0 The+Dark+Tower+-+%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%AC

The Dark Tower - หอคอยทมิฬ

เข้าฉาย 10 สิงหาคม 2560
ผู้ชม : 38,088
ผู้กำกับ : Nikolaj Arcel (นิโคลาจ อาร์เซล)
ความยาวหนัง : 95.00
Text Size

หนัง The Dark Tower หรือชื่อไทยว่า หอคอยทมิฬ ไอดริส เอลบา รับบทเป็นโรแลนด์ เดสเชน หรือ สิงห์ปืนไว (The Gunslinger) พระเอกของเรื่อง ที่มีอายุราว 200 ปี ซึ่งออกเดินทางตามหาหอคอยผ่านประตูมิติต่างๆ และมีแมทธิว แมคคอนนาเฮย์ รับบทเป็นบุรุษชุดดำตัวร้ายของเรื่อง ทั้งสองมาจากต่างโลกกัน และต้องมาแย่งชิงเด็กน้อยจากโลกที่เราอยู่ชื่อ เจค แชมเบอร์ (ทอม เทย์เลอร์) ที่มีความสามารถพิเศษในการ "ส่องแสง" ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งโรแลนด์กับบุรุษชุดดำต้องการ โดยโรแลนด์ต้องการใช้มันพิทักษ์หอคอยเพื่อให้เขาได้เดินทางข้ามมิติได้ ส่วนบุรุษชุดดำต้องการใช้มันทำลายหอคอย


หนัง The Dark Tower หรือชื่อไทยว่า หอคอยทมิฬ Gunslinger Roland Deschain roams an Old West-like landscape in search of the dark tower, in the hopes that reaching it will preserve his dying world.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

18 สิงหาคม 2560 15:29:53

The Dark Tower อีกหนึ่งความน่าผิดหวังจากปลายปากกา สตีเฟ่น คิง

สตีเฟ่น คิง ถือเป็นเจ้าของผลงานนิยายแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญหลาย ๆ เรื่อง ที่ถูกหยิบเอามาทำเป็นภาพยนตร์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Carrie, Salem's Lot, It, 1408, The Mist และอีกมากมาย ซึ่งในยุคหลัง ๆ ช่วงที่ฮอลลีวูดเน้นทำภาพยนตร์ภาคต่อ รีเมคจากผลงานสุดคลาสสิก
ผลงานของลุงสตีเฟ่น คิง ก็ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่เป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็น Carrie 2013 ซึ่งอันนี้โดยรวมยังโอเคให้ความบันเทิงได้ แต่ถ้าเน้นความสยองแบบเวอร์ชั่นต้นฉบับนั้นยังเทียบไม่ได้ จนมาถึงปีนี้เป็นคราวของ The Dark Tower และ it ที่เป็นการรีเมคอีกครั้งของฮอลีวูด (ในส่วนของ It นั้นจะกลับมาเขียนอีกทีเมื่อหนังฉายนะครับ)

The Dark Tower เป็นหนังซื้อที่สตีเฟ่น คิงเขียนและได้รับความนิยมจนมีภาคต่อหลายเล่มมากเลยก็ว่าได้ เป็นที่น่าจับตาเป็นอย่างมากเมื่อถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ พร้อมกับดาราชั้นนำของยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น อิดริส เอลบา และ แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ (ที่รายหลังนี้ตัดสินใจเล่น The Dark Tower ทันทีที่เห็นบทภาพยนตร์ และปฏิเสธที่จะรับบท อีโก้ พ่อของสตาร์ลอร์ดใน Guardians of the Galaxy Vol.2 ทิ้งไปง่าย ๆ เลยก็ว่าได้)

ส่วนตัวผมตื่นเต้นที่จะได้ดูผลงานจากปลายปากกาของลุงสตีเฟ่นคิงอีกครั้ง แต่แล้วหลังจากได้ชมจบ ต้องบอกเลยว่า ถ้าไม่มีคำโปรยว่าดัดแปลงจากผลงานสตีเฟ่น คิง หนังมันจะดูดีขึ้นมาอีกระดับเลยทีเดียว แต่เมื่อเป็นการจั่วหัวว่าดัดแปลงจากผลงานของลุงสตีเฟ่นแล้ว ทำไมตัวหนังมันถึงง่ายและธรรมดาถึงเพียงนี้!

