ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

โหมด Sleep, Hibernate, Shutdown และ Hybrid คืออะไร ? และ ต่างกันอย่างไร ?

โหมด Sleep, Hibernate, Shutdown และ Hybrid คืออะไร ? และ ต่างกันอย่างไร ?

เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 59,582
เขียนโดย :
0 %E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%94+Sleep%2C+Hibernate%2C+Shutdown+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Hybrid+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

โหมด Sleep, Hibernate, Shutdown และ Hybrid ต่างกันอย่างไร ?

เชื่อว่าผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คเป็นประจำนั้นน่าจะทราบวิธีการ "พักเครื่อง" อย่างการ "กด Sleep" หรือการพับหน้าจอโน๊ตบุ๊ค และการ "กด Hibernate" เพื่อพักการใช้งานเครื่องชั่วคราว รวมไปถึงการกด Shutdown เพื่อ "ปิดการทำงานของเครื่อง" หลังใช้งานเสร็จกันเป็นอย่างดี

บทความเกี่ยวกับ Windows อื่นๆ

และนอกเหนือไปจาก 3 โหมดนี้แล้ว ก็ยังมี โหมด Hybrid อีกด้วย ซึ่งวิธี การหยุดการทำงานของคอมพิวเตอร์ทั้ง 4 โหมด นี้ก็มีจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

 

เนื้อหาภายในบทความ

Sleep Mode คืออะไร ?

Sleep Mode หรือ โหมดนอนหลับ เป็นการสั่งให้คอมพิวเตอร์ "หยุดพักการทำงาน" หรือหลับไปชั่วคราว โดยมันจะหยุดการทำงานของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดตั้งแต่การทำงานของ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), หน้าจอ, ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) และการทำงานอื่น ๆ ของตัวเครื่องทั้งหมดลง รวมทั้งชะลอการจ่ายไฟเลี้ยงเครื่องให้น้อยที่สุดเหลือเพียงแค่การใช้งาน หน่วยความจำ RAM เพียงเล็กน้อยเพื่อช่วย "ประหยัดพลังงาน" เครื่องในขณะที่เราไม่ต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์นั่นเอง

และแน่นอนว่าถ้าใครใช้งานโน๊ตบุ๊คบ่อย ๆ แล้วละก็น่าจะใช้งานโหมด Sleep กันค่อนข้างบ่อย เพราะเราสามารถบังคับใช้โหมดนี้ด้วยการ "พับหน้าจอ" ลงที่แสนจะสะดวกสบาย หรือจะไปที่ "เมนู Start" แล้วกด "ปุ่ม Sleep" เพื่อสั่งให้เครื่องหลับไปก็สามารถทำได้เช่นกัน

Sleep Mode คืออะไร ?

ซึ่งหลังจากที่เครื่องงีบหลับไปชั่วคราวแล้วเราก็สามารถที่จะ "ปลุกให้ตื่น" เพื่อกลับมาใช้งานเครื่องต่อโดยการเปิดฝาพับโน๊ตบุ๊คขึ้นมาแล้วขยับเมาส์ หรือเคาะไปที่คีย์บอร์ดเพื่อ "สะกิดปลุก" คอมพิวเตอร์ของเราให้ตื่นขึ้นมาทำงานต่อ และหลังจากที่โดนปลุกขึ้นมาใหม่แล้วคอมพิวเตอร์ของเราก็จะสะลึมสะลือเล็กน้อยก่อนกลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิมโดยไม่ต้องรอบูธเครื่องใหม่

หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ แล้ว การกด Sleep เครื่องนั้นก็คล้ายกับการกดหยุดเครื่องเล่น DVD หรือกด Pause คลิป YouTube ชั่วคราวเพื่อไปรับอาหารหรือเข้าห้องน้ำแล้วกลับมากดดูต่อจากที่ค้างเอาไว้โดยไม่ได้ปิดเครื่องไปนั่นเอง ดังนั้นการใช้งานโหมด Sleep จึงเหมาะกับการ "พักยก" ไปทำกิจกรรมอย่างอื่นครู่หนึ่งก่อนกลับมาใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโหมด Sleep จะกินพลังงานเครื่องที่น้อยมากแล้วก็ตาม แต่สำหรับคนที่ใช้งานโน๊ตบุ๊คแล้วเปิดใช้งานโหมดนี้ไปนาน ๆ ก็ทำให้แบตหมดได้เช่นกัน เพราะมันเพียงช่วย "ประหยัดพลังงาน" ของตัวเครื่องไปชั่วคราวเท่านั้น (แต่ถ้าใช้งาน PC ตั้งโต๊ะที่เสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจนัก)

