3rd Party คืออะไร ? หรือบุคคลที่สาม คืออะไร ? แล้ว 1st Party กับ 2nd Party หายไปไหน ?

3^rd Party หรือ บุคคลที่สาม คือ อะไร ?

ในเหล่าบรรดา ข่าวไอที โดยเฉพาะที่มันเกี่ยวข้องกับพวกแอปพลิเคชัน หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆที่เราอ่านกัน มักจะปรากฏคำว่า "3^rd Party (Third Party)" หรือแปลเป็นไทยคือ "บุคคลที่สาม" อยู่บ่อยๆ เช่น "Windows ทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าจะทำต้องใช้ 3^rd Party ช่วย" คำนี้ถ้าแปลตรงตัวก็หมายถึง บุคคลที่สาม ซึ่งความหมายของมันก็ตามนั้นจริงๆ นั่นแหละ แต่บางคนอาจจะยังมีความสับสนอยู่บ้างว่า บุคคลที่สาม นี้คือใคร แล้วมี 1^st Party (บุคคลที่หนึ่ง) กับ 2^nd Party (บุคคลที่สอง) ด้วยหรือเปล่า ลองมาทำความเข้าใจกันดีกว่าครับ

1st Party (First Party) หรือ บุคคลที่หนึ่ง คืออะไร ?

1^st Party หรือบุคคลที่หนึ่ง เวลาที่เราพูดถึงแอปพลิเคชัน หรือสินค้า ก็จะหมายถึงผู้ผลิตสินค้าครับ เช่น หากพูดถึง แอปพลิเคชัน Safari ที่เป็น เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) บน iPhone ในกรณีนี้

• 1^st Party ก็คือ Safari นั่นเอง
• 2^nd Party คือ ผู้ใช้งานที่ใช้ Safari

ทั้งนี้โดยปกติแล้ว เราก็ไม่ค่อยใช้คำว่า 1^st Party กันหรอกครับ เรามักจะใช้อีกคำกันมากกว่า นั่นก็คือคำว่า "Native" เราจะใช้คำนี้ เมื่อพูดถึงแอปพลิเคชันที่มาพร้อมกับระบบเริ่มต้นเลย เวลาเราซื้อมือถือ iPhone มา มันก็มีแอปพลิเคชันเริ่มต้นมาให้หลายตัวใช่ไหมครับ อย่าง Safari, Camera, Photos ฯลฯ พวกนี้นี่แหละที่จัดเป็นแอปพลิเคชันแบบ Native หรือ 1^st Party นั่นเอง

หากใช้กับสินค้า ก็ไม่แตกต่างกันครับสินค้าที่เจ้าของแบรนด์ทำมาขายเอง ถือว่าเป็นสินค้าจาก 1^st Party 

2nd Party (Second Party) หรือ บุคคลที่สอง คืออะไร ?

ในส่วนนี้ คำนี้อธิบายค่อนข้างง่าย ตัวผู้ใช้งานเองนั่นแหละ ซึ่งในที่นี้ 2^nd Party ยกตัวอย่างเช่น Microsoft เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows โดยเมื่อเราซื้อ Windows มาใช้งาน

• 1^st Party ก็คือ Microsoft 
• 2^nd Party ก็คือเรา (ผู้ซื้อ Windows มาใช้งาน)

3rd Party (Third Party) หรือ บุคคลที่สาม คืออะไร ?

มาถึงคำที่เราได้ยินกันบ่อยที่สุด 3^rd Party หรือหากแปลเป็นไทยก็คือ "บุคคลที่สาม" นั่นเอง ซึ่งในกรณีถ้าหากเป็นพวก ซอฟต์แวร์ (Software) หรือ แอปพลิเคชัน (Applicaction) เราจะพูดถึงทุกสิ่งที่ไม่ได้มาจาก 1^st Party ซึ่งสิ่งที่ถูกจัดอยู่ในหมวดนี้นั้นมีจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้เราเห็นคำนี้บ่อยกว่าคำอื่นมากนั่นเอง

ยกตัวอย่างใกล้ตัว สมมติว่าคุณใช้มือถือ iPhone ต้องการซื้อเคส แล้วไม่ได้เลือกซื้อเคสที่ Apple เป็นคนผลิตขึ้นมาจำหน่าย แต่เป็นยี่ห้ออื่น นั่นก็คือ คุณซื้อของที่เป็น 3^rd Party มาใช้นั่นเอง

หรือจะเป็นคุณต้องการรีทัชรูป แต่ แอป Paint ที่เป็นแอปพลิเคชัน ที่มากับระบบปฏิบัติการ Windows (หรือจะเรียกว่า "Native Application") นั้นไม่สามารถตอบโจทย์การทำงานได้ คุณเลยต้องใช้ 3^rd Party อย่าง โปรแกรมแต่งรูป Photoshop จากค่าย Adobe นั่นเอง