เรื่องราวว่าด้วยจักรวาลถือกำเนิด และมีการแบ่งมิติหลายมิติ โดยที่มีหอคอยดำเป็นแกนกลางเพื่อรักษาสมดุลของแต่ละมิติ ไม่ให้ปีศาจจากมิติมืดเข้ากลืนกลินสิ่งมีชีวิตจากโลกต่าง ๆ ได้ ยอมรับว่าพลอตคร่าว ๆ และช่วงต้นเรื่องนั้นมีความน่าสนใจและทำฉากออกมาดีมาก น่าติดตาม แต่จนแล้วจนรอด เมื่อเด็กหนุ่มผู้ถูกเลือกให้มีพลังพิเศษ ที่สามารถทำลายหอคอยลงได้ ได้ถูกส่งไปยังมิติอื่น ตอนนั้นเองตัวหนังก็กลายเป็นหนังวิ่ง ๆ หนี ๆ ไล่ล่า ๆ แล้วก็วนลูปไปมาจนทั้งเรื่อง เหมือนการย่ำอยู่กับที่ พร้อมฉายฉากการที่ตัวร้ายพยายามที่จะทำลายหอคอยลงไปให้ได้ ทุก ๆ 10-15 นาทีของเรื่องนั้น ทำให้ฉากที่เคยชอบช่วงต้นเรื่องกลายเป็นรำคาญ และคิดว่าเมื่อไหร่หนังมันจะจบซะที 

อีกใจนึงของผม ก็คิดว่ามันน่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพร์สให้ตื่นเต้นช่วงท้ายอีกมั้ย เพราะเป็นสไตล์การเขียนของลุงสตีเฟ่นอยู่แล้ว ที่ชอบน็อคคนอ่าน หรือคนดูตอนจบแบบที่เคยทำ คนดูเหมือนโดนตบหน้ากลางสี่แยกมาแล้ว หลังจากดู The mist จบ แต่สำหรับ The Dark Tower นั้นไม่มีอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ที่ทำให้เราประทับใจกับช่วงที่ควรจะเป็นฉากที่พีคสุด เป็นไฮไลท์ของเรื่องได้ และไม่แปลกใจเลยที่คะแนนรีวิวจากเมืองนอกต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ส่วนตัวถ้าให้ผมแนะนำหนังให้คนอื่น ๆ ไปดูช่วงนี้ ผมขอแนะนำให้ไปชม Cars 3 หรือไม่ก็ Annabelle 2 จะดีซะกว่าอีกครับ 

สรุปแล้วเป็นผลงานที่น่าผิดหวังอีกเรื่อง ที่เอาผลงานของ สตีเฟ่น คิง มาย่ำยีไม่เหลือชิ้นดีใด ๆ แอบกังวลเรื่อง it เวอร์ชั่นรีเมคที่จะฉายเดือนหน้า ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไปได้ดีกว่า The Dark Tower หรือไม่นะครับ ส่วนตัวผมให้เรื่องนี้ 6/10 ก็พอแล้ว

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
6
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
10 สิงหาคม 2560 10:38:07

The Dark Tower - หอคอยทมิฬ

95 min | Action/Fantasy | Directed by Nikolaj Arcel

หนังดัดแปลงจากหนังสือของ สตีเฟ่น คิงส์ ชื่อเดียวกับชื่อเรื่อง ว่าด้วยเรื่องของเด็กหนุ่ม เจค แชมเบอร์ ที่มักจะฝันเห็นนิมิตแปลก ๆ คือเห็นหอคอย เห็นบุรุษชุดดำผู้กระทำสิ่งไม่ดี จับเด็กที่มีความสามารถพิเศษไปเพื่อใช้ทำลายหอคอยนั่น และ Gunslinger ซึ่งเขาคิดมาตลอดว่ามันน่าจะเป็นความจริงที่เกิดขึ้นที่ใดสักแห่งในโลก แต่ไปเล่าให้ใครฟังก็โดนหาว่าป่วย จนอยู่มาวันนึงเขาต้องหลบหนีจากกลุ่มคนลึกลับที่มาตามล่าเขา ทำให้เขาต้องหนีและออกตามหาสิงห์ปืนไว

นี่คือ Scary Movie ในเวอร์ชั่นหนัง Sci-fi หรือไงกัน?