วิธีการตั้งเวลาให้ Sleep Mode ทำงานอัตโนมัติ

เราสามารถตั้งเวลาล่วงหน้าให้เครื่อง "เผลอหลับไป" ได้ดังนี้

  • ไปที่ "เมนู Setting"
  • คลิกไปที่ "เมนู System"
  • เลือกที่ "เมนู Power & Sleep"

จากนั้นกดเลือกระยะเวลาที่ต้องการให้เครื่องเข้าสู่โหมด Sleep ได้ตามต้องการตั้งแต่ 1 นาทีไปจนถึง 5 ชั่วโมงหลังปล่อยเครื่องไว้เฉย ๆ โดยไม่ได้มีการใช้งาน หรือ เลือกกด "ตัวเลือก Never" หากต้องการให้เครื่องทำงานอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีการเผลองีบระหว่างการใช้งานก็ได้เช่นเดียวกัน

สไลด์รูปภาพ

 วิธีการตั้งเวลาให้ Sleep Mode ทำงานอัตโนมัติวิธีการตั้งเวลาให้ Sleep Mode ทำงานอัตโนมัติวิธีการตั้งเวลาให้ Sleep Mode ทำงานอัตโนมัติ

Hibernate Mode คืออะไร ?

Hibernate Mode หรือ โหมดจำศีล ก็เป็นการสั่งให้คอมพิวเตอร์ "หยุดพักการทำงาน" ของอุปกรณ์ทุกอย่างลงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ CPU, ฮาร์ดดิสก์, หน้าจอ รวมไปถึง RAM ของตัวเครื่องโดยที่ยังคงบันทึกข้อมูลการใช้งานและการทำงานของโปรแกรมต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เอาไว้ดังเดิมโดยไม่จำเป็นต้องใช้งานพลังงานใด ๆ ในการเลี้ยงเครื่องเลยแม้แต่น้อย

เพราะในขณะที่ โหมด Sleep จะเก็บข้อมูลการใช้งานและการทำงานของโปรแกรมต่าง ๆ เอาไว้บน RAM ที่จำเป็นจะต้องใช้ไฟเลี้ยงเครื่อง การกดใช้งานโหมด Hibernate นี้จะโยกย้ายข้อมูลการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ จาก RAM ไปเก็บไว้ใน Disk ของเครื่องแทน และหยุดการทำงานของคอมพิวเตอร์คล้ายการกด Shutdown

แต่เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งจะดึงข้อมูลที่บันทึกไว้ใน Disk มารันใหม่จึงสามารถใช้งานต่อจากที่ค้างไว้ได้อย่างลื่นไหล แต่จะเสียเวลาในการบูตเครื่องที่มากกว่าการใช้งาน โหมด Sleep เพราะ Hibernate นั้นเป็นการ "ปิดเครื่อง" แบบคงข้อมูลเดิมเอาไว้จึงต้องใช้เวลาในการบูตเครื่องใหม่นั่นเอง 

การใช้งานโหมด Hibernate จึงคล้ายกับการนำเอาของกินไป "แช่ช่องฟรีซ" ที่เมื่อนำเอาออกมาละลายน้ำแข็ง (Defrost) หรือเอาเข้าไมโครเวฟไปไม่กี่นาทีก็สามารถรับประทานได้ทันทีโดยไม่เสียเวลามากนัก หรือเปรียบได้กับการกดปิด Netflix กลางคันไปก่อนที่จะกลับมากดที่ "เมนู Continue Waching for ..." เพื่อดูหนังหรือซีรีส์ต่อจากที่ค้างเอาไว้ได้

Hibernate Mode คืออะไร ?
ภาพจาก : https://hypeandstuff.com/wp-content/uploads/2020/07/Netflix-Remove-From-Continue-Watching-2-2.jpg

วิธีการตั้งค่าใช้งาน Hibernate Mode บน Windows

โดยเราสามารถเรียกใช้งานโหมด Hibernate บน Windows ได้ดังนี้

  • กดไปที่ "เมนู Start"
  • คลิกที่ "ปุ่ม Hibernate"

