpunk ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยครับ
สรุปผลวิจารณ์หนัง
[รีวิว] Akira - คนไม่ใช่คน
--- 9/10 ---
เหนือกาลเวลา
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ก็ไม่มีวันเชย
บอกก่อนเลยว่าไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อนเลย ไม่เคยรู้เรื่องราวของมันด้วย เคยเห็นเพียงแต่คนพูดถึง และได้ดูคลิปสั้นๆ กับตัวอย่างผ่านตามาเท่านั้น และตีความไปว่าก็แค่หนังอนิเมชันแอ็คชั่นในโลก Cyber Punk เท่านั้น แต่พอได้ดูแล้วมันไม่แค่นั้น
.
Akira เข้าฉายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 16 กรกฏาคม 1988 และมันได้กลายเป็นตำนานแห่หนังอนิเมชันญีปุ่นที่ทุกคนกล่าวขานถึงอย่างไม่รู้จบ กลายเป็นวัฒนธรรม Pop-Culture ที่มีภาพจำและเป็นแม่แบบให้กับหนัง/อนิเมชันยุคหลังหลายต่อหลายเรื่อง
.
Akira เป็นหนังอนิเมชันดราม่าไซไฟที่บอกเล่าเรื่องราวญี่ปุ่นหลังผ่านสงครามโลกครั้งที่ 3 กลายเป็นยุค Neo-Tokyo โลกที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม มีวัยรุ่นตีรันฟันแทง ตั้งแก๊งมอเตอร์ไซต์แว๊นๆ แง๊นๆ กันเพียบ ประชาชนเรียกร้องเสรีภาพรวมตัวกันชุมนุมประท้วงต่อรัฐบาล ฝั่งรัฐบาลก็โกงกัน มีโครงการรับหวังผลาญงบประมาณประเทศชาติเล่นๆ เรียกได้ว่าเป็นโรคที่น่าหดหู่แบบสุดๆ และเนื้อเรื่องก็บอกเล่าผ่านแก๊งมอเตอร์ไซต์วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่นำโดย คาเนดะ ที่คืนนึงหลังจากไล่ตีคู่อริ ทางน้องเล็กอย่างเท็ตสุโอะก็ได้ไปเจอกับเด็กลึกลับผู้มีพลังวิเศษ ทำให้เขาโดนทางรัฐบาลจับไปทดลองทำให้มีพลังลึกลับขึ้นมา และมันอาจหมายถึงจุดจบของโลก จึงทำให้คาเนดะต้องไปช่วยเหลือน้องรักของเขา
.
พอดูจบแล้วยังอึ้ง ทึ่งมากๆ กับเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะผ่านมาถึง 32 ปีแล้ว เรื่องราวมันไม่ได้เก่าเลย มันช่างใหม่และคุ้นเคยแบบสุดๆ จนน่าประหลาดใจ ทั้งประเด็นสังคมมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมในหลายๆ ด้าน หลายภาคส่วน เรื่องราวของเด็กที่โตมาในสภาพสังคมที่แย่จะโตมาเป็นยังไง รวมถึงประเด็นภาครัฐที่มีฉากนึงน่าจะสะอึกหลายๆ คนบ้างแน่นอน ทั้งการผลาญเงิน ใช้อำนาจในทางที่ผิด หรือการยึดอำนาจของฝ่ายทหารก็ตาม เป็นหนังอนิเมชันที่มาก่อนกาล และเหนือกาลเวลามาก ที่ไม่ว่าจะหยิบดูจากนี้ 10 ปี 20 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้า ในใจเราเชื่อว่ามันไม่มีคำว่าเชยเลยจริงๆ
.
ซึ่งประเด็นของคาเนดะกับเท็ตสุโอะมันน่าสนใจมาก ทางด้านคาเนดะ กับวัยรุ่นใจกล้าพร้อมมอเตอร์ไซต์สีแดงคู่ใจ ภาพแทนของฮีโร่ ที่รับหน้าที่นี้ในฐานะเพื่อนและพี่ที่แสนดีของเท็ตสุโอะ คอยให้กำลังใจ และเป็นห่วงอยู่เสมอ เลยมองโลกอนาคตที่ดีกว่า ส่วนทางด้านเท็ตสุโอะคือเด็กที่ต้องเติบโตมาอย่างยากลำบาก พ่อแม่ทิ้ง เจอคนกลั่นแกล้ง โดนมาตั้งแต่เด็กๆ จึงเลือกที่จะมองโลกเลวร้ายและเมื่อได้พลังจึงส่งให้เป็นอย่างที่เห็นในหนัง
.
