รีวิว SAMSUNG SUHD TV สมาร์ททีวี 4K ระดับพรีเมี่ยม พร้อมเทคโนโลยี 3S ที่เหนือกว่า

ในท้องตลาดปัจจุบันนี้ ทีวีที่ความคมชัดระดับ UHD (4K) เกิดขึ้นมามากมาย แต่แค่เพียงความละเอียดของภาพอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้เสพเทคโนโลยีแบบเราๆ ได้ ซึ่งแต่ละค่ายทีวีนั้น ก็พยายามพัฒนาทีวีระดับ UHD ให้มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ททีวี ที่มีลูกเล่นใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นสมาร์ทโฟนได้ จอโค้งแบบ Curved สวยๆ ที่ตอบรับทุกองศาการรับชมบนจอแสดงผลขนาดใหญ่ หรือเทคโนโลยี OLED ที่ให้การแสดงผลแสงสีของภาพที่ดียิ่งขึ้น

ซึ่งล่าสุดทาง SAMSUNG ก็ไม่น้อยหน้า ได้นำ SUHD TV ออกมาสู่ท้องตลาด ด้วยความสามารถที่ครบเครื่องรอบด้านถึง 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งได้แก่ JS9500, JS9000 และ JS8000 โดยตัว S ที่เพิ่มขึ้นมาในชื่อของ SUHD TV นี้ก็คือจุดขายถึงเทคโนโลยี 3S ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อย่างดีเยี่ยมจากทาง SAMSUNG ประกอบไปด้วย

• Sensational Picture Quality ที่ให้คุณภาพรายละเอียด เฉดสีและแสงสีดีกว่าที่เคย
• Smart & Convergence ระบบปฏิบัติการใหม่ Tizen ที่ตอบสนองการทำงานกับอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสะดวกสบาย
• Stylish Design การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดูสวยงาม ลงตัวน่าหลงไหลและตอบสนองการใช้งาน

ซึ่งความสามารถของทั้ง JS9500, JS9000 และ JS8000 นั้น มีดังนี้

• Nano Crystal Color - สีสันสดใส สมจริงทุกรายละเอียด
• Peak Illuminator Ultimate - ปรับภาพสว่างสมจริงได้แม่นยำ
• Precision Black Pro - ปรับความมืดให้ดำสนิท เพิ่มมิติให้กับภาพ
• Grand Chamber Design - ภาพชัดลึกทุกมิติ ดุจงานศิลป์ในแกลลอรี่ (JS9500)
• Shirring Design