ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี
       
   สมัครสมาชิก   เข้าสู่ระบบ
THAIWARE.COM | ทิปส์ไอที
 

AI PC คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ต่างจากเครื่อง PC ทั่วไปอย่างไร ?

AI PC คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ต่างจากเครื่อง PC ทั่วไปอย่างไร ?
ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-vector/template-technology-isometric-landing-page_6189645.htm
เมื่อ :
|  ผู้เข้าชม : 1,018
เขียนโดย :
0 AI+PC+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87+PC+%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
A- A+
แชร์หน้าเว็บนี้ :

AI PC คืออะไร ?

ในยุคนี้ ไม่ว่าจะมองไปที่ไหน เราก็จะเห็น เทคโนโลยี AI แทรกซึมอยู่เต็มไปหมด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทบทุกอย่างที่เปิดตัวจะต้องมี Buzzword คำว่า "AI" แปะมาด้วยเสมอ 

บทความเกี่ยวกับ Artificial Intelligence อื่นๆ

หากเรามองไปที่ตลาดสมาร์ทโฟน และการ์ดจอ (Graphic Card) เวลาเปิดตัวรุ่นใหม่ เราจะเห็นว่าทางผู้พัฒนาหยิบยกความสามารถในการประมวลผล AI ที่ตัวชิปสามารถทำได้อยู่เสมอ อย่างในชิป Apple M4 ก็จะชูเรื่อง Neural Processing Unit (NPU) ที่สามารถประมวลผล อัลกอรึทึมการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning Algorithm) ได้รวกเร็วกว่าชิปรุ่นก่อนหลายเท่า ในการ์ดจอของ NVIDIA ก็จะเป็น Tensor Core ชิปช่วยประมวลผลกราฟิกที่ใช้ AI ในการทำงาน เพื่อทำให้การเรนเดอร์กราฟิกภายในเกมสวยงามขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะพึ่งพาแต่พลังดิบที่มีข้อจำกัดเพียงอย่างเดียว

AI PC คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ต่างจากเครื่อง PC ทั่วไปอย่างไร ?
ภาพจาก : https://vajiramias.com/current-affairs/neural-processing-unit-npu/663c8d1b7f7a1c05a7cd61ae/

แต่เมื่อหันกลับมามองที่การใช้งาน AI บน เครื่อง PC เราจะพบว่าส่วนใหญ่แล้ว การใช้งาน AI ของเราจะเป็นการใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ที่การประมวลผลจะทำผ่าน ระบบคลาวด์ (Cloud Computing) เป็นหลัก ซึ่งเหตุผลก็มาจากการที่ภายในคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีการใส่ชิปช่วยประมวลผล AI เข้ามาด้วย

ปัญหาของการใช้งาน AI ผ่านอินเทอร์เน็ตมีอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความน่าเชื่อถือ เพราะข้อมูลของเราจะถูกส่งไปประมวลที่เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ รวมไปถึงปัญหาด้านความเร็วอีกด้วย หาก Generative AI สามารถทำงานได้บน PC โดยตรง จะช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่าง

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ในตอนนี้ เรากำลังจะได้ใช้งาน "AI PC" กันแล้ว มันคืออะไร ? ต่างจาก PC ปกติอย่างไร ? มาหาคำตอบได้ในบทความนี้

AI PC คืออะไร ? (What is AI PC ?)

การมาถึงของสมาร์ทโฟน ส่งผลกระทบต่อตลาดคอมพิวเตอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มันถูกมองว่ากำลังอยู่ในช่วงซบเซา แต่ในตอนนี้วงการ เครื่อง PC กำลังกลับสู่ช่วงสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือสมัยเรเนซองส์ (Renaissance) อีกครั้ง โดยทั้ง Intel และ AMD มหาอำนาจในตลาดนี้ กำลังนำพาตลาด PC ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาใส่ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

Pat Gelsinger ซีอีโอจาก Intel และ Lisa Su ซีอีโอจาก AMD มีความเห็น และวิสัยทัศน์ตรงกัน พวกเขาเชื่อว่าการที่ AI ถูกนำมาใส่รวมไว้กับ PC มันจะเปลี่ยนวิธีการทำงานของ AI จากเดิมที่อยู่บนคลาวด์ ให้สามารถทำงานภายในเครื่อง PC ได้ ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่องของประสิทธิภาพ และความสามารถเท่านั้น แต่มันจะเป็นการเปิดประตูสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะทำได้ในเครื่อง PC มาก่อน

แล้ว AI PC คืออะไร ?