เป็นหนังที่ตลกมาก ไม่ใช่ในความหมายที่ดีนะครับ และตลอดที่ดูทั้งเรื่องก็ไม่หลับเลย เพราะหลังจากการปูเรื่องอันแสนน่าเบื่อของหนังในช่วง 15 นาทีแรก ผมก็ไม่ได้โฟกัสกับตัวหนังมันอีกเลย แต่หันไปโฟกัสกับการจับผิดว่าหนังเรื่องนี้มีกลิ่นอายเรื่องอะไรบ้าง เอ้ย! ไม่ใช่ ได้รับแรงบันดาลใจจากอะไรมาบ้าง ซึ่งที่หนักที่สุดก็น่าจะเป็น Star Wars ส่วนหอคอยนั่นก็ทำให้คิดถึงเซารอนเหลือเกิน แถมมิติอีกมิตินึงก็ชื่อมิดดิลแลนด์อีก แหม่...ตลอดทั้งเรื่องเลยรู้สึกเหมือนดูหนังยำอะไรเทือกนั้นมากกว่า และผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นมาตั้งแต่ต้นฉบับนะ แม้ว่าในพาร์ทของหอคอยเหมือนจะเคยอ่านว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก TLOR ก็จริง 

ปัญหาของหนังนอกหลัก ๆ เลยคือการเล่าเรื่องที่แย่มาก เพราะในช่วงต้นหนังตั้งใจจะปูเรื่องให้เรารู้จักกับเด็กเจค เพราะเป็นตัวหลัก ตัวเอก และเป็นกุญแจของเรื่อง แต่ก็ดูจะไม่แยแสกับตัวละครนี้เท่าไหร่ คนรอบข้างของเด็กก็ถูกปูและใส่มาอย่างไร้ชีวิต (โดยเฉพาะเพื่อนเด็กเจค ที่ดูเหมือนจะมีอะไร) และใช้เวลานานมากไปกับมัน กว่าจะได้เจอกับ Gunslinger จริง ๆ หลายคนก็อาจจะหลับไปแล้ว แต่ถ้าคุณยังรอดชีวิตอยู่ มาดูกันว่าคุณจะเจอกับอะไร 

แต่เราข้ามมาในส่วนอื่นที่แย่ไม่แพ้กัน นั่นคือในเรื่องของโปรดักชั่น ผมว่าหนังน่าจะมีปัญหาในการถ่ายทำเป็นอย่างมาก อย่างแรก ๆ คือรู้สึกได้ว่ามีหลายฉากถ่ายไม่คอนเลยแม้แต่น้อย มีหลุดมีพลาดบ้าง ถ้าได้ดูน่าจะเห็น มีการถ่ายซ่อมอย่างเห็นได้ชัด และการตัดต่อที่แย่ในขั้นวิกฤต เพราะระหว่างที่คุณดูคุณจะรู้สึกถูกกระชากจะที่นึงไปยังที่นึงอย่างรวดเร็ว ไร้เหตุผล และห้วนมาก นี่มันบ้าอะไร เราพยายามตั้งใจจะฟังในสิ่งที่คุณเล่า แต่คุณเปลี่ยนเรื่องเฉย แล้วบอกว่าเรื่องที่เล่ามาเมื่อกี้ช่างมันเถอะ! ให้ตายสิ! 

คลิกเพื่อซ่อนหรือแสดงข้อความ
 

นี่คือหนังเรื่องนึงที่ผมไม่ชอบที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเราไม่สามารถหาสาระสำคัญ หรือสร้างความทรงจำที่ดีด้วยได้ คุณอาจจะโอเคกับท่าทาง และความเท่ของ อิดริส เอลบา บ้าง แต่มันไม่อาจช่วยอะไรให้หนังเรื่องนี้ มีความสนุก ความเร้าใจ เพราะหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยปัญหา จืดชืด และแห้งแล้ง ไม่มีความสนุกใด ๆ ผูกปมชนิดที่ว่าใหญ่โตแต่แก้ง่ายราวกับใช้เลื่อยไฟฟ้ามาตัดเชือก สิ่งเดียวที่พอจะจำได้ก็คือแอ็คติ้งตลก ๆ ของ แมคคอนนาเฮย์ ที่มาทับซ้อนกับความทรงจำสมัยเขาคว้าออสการ์กับ Dallas Buyer Club ไปเสียจนหมดสิ้น 

หากคุณมีเสี้ยวความคิดที่อยากดูและคาดหวังอะไร อาทิ ความบันเทิง หรือความตื่นตาตื่นใจ ผมอยากให้ลืมมันซะ! แล้วหันหน้าหาโปรแกรมหนังเรื่องอื่นที่มีคุณภาพมากกว่าในสัปดาห์นี้ จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยครับ 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
3
การดำเนินเรื่อง
1
ดนตรีประกอบ
5
ฝีมือนักแสดง
4.5
กราฟฟิก
6.5
คะแนนเฉลี่ย
4
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
11 สิงหาคม 2560 16:54:24
ความเห็นเหมือนกับด้านบนเลย

ความคิดเห็น (0)