หรือหากไม่เห็นปุ่ม Hibernate ก็ให้เข้าไปตั้งค่าการใช้งานก่อนดังนี้

  • เข้าไปที่ "เมนู Control Panel"
  • ไปที่ "เมนู All Control Panel Items"
  • จากนั้นเลือก "Power Option"
  • คลิกที่ "ตัวเลือก Choose what the power buttons do" (System Setting)
  • กดไปที่ "ตัวเลือก Change settings that are currently unavailable"
  • เลือกเปิดการทำงานของ "ปุ่ม Hibernate" บนเมนูพลังงาน (Power Menu)
  • กด "ปุ่ม Save changes"

เท่านี้ก็จะมีปุ่ม Hibernate ให้สามารถใช้งานได้แล้ว

สไลด์รูปภาพ

 วิธีการตั้งค่าใช้งาน Hibernate Mode บน Windowsวิธีการตั้งค่าใช้งาน Hibernate Mode บน Windowsวิธีการตั้งค่าใช้งาน Hibernate Mode บน Windowsวิธีการตั้งค่าใช้งาน Hibernate Mode บน Windowsวิธีการตั้งค่าใช้งาน Hibernate Mode บน Windows

วิธีการตั้งค่าใช้งาน Hibernate Mode บน macOS

สำหรับบนระบบปฏิบัติการ macOS นั้นจะพิเศษกว่า Windows ตรงที่เราจะสามารถกดที่ "Reopen windows when logging back in" ตอนก่อนกด Shutdown เครื่อง และเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งมันก็จะเรียกใช้งานโปรแกรมและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เปิดค้างไว้กลับขึ้นมาดังเดิมโดยไม่จำเป็นต้องเปิดการทำงานของโหมด Hibernate แต่สำหรับผู้ที่ต้องการตั้งค่าใช้งานโหมด Hibernate บน macOS ก็สามารถทำได้โดยการเข้าไปตั้งค่าได้ดังนี้

  • ไปที่ "Terminal"
  • จากนั้นพิมพ์คำสั่ง "pmset -g | grep hibernatemode" หรือ "sudo pmset -g" ก็จะปรากฏตัวเลขค่าคำสั่งต่าง ๆ ขึ้นมา
  • หากคำสั่ง hibernatemode เป็นเลข 3 ก็ให้พิมพ์คำสั่ง "sudo pmset -a hibernatemode 25"

Shutdown Mode คืออะไร ?

Shutdown Mode หรือ โหมดปิดเครื่อง ที่เราคุ้นเคยกันดีนั้นก็เป็นการสั่งให้คอมพิวเตอร์ "หยุดการทำงาน" และหยุดการใช้งานระบบต่าง ๆ ของเครื่องอย่างสมบูรณ์ เมื่อกด Shutdown แล้วตัวเครื่องจะไม่ดึงพลังงานไฟฟ้าไปใช้งานอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงสามารถถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ออกได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร

โดยทุกครั้งที่กด Shutdown เครื่อง ระบบก็จะทำการล้างข้อมูลการใช้งานโปรแกรมทุกอย่างออกไปทั้งหมด และหากเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ก็จะต้องรอเวลาบูธเครื่องและกดเปิดโปรแกรมต่าง ๆ ขึ้นมาด้วยตนเอง ไม่มีการบันทึกข้อมูลการใช้งานสำรองเอาไว้เพื่อใช้งานต่อจากที่ค้างอยู่แต่อย่างใด ดังนั้นจึงเหมาะจะใช้งานเมื่อเราไม่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่น หลังเลิกงานหรือไปพักผ่อนนอกบ้านหลาย ๆ วัน เป็นต้น

Shutdown Mode คืออะไร ?

การ Shutdown เครื่องในแต่ละครั้งนั้นก็จะช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลมากขึ้นและลดปัญหาการใช้งานติดขัดจากการใช้งาน RAM เกินความจำเป็นได้ เพราะหากกด Sleep บ่อย ๆ ตัวเครื่องก็ยังมีการใช้งาน RAM อยู่เป็นระยะ จึงอาจทำให้เครื่องอืดได้ (ถึงแม้ว่าจะแก้ปัญหาได้ด้วยการ Restart เครื่องใหม่ แต่การปิดเครื่องหลังใช้งานเสร็จก็มีความจำเป็นเช่นกัน)

Hybrid Mode และ Standby Mode คืออะไร ?