อันที่จริงนิยามของมันก็เรียบง่าย มันก็เป็นคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม เพียงแต่มี "ฮาร์ดแวร์พิเศษ" ที่ได้รับการออกแบบมา เพื่อใช้ในการประมวลผลซอฟต์แวร์ที่ใช้คุณสมบัติ AI ในการทำงาน โดยจะมีทั้ง AI accelerators และ GPU ที่ถูกนำมาช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของ Machine-learning เพื่อให้มันทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูง โดยหากไม่มีฮาร์ดแวร์ที่ว่า เมื่อ AI เริ่มทำงาน มันจะสร้างภาระให้กับ หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) หรือ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ส่งผลให้ระบบทำงานได้ช้าลง หรือไม่สามารถทำงานได้เลย

นอกจากนี้ ในการทำงานของมัน จะเคียงคู่มาด้วยซอฟต์แวร์ที่พัฒนามาให้รองรับการใช้อัลกอริทึมของ AI เข้ามาในการทำงาน ทำให้การทำงานของซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประมวลผลได้เร็วกว่าคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม

ทาง Intel ได้ประกาศแผนการในอนาคตออกมาว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ จะทุ่มความสำคัญให้กับการผลิตสินค้าในกลุ่ม AI OC ไปยังลูกค้าที่มีอยู่ทั่วโลกมากกว่า "ร้อยล้านคน" ซึ่งทาง Intel เชื่อว่าความเร็ว, ความแม่นยำ และความสร้างสรรค์ของซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI จะเปลี่ยนวิถีการรังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ PC เคยทำได้ให้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

โดย Intel ได้เผยผลการทดสอบภายในว่า ด้วยชิปตัวใหม่ Intel Core Ultra ซีพียูรุ่นใหม่ของ Intel ที่มีหน่วยประมวลผล NPU รวมในชิปด้วย ทำให้การตัดต่อวิดีโอเร็วขึ้นถึง 2.3 เท่า และการตกแต่งภาพทำงานเร็วขึ้นถึง 52% แสดงให้เห็นว่า AI PC สามารถช่วยประหยัดเวลาในการทำงานให้กับผู้ใช้ได้อย่างมหาศาล

AI PC คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ต่างจากเครื่อง PC ทั่วไปอย่างไร ?
ภาพจาก : https://download.intel.com/newsroom/2023/ai/ai-everywhere-2023/Intel-Core-Ultra-Processors-Media-Presentation.pdf

AI Software คืออะไร ? (What is AI Software ?)

ในหัวข้อที่แล้ว เราได้อธิบายว่า AI PC จะรองรับการทำงานร่วมกับ AI Software ด้วยเพื่อให้ประสิทธิภาพในการทำงานของระบบออกมาดีที่สุด แล้ว AI Software คืออะไร ?

ความแตกต่างระหว่าง "AI Software" และ "ซอฟต์แวร์ธรรมดา"  จะอยู่ที่กระบวนการทำงานของมันว่าใช้วิธีการแบบไหนในการทำงานที่ผู้ใช้มอบหมาย โดยซอฟต์แวร์ธรรมดาแบบดั้งเดิม จะทำงานโดยอาศัยเครื่องมือที่ถูกเตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้า ผู้ใช้จำเป็นต้องเรียนรู้ว่าเครื่องมือดังกล่าวทำงานอย่างไร ? ต้องอาศัยประสบการณ์ฝึกฝนการใช้เครื่องมือเพื่อให้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ งานจะออกมาเป็นอย่างไร ? ก็ขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ใช้งานเพียงอย่างเดียว

แต่หากเป็น AI Software มันจะสามารถเรียนรู้ และตัดสินใจว่าจะให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร ? ด้วยวิธีการคิดที่เลียนแบบจากมนุษย์ ทำให้มันสามารถพัฒนาเครื่องมือขึ้นมาใหม่ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้ ความแตกต่างนี้ ทำให้ AI Software สามารถทำงานที่มีความซับซ้อนได้อัตโนมัติ, ให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่เหมือนถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคุณเพียงคนเดียว ทั้งหมดนี้ ทำให้วิธีที่เราใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เป็น AI ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

AI PC คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ต่างจากเครื่อง PC ทั่วไปอย่างไร ?
Synthesia - AI Software ที่กำลังมาแรง
ภาพจาก : https://www.ldv.co/blog/generative-ai-as-a-utility-will-empower-saas-businesses

ประโยชน์ของ AI PC (Benefits of AI PC)

ในปัจจุบันนี้ ประโยชน์ของ AI PC ที่เกิดขึ้นจริงแล้ว จะเป็นเรื่องของการทำงานแบบไฮบริด คือ AI ไม่ได้ทำงานให้เรา 100% แต่มันจะเข้ามาช่วยปรับปรุงเครื่องมือเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีอยู่หลายด้าน ตั้งแต่การช่วยตัดเสียงรบกวน, จัดเฟรมภาพอัตโนมัติในงานตัดต่อวิดีโอ, ช่วยพากย์เสียง, ระบบโฟกัสในกล้อง ฯลฯ แต่ถ้าเน้นลงไปแบบเฉพาะทางในเรื่องของธุรกิจแล้วล่ะก็ AI PC จะเข้ามาทำให้สิ่งเหล่านี้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

ยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล

AI PC สามารถช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความปลอดภัยให้สูงขึ้นกว่าเดิมมาก  หนึ่งในปัญหาของ AI ในปัจจุบันนี้คือ การที่ผู้ใช้ต้องส่งข้อมูลไปประมวลผลผ่านคลาวด์บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ ซึ่งมันอาจมีข้อมูลที่อ่อนไหวรวมอยู่ในนั้นด้วย ข้อมูลจำนวนมากของผู้ใช้ได้ถูกนำไปฝึกฝนให้ AI ฉลาดขึ้น แต่ฐานข้อมูลขนาดใหญ่นั้นก็อาจถูกนำไปแสวงหาผลประโยชน์อื่น ๆ หรือถูกแฮกเกอร์โจมตี แต่ถ้าเป็น AI PC ข้อมูลของเราก็จะทำงานอยู่ในเครื่องของเรา ความปลอดภัยในด้านความเป็นส่วนตัวจึงสูงกว่ามาก

ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ จะมีการเรียนรู้พฤติกรรมการทำงานของมัลแวร์เพื่อให้มันสามารถป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์ตัวใหม่ที่ยังไม่มีฐานข้อมูลได้ ซึ่งกระบวนการเรียนรู้พฤติกรรมนี้ก็ยังมีข้อจำกัดในการสังเกตอยู่ แต่ในตอนนี้มีการนำ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมมัลแวร์เพื่อให้ความแม่นยำสูงขึ้น

วิธีการใหม่ในการสร้างสรรค์ และวิเคราะห์

หัวข้อนี้ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ ว่างานศิลปะที่เราแค่ใส่ Prompt แล้วปล่อยให้ AI สร้างผลลัพธ์ออกมา จะนับว่าเป็นงานศิลปะได้หรือไม่ ? และมีคุณค่าหรือเปล่า ? แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะมาถกเถียงกันในหัวข้อนี้

มีงานวิจัยสำรวจพบว่า การนำ AI เข้ามาใช้ ช่วยให้การทำงานเชิงสร้างสรรค์ และงานวิเคราะห์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยการนำ ChatGPT เข้ามาช่วย ผลพบว่ามันทำให้ความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้น 25%, ผลงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น 40% และงานเสร็จเพิ่มขึ้นถึง 12%

ตัวอย่างการใช้งาน AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานก็อย่างเช่น จากเดิมที่ต้องใช้เลขานุการในการจดข้อมูลในที่ประชุม เพื่อบันทึกออกมาเป็นรายงาน มันเป็นงานที่ต้องอาศัยสมาธิ และความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมาก แต่ด้วย AI มันสามารถบันทึกเสียงระหว่างการประชุม และสรุปข้อมูลออกมาให้เราได้แทบจะทันทีหลังประชุมเสร็จ เราแค่ต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลด้วยตนเองอีกเล็กน้อย ช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำงานเป็นอย่างมาก

หรือจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่อาจจะมีบันทึกอยู่หลายพันรายการ ไหนจะต้องดูพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละรายอีก การนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์จะช่วยย่นเวลาให้น้อยลงกว่าเดิมมาก

ในซอฟต์แวร์ตระกูล Adobe ก็มีหลายเครื่องมือตกแต่งรูปใน PhotoShop และการตัดต่อใน Premiere Pro ก็มีอยู่หลายเครื่องมือที่ใช้ AI ในการประมวลผล จากเดิมที่นักกราฟิกต้องทำทุกขั้นตอนด้วยตนเอง ตอนนี้งานบางอย่างง่ายกว่าเดิม ใช้เวลาในการทำน้อยลงมาก

เปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจ

AI PC เป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และธุรกิจในปัจจุบันนี้ต่างก็ใช้ PC ในการทำงาน การมาของ AI PC จึงส่งผลต่อทั้งพนักงาน และประสบการณ์ของลูกค้าที่มาใช้บริการด้วย

โซลูชันรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือในปัจจุบันนี้ต้องลงทุนสูงถึงจะทำได้ ในยุคที่ AI PC เพื่องฟูมันอาจเป็นเรื่องทั่วไปที่ทุกธุรกิจสามารถจับต้องได้

สถานการณ์ของ AI PC ในปัจจุบัน (Current Situation of AI PCs)

เรารู้แล้วว่า AI PC คืออะไร ? แล้วมันก็ไม่ใช่เทคโนโลยีไกลตัว อย่างไรก็ตาม เรายังไม่จำเป็นต้องรีบอัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เพื่อใช้งานมัน

ใน Intel Ultra Core และ AMD XDNA 2 ต่างก็เป็น CPU ที่มี NPU อยู่ในตัวเพื่อช่วยในการประมวลผล AI วิธีการนี้จะใช้ปริมาณพลังงานในการคำนวณผล AI น้อยกว่าการใช้ CPU หรือ GPU แนวคิดนี้ไม่ได้ใช้กันแค่ในโลกคอมพิวเตอร์เท่านั้น ในสมาร์ทโฟนได้นำร่องการใช้งานไปก่อนแล้ว Google Tensor G3 ในสมาร์ทโฟน Google Pixel 8 Pro หรือ Apple M4 ใน iPad Pro ก็ใช้วิธีการนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ชิป NPU ในสมาร์ทโฟน ถูกนำมาใช้ในการประมวลผลโมเดล AI ขนาดเล็กเท่านั้น อย่างเช่น การสรุปบันทึกเสียงออกมาเป็นข้อความสั้น ๆ เป็นการใช้เอไอโมเดลขนาดเล็กอย่าง Gemini Nano เท่านั้น ส่วนงานที่ซับซ้อนต้องใช้เอไอโมเดลขนาดใหญ่อย่าง Bard AI ก็ยังต้องพึ่งพาระบบคลาวด์อยู่ดี

จากที่เห็น AI PC ที่ถูกนำมาแสดงโชว์ภายในงาน Consumer Electronics Show (CES) 2024 การทำงานของ AI PC ในขณะนี้ก็ไม่ต่างจากบนสมาร์ทโฟนมากนัก โดยมันยังข้อจำกัดจากเหตุผลหลายอย่าง เช่น

ระบบปฏิบัติการ Windows ยังไม่พร้อมสำหรับ AI PC 

Microsoft เจ้าของระบบปฏิบัติการ Windows ก็เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ให้ความสนใจใน AI ดูได้จากการเข้าไปสนับสนุนเงินลงทุนจำนวนมหาศาลให้กับบริษัท OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT อันลือชื่อ เราได้เห็น Copilot เอไอผู้ช่วยอัจฉริยะถูกอัปเดตเพิ่มเข้ามาในระบบปฏิบัติการ Windows ดังนั้น การมาของ NPU น่าจะทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows เจ๋งขึ้นอย่างแน่นอน หากคุณคิดอย่างนั้นอยู่ ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย

ในตอนนี้ Microsoft กำลังพยายามประชาสัมพันธ์ "ปุ่ม Copilot key" ซึ่งเป็นหนึ่งในการผลักดัน AI PC อย่างไรก็ดี เมื่อเรากดปุ่มดังกล่าว ตัว AI Copilot จะเปิดขึ้นมาทันที ซึ่งก็เป็นตัวเดียวกับที่เราเรียกใช้งานมันได้จาก Copilot Sidebar นั่นแหละ ไม่ได้มีคุณสมบัติ "AI PC" อะไรที่แตกต่างจาก PC แบบเดิม (ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนแปลงได้)


วิดีโอจาก https://youtu.be/S1R08Qx6Fvs?si=8nWuOkdkT4jYToIx

สรุปง่าย ๆ คือระบบปฏิบัติการ Windows 11 ในขณะนี้ ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรจากชิป NPU ได้มากนัก คุณสมบัติที่ใช้ได้มีเพียง "Windows Studio Effects" สำหรับวิดีโอ และการประชุม ที่ช่วย "เบลอ" ฉากหลังของผู้ใช้ และช่วยให้ดวงตาของคุณเหมือนจ้องไปที่กล้องตลอดเวลา แม้ความเป็นจริงจะมองไปที่อื่นอยู่ก็ตาม

Paul Thurrott หนึ่งในผู้ที่ได้มีโอกาสทดสอบ HP Spectre x360 2024 โน้ตบุ๊กที่มีชิป NPU ในตัว ได้เปิดเผยว่า

"เขา (สันนิษฐาน) ว่าชิป NPU จะดึงงาน AI ที่เคยเป็นหน้าที่ความที่รับผิดชอบของ CPU และ GPU มาทำ ส่งผลให้เวลาที่มีการประมวลผลงาน AI ประสิทธิภาพของระบบจะไม่ได้รับผลกระทบ และการที่ NPU ใช้พลังงานในการทำงานน้อยกว่า มันจึงช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย"

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวเสริมว่า "ไอการเบลอหลังด้วย AI ผ่านชิป NPU มันก็ไม่ได้มีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมากนัก มันก็เหมือนกับคุณสมบัติที่แอป Webcam ที่พัฒนาโดย บุคคลที่สาม (3rd-Party) ที่สามารถทำได้มาหลายปีแล้ว แถมไม่ต้องพึ่งพา NPU ด้วยซ้ำ"

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ในขณะนี้ สิ่งที่ "Windows Studio Effects" ซึ่งเป็นลูกเล่นที่มีอยู่แค่ในระบบปฏิบัติการ Windows ทำได้โดยต้องอาศัย NPU นั้น เป็นอะไรที่แอป Webcam แบบดั้งเดิมทำได้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทาง Microsoft ยืนยันว่ากำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows ตัวใหม่อยู่ โดยจะออกแบบมาโดยให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับ AI เป็นหลัก จะมีคุณสมบัติใหม่หลายอย่างที่ต้องอาศัยการทำงานของชิป NPU ด้วย ซึ่งน่าจะได้เห็นกันในช่วงปลายปี ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567)

ผู้ใช้ยังใช้ประโยชน์จาก NPU ได้น้อยมาก

ในเมื่อตัวระบบปฏิบัติการ Windows ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก NPU มากนัก เราก็เลยต้องหันไปพิจารณาซอฟต์แวร์ 3rd-Party แทน ในตอนที่ Intel แสดงศักยภาพของ NPU ก็ใช้วิธีการนี้เช่นกัน โดยได้ใช้โมเดล OpenVINO ร่วมกับ Stable Diffusion พัฒนาเป็นปลั๊กอินให้กับซอฟต์แวร์แต่งรูปสำหรับสายฟรีอย่าง โปรแกรม GIMP 

AI PC คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ต่างจากเครื่อง PC ทั่วไปอย่างไร ?
ภาพจาก : https://github.com/intel/openvino-ai-plugins-gimp?tab=readme-ov-file

อีกตัวที่ Intel นำมาสาธิตก็เป็นปลั๊กอินเช่นกัน ทำงานร่วมกับ Audacity ซอฟต์แวร์ตัดต่อเสียงยอดนิยม ทั้งคู่เปิดให้ดาวน์โหลดไปทดลองใช้งานได้แล้ว ใครสนใจก็ลองเข้าไปเช็คใน Github กันได้

AI PC คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ? ต่างจากเครื่อง PC ทั่วไปอย่างไร ?
ภาพจาก : https://github.com/intel/openvino-plugins-ai-audacity?tab=readme-ov-file

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก CPU ที่มี NPU ในตัว ยังเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ประโยชน์จากมันได้ยังมีให้เลือกใช้งานอยู่น้อยมาก นักพัฒนาบางส่วนก็อาจรอให้คอมพิวเตอร์ที่รองรับ NPU ได้มีมากกว่านี้ก่อน ค่อยคิดที่จะอัปเดตให้รองรับ

ทางฝั่งผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เองก็พยายามนำ NPU มาสร้างจุดขายเพิ่ม แต่มันก็อาจจะยังไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก เช่น ช่วยให้ไมค์ตัดเสียงรบกวนได้ดีขึ้น, บริหารการชาร์จพลังงานให้แบตเตอรี่, การปรับรอบการทำงานของพัดลมระบายความร้อน ฯลฯ

GPU ยังประมวลผล AI ได้เร็วกว่า NPU

จะเห็นได้ว่า สำหรับการใช้งานทั่วไปของคนส่วนใหญ่แล้ว NPU ยังไม่มีประโยชน์มากนัก ต้องรออนาคตที่ซอฟต์แวร์ถูกพัฒนาให้รองรับ NPU มากกว่านี้เสียก่อน ผู้ใช้ถึงจะได้ประโยชน์จากการมีอยู่ของ NPU

แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องชวนหัวยังไม่จบแค่นั้น Mark Hachman บรรณาธิการอาวุโสแห่ง PCWorld ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ NPU ในเชิงว่า .มันไม่ได้น่าตื่นเต้นเลย บางทีคุณก็มี AI PC อยู่ในบ้านแล้วด้วยซ้ำ"

ซึ่งความเห็นของเขาก็มีส่วนจริง เพราะการประมวลผล AI ในตัวอุปกรณ์โดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ มันไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด และชิป NPU ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีไปกว่าการประมวลผล AI ด้วย GPU อย่างการใช้ AI สร้างภาพด้วย Stable Diffusion หรือรันโมเดล Large Language Model (LLM) ด้วย GPU ก็มีประสิทธิภาพสูงกว่าการรันด้วย NPU 

เหตุผลก็เพราะ NPU ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยคำนึงการอนุรักษ์พลังงานเป็นหลัก มันช่วยให้ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถรันคุณสมบัติ AI บางอย่างอยู่เบื้องหลังได้ด้วยการใช้ NPU เป็นหลัก ทำให้ CPU กับ GPU ไม่ต้องรับภาระหนัก ลดอัตราการใช้ทรัพยากรของระบบ และพลังงานของแบตเตอรี่ในกรณีที่ใช้บนโน้ตบุ๊ก แต่หากคุณต้องรันโมเดล AI ที่ซับซ้อน คุณก็ยังต้องใช้ GPU อยู่ดี 


ที่มา : community.intel.com , teqnoverse.medium.com , techwireasia.com , www.techradar.com , economictimes.indiatimes.com , itbrief.com.au , www.computerworld.com , www.windowscentral.com , www.pcworld.com

0 AI+PC+%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F+%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87+PC+%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3+%3F
แชร์หน้าเว็บนี้ :
Keyword คำสำคัญ »
เขียนโดย
ระดับผู้ใช้ : Admin    Thaiware
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ
 
 
 

ทิปส์ไอทีที่เกี่ยวข้อง

 


 

แสดงความคิดเห็น