Seoul Station - ก่อนนรกซอมบี้คลั่ง
หนัง Seoul Station หรือชื่อไทยว่า ก่อนนรกซอมบี้คลั่ง Seoul Station อนิเมชั่นที่จะถ่ายทอดเรื่องราวที่จะเป็นต้นกำเนิดปรากฏการณ์ซอมบี้คลั่ง ในภาพยนตร์เรื่องดังจากแดนกิมจิที่ทำเงินสูงสุดในเมืองไทยอย่าง Train to Busan ซุกคิว ชายผู้พยายามตามหา ฮเยซัน ลูกสาวที่หายตัวไปหลังจากหนีออกจากบ้าน ก่อนจะพบว่าเธอทำงานเป็นหญิงขายบริการอยู่ในกรุงโซล แต่แล้วได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นฉับพลัน ณ สถานนีรถไฟโซล เมื่อไวรัสปริศนาได้แพร่ระบาด และเปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นซอมบี้คลั่งออกอาระวาดไปทั่วทุกแห่ง จนเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นทวีคูณและเข้าโจมตีผู้คนอย่างไม่เลือกหน้า ขณะที่รัฐบาลได้ทำการปิดเมือง ให้กลายเป็นเขตกักกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้ลุกลาม ดังนั้น ซุกคิว, ฮเยซัน และแฟนหนุ่ม ผู้เห็นแก่ตัวของเธอ จึงต้องหาทางเอาชีวิตรอดและหนีตายจากเมืองทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยฝูงซอมบี้ และนำไปสู่จุดเริ่มต้นของสถานการณ์ระทึกใน Train to Busan ต่อไป
อนิเมชั่นว่าด้วยมหันตภัยมนุษย์กลายร่างเป็นซอมบี้ ไล่กัดกินมนุษย์ด้วยกันเอง ซ้ำยังแพร่เชื้อจนบ้านเมืองวินาศสันตะโร เช่นเดียวกับ Train to Busan ที่เพิ่งประสบความสำเร็จไปอย่างถล่มทลาย Soul Station ก็วิพากษ์สังคมโดยใช้ซอมบี้เป็นภัยร้าย ที่เปิดเผยให้เห็นปัญหาเนื้อแท้อันเน่าเฟะของสังคม ที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น คนจรจัดไร้บ้าน คนหนุ่มสาวผู้สิ้นหวังไร้อนาคตทางอาชีพ และการเอารัดเอาเปรียบขูดเลือดเนื้อกันเองของพวกเขาเหล่านั้น
ตัวละครในเรื่องต่างกำลังต้องหนีจากภัยร้าย ในขณะเดียวกันก็อยากกลับบ้านที่พลัดหลงมานาน ดูเหมือนบ้านจะเป็นคำที่สำคัญและเป็นหัวจิตหัวใจในการอยากมีชีวิตรอด ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่มีบ้านที่แท้จริง ความย้อนแย้งคือการที่เป็นคนจรจัดต้องอาศัยสถานีรถไฟเป็นบ้าน โดยที่สถานีรถไฟเป็นที่เพียงสัญจรไปมาของกลุ่มคนในสังคมที่เหนือกว่าพวกเขา ปัญหาเชิงโครงสร้างที่รัฐไม่สามารถแก้ไขได้ ถูกทำให้ระเบิดออกโดยภัยจากภายนอกที่ไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างโรคระบาดซอมบี้ ทำให้ไม่เพียงแต่เราจะได้เห็นปัญหายากเย็นของคนจรจัดในสถานการณ์ปกติ เราได้เห็นพวกเขาถูกกดทับและแทบไม่ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งในสังคมมากขึ้นไปอีก เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่ปกติเช่นนี้
ในแง่เทคนิคแล้ว การนำเสนอภาพยนตร์แบบอนิเมชั่นใน Soul Station อาจทำให้หงุดหงิดในลีลาการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างตะกุกตะกัก เช่นในฉากที่ตัวละครพากันหนีการไล่ล่าของซอมบี้ ภาพและจังหวะไม่สามารถทำให้เราร่วมลุ้นเสมือนว่ากำลังหนีไปกับตัวละครได้เหมือนกับการดูหนังแบบคนแสดงจริง
โดยสรุปแล้ว Soul Station อาจเป็นหนังที่เฉียบคมในการวิพากษ์สังคมความเหลื่อมล้ำในเกาหลี แต่ในแง่ของความบันเทิงน่าระทึกของหนังที่ปะหน้าว่าเป็นหนังซอมบี้ อาจทำไม่ได้ตามที่คนดูคาดหวังมากนัก ซึ่งก็อาจไม่ใช่สิ่งที่คนทำแคร์เท่าไหร่ เมื่อหนังพาเราไปสู่บทสรุปของเรื่องที่ตบหน้าสังคมได้แสนน่าเศร้า น่าสิ้นหวัง
สรุปผลวิจารณ์หนัง