Hybrid Mode หรือ โหมดผสม เป็นโหมดที่นอกเหนือไปจากการกด Sleep, Hibernate และการกด Shutdown แล้ว ยังมี ที่นำเอาข้อดีของทั้งโหมด Sleep และ โหมด Hibernate มารวมกัน โดยเมื่อเปิดใช้งานโหมด Hybrid นี้ ข้อมูลต่าง ๆ จะถูกเก็บไว้ใน Disk คล้ายการใช้งานโหมด Hibernate และจะมีการจ่ายไฟเลี้ยงเครื่องในปริมาณที่น้อยกว่าโหมด Sleep เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแบ่งไฟไปจ่าย RAM จึงสามารถยืดระยะเวลาของแบตเตอรีไปพร้อม ๆ กับการดึงข้อมูลกลับมาใช้งานอย่างรวดเร็วได้อย่างง่ายดาย

วิธีการเปิดใช้งาน Hybrid Mode บน Windows

โดยผู้ใช้ Windows สามารถเข้าไปเปิดการทำงานของโหมดนี้ได้ดังนี้

  • ไปที่ "เมนู Control Panel"
  • ไปที่ "เมนู All Control Panel Items"
  • เลือก "เมนู Power Option"
  • คลิกที่ "ตัวเลือก Change plan settings" (Edit Plan Settings)
  • เลือก "Change advanced power settings" ก็จะมีหน้าต่าง Pop-up ขึ้นมา
  • จากนั้นให้กดไปที่เครื่องหมาย [+] ที่ "เมนู Sleep" แล้วเลือก "Allow hybrid sleep"
  • หากขึ้นว่าปิดการทำงานอยู่ (Off) ให้เปิดการทำงาน (On)
  • กดบันทึกการตั้งค่าก็จะสามารถใช้งานโหมด Hybrid ได้แล้ว
สไลด์รูปภาพ

 Hybrid Mode และ Standby Mode คืออะไร ?Hybrid Mode และ Standby Mode คืออะไร ?Hybrid Mode และ Standby Mode คืออะไร ?Hybrid Mode และ Standby Mode คืออะไร ?

อย่างไรก็ตาม หลังจากการเปิดใช้งานโหมด Hybrid แล้วมันจะทำการปรับการทำงานของโหมด Sleep เป็นแบบ Hybrid แบบอัตโนมัติโดยไม่มีตัวเลือกของ "Hybrid Sleep" ปรากฏให้เห็น (หากเปิดใช้งานแล้วสามารถกดที่ Sleep เพื่อใช้งานโหมด Hybrid ได้ทันที)

โหมด Standby ของ macOS

ส่วนภายในในอุปกรณ์ Mac รุ่นใหม่ ๆ นั้นจะมีโหมด "Standby" ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกับโหมด Hybrid ของ Windows ซึ่งผู้ใช้จะสามารถเลือกให้เครื่อง Mac เข้าสู่โหมด Standby แบบอัตโนมัติได้ตามเวลาที่ตั้งค่าเอาไว้ได้ โดยทำได้ดังนี้

  • ไปที่ "เมนู System Preference"
  • เลือกที่ "เมนู Energy Saver"
  • จากนั้นเลือกที่ "Put hard disks to sleep when possible" เพื่อให้เครื่องปรับเข้าสู่โหมด Standby แบบอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งานเครื่อง

โหมด Standby ของ macOS
ภาพจาก : https://apple.stackexchange.com/questions/188682/sleep-timeout-missing-from-the-energy-saver-preferences

การเปิดใช้งานโหมด Hybrid และ Standby นั้นจะสามารถแก้ปัญหา "ข้อมูลหาย" จากไฟตกหรือแบตหมดได้อีกด้วย เพราะมันจะเก็บข้อมูลเอาไว้ใน Disk ที่สามารถเรียกใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเปิดเครื่องขึ้นใหม่ (แต่หากเกิดเหตุไฟตกก็อาจต้องรอเวลาในการบูธเครื่องใหม่เหมือนการใช้งานโหมด Hibernate ตามปกติ)


ที่มา : www.avg.com , www.hampshire.edu , computers.tutsplus.com , support.microsoft.com , mackeeper.com , www.lifewire.com , www.maketecheasier.com , www.minitool.com , devblogs.microsoft.com , fossbytes.com

0 %E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%94+Sleep%2C+Hibernate%2C+Shutdown+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+Hybrid+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0+%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
สมาชิก : Member    สมาชิก
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่..
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น