และสิ่งที่เลวร้ายจริงๆ คืออำนาจมืดที่ประชาชนไม่เคยล่วงรู้ เมื่อรัฐบาลอยากควบคุมความเหนือธรรมชาติ หวังจะสร้างอำนาจให้แก่ตนเอง จับเด็กมาทดลอง และเหยื่อรายล่าสุดเป็นเท็ตสุโอะ ที่กลายเป็นแพะรับบาป แบกรับความกดดันจากตัวเอง และกลายมาเป็นความผิดพลาดที่รัฐบาลผลักภาระมาให้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผลจากความเลวร้ายนี้ คนที่รับผลไปไม่ต่างกัน ก็คือประชาชนทุกคน
.
สุดท้ายนี้ หนังอนิเมชันเรื่องนี้มันอาจจะไม่เพอร์เฟ็ค บางจุดยังเบาบางที่เล่าที่ดำเนินเรื่องออกมา แต่ก็มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ยกระดับความยอดเยี่ยมทั้งในด้านบท เพลงประกอบ โลก Neo-Tokyo ที่เสื่อมโทรม อยากบอกว่านี่ไม่ใช่หนังอนิเมชันสำหรับเด็กเลยแม้แต่น้อย ทั้งในด้านเนื้อหาที่ไม่ได้ลึกมากแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวสะท้อนสังคมในหลายๆ ด้าน และที่สำคัญฉากอันรุนแรง ด้วยเลือด เป็นต้น ซึ่งถ้าตอนเด็กๆ ได้ดู ก็คงไม่รู้สึกว่าชอบหรอก แต่พอได้มาดูตอนนี้กับหลงรักไปเลย
- แอดยิ้มแย้ม
จะว่าไปผมเองก็ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ หรือผ่านๆตาตอนลงแผ่นเลยแม้แต่น้อย จนมาปีนี้ได้มีการเอากลับมาฉายบนจอยักษ์ IMAX เป็นครั้งแรก ผมถึงกับตั้งตารอ ว่ามันจะออกมาอลังการแค่ไหน
เนื้อเรื่องว่าด้วยโลกอนาคต ปี 2019 ในเมือง Neo-Tokyo ที่ซึ่งโลกไม่ได้น่าอาศัยอยู่ หรือเหมาะสม สำหรับที่จะใช้ชีวิตซักเท่าไหร่ เมื่อเกิดเหตุประหลาด มีกลุ่มเด็กที่มีพลังจิต ได้ออกมาปลดปล่อยพลังกลางเมือง ซึ่งสุดท้ายอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้อากิระ ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
เอาเข้าจริงผมล่ะทึ่งกับเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะในยุคนั้น การเขียนบท หรือสร้างเรื่องราวในตัวงานแอนิเมชั่นนั้น สามารถสร้างได้ล้ำจินตนาการเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าได้ชมในยุคนี้ เนื้อเรื่องก็ยังคงความเป็นโลกอนาคตได้อยู่ไมได้เสื่อมคลายไปแต่อย่างใด ถ้าใครนึกไม่ออกว่าการที่ได้มาดูเรื่องนี้เหมือนการได้มาชม ภาคแยกของหนังแนวๆเดียวกับ Alita Battle Angel อย่างใดอย่างงั้นเลยก็ว่าได้ ไม่แปลกในที่หนังเรื่องนี้เป็นแรงบัลดาลใจให้กับหนัง Sci-fi ในตำนานอย่าง The Matrix นั่นเอง 8.5/10
ปล.ได้ดูใน IMAX มีความปั้วปังเต็มตาทั้งภาพและเสียงจริงๆ จนบางครั้งลืมไปเลยว่านี่เป็นแอนิเมชั่นเก่านะ สามารถรีมาสเตอร์ได้ออกมาคุณภาพดีเทียบเท่าหนังใหม่เลย โดยเฉพาะเพลงประกอบที่ยังฟังดูแปลกและล้ำเวอร์
สรุปผลวิจารณ์หนัง