Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales - สงครามแค้นโจรสลัดไร้ชีพ
เข้าฉาย 24 พฤษภาคม 2560
ผู้ชม : 65,683
ผู้กำกับ
: Joachim Rønning, Espen Sandberg (โยอาคิม โรนนิ่ง, เอสเพ็น แซนเบิร์ก)
ความยาวหนัง
: 130.00
Text Size
หนัง Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales กำกับโดย โยอาคิม โรนนิ่ง และ เอสเพน แซนด์เบิร์ก มุ่งหน้าเปิดศึกแห่งมหาสมุทรบทใหม่โดยมี ตรีศูลของโพไซดอน อาวุธสำคัญของเทพแห่งกรีกเป็นศูนย์กลางของเรื่อง ซึ่งใครที่ได้ครอบครองมันจะมีพลานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่างใต้ท้องทะเล กัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ต้องเดินทางออกตามหามันเพื่อปกป้องท้องทะเลจากกัปตันซาลาซ่า มหาวายร้ายที่หลบหนีจากแดนแห่งความตายกลับมาล้างแค้นและหมายฆ่ากัปตันเดินเรือทุกคนบนโลก โดยเฉพาะ กัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ ที่มีอดีตบาดหมาง ยากที่จะให้อภัยได้นั่นเอง
หนัง Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales Captain Jack Sparrow searches for the trident of Poseidon.
Pirates of the Caribbean Salazar's Revenge ตำนานบทใหม่ของเหล่าโจรสลัด
ใครจะไปนึกว่า เครื่องเล่นในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ จะถูกต่อยอดทำเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ และมีภาคต่อจนมาถึงภาคที่ 5 แล้ว ซึ่งช่วงภาคหลังๆ อาจจะมีเเป๋ไปบ้างเพราะเปลี่ยนผู้กำกับใหม่ สำหรับภาคนี้แฟนๆ ก็ต้องมาลุ้นอีกทีว่าจะปังหรือแป๊ก
ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น เป็นการเล่าโยงไปยังท้ายภาค 3 หลังจากที่ วิล เทอร์เนอร์ ต้องถูกสาปให้กลายเป็นกัปตัน ของเรือฟลายอิง ดัชแมน และจะขึ้นบกได้ทุกๆ 10 ปี เป็นปมที่น่าเล่นไม่น้อย เพราะลูกของ วิล เทอร์เนอร์ นั้นไม่ยอมแพ้ที่จะต้องการล้างคำสาป ให้พ่อเขาได้กลับมาอยู่บ้านเป็นครอบครัวเดียวกันตลอดไป และนี่ก็เป็นจุดกำเนิดของภาคนี้
โดยรวมแล้วตัวหนังนั้นมีความอยากจะกลับไปคืนสู่รากเหง้าของซีรีย์นี้ ในแบบที่ภาคแรกทำเอาไว้ ทำให้หลายคนมองว่ามันออกจะน่าเบื่อไปซะหน่อย แต่ส่วนตัวแล้วนั้น เป็นการหวนรำลึกถึงภาคแรกได้ดีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทำดีเสมอตัว แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าไตรภาคแรกที่ทำเอาไว้ ที่แน่ๆ คือดีกว่าภาค on Stranger tide มากโข
จุดบอดของภาคนี้ คงจะเป็นตัวบทที่ไม่ค่อยกลมกล่อมและขับดันให้ จอห์นนี่ เดปป์ นั้น โชว์ความเป็นแจ็คสแปร์โร มากเท่าที่ 3 ภาคแรกทำไว้ อีกทั้งเป็นภาคที่งาน CG บางฉากดูลอยไม่ค่อยเนียนสมจริงเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะว่าภาคนี้ กระหน่ำจัดเต็มใส่ CG มาเยอะแบบโคตรๆ ตามทุนสร้าง จนบางฉากนั้นการจะลงดีเทลรายละเอียดให้เนียนเสมือนจริง อาจจะเกินกำลังและระยะเวลาสำหรับทีมทำ CG งานเลยออกมาดูด้อยกว่าไตรภาคแรกซะอีก
จุดเด่นของภาคนี้ น่าจะเป็นการย้อนกลับไปเล่าเรื่องปูมหลังของหลายๆ ตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นแจ็คเอง หรือแม้กระทั่งครอบครัวเทอร์เนอร์ ที่เป็นแรงผลักดันให้ออกตามหาตรีศูลในภาคนี้ และเซอร์ไพร์ในช่วงท้ายของบางตัวละคร เป็นอะไรที่เกินความคาดหมายไว้จริงๆ
อีกเรื่องที่ต้องชมเลยคือเป็นภาคแรกที่มีการทำอัตราส่วนขยายเฉพาะระบบ IMAX ตลอดทั้งเรื่อง (แบบเดียวกับที่ Beauty and the Beast ทำไว้) ทำให้งานภาพสามมิติเรื่องนี้ เวลาชมในระบบ IMAX 3D กินขาดจริงๆ และเป็นที่น่าเสียดายที่ของดีๆ แบบนี้จะลาโรงเร็วไปเหมือนกัน เพราะระบบ IMAX เข้าฉายเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น นั่นคือวันที่ 24-31 พ.ค. ดังนั้นผมขอแนะนำให้ไปชมกันด่วนๆ เลยก่อนที่จะพลาดของดีไป
สรุปแล้ว Pirates of the Caribbean Salazar's Revenge มันจะไม่เพอร์เฟคหรือทำดีกว่าไตรภาคแรกก็ตาม แต่ถ้ามองในแง่ของความบันเทิงนั้นมีเต็มเปี่ยม ยิ่งกว่าภาคที่แล้วเยอะครับ เป็นการกลับมาเพื่อให้หายคิดถึง พร้อมปูทางให้จักรวาลโจรสลัดดำเนินต่อไปได้อีกไกล (ถ้ารายได้ไม่แป๊กไปซะก่อน) 8/10 ไปเลย
สรุปผลวิจารณ์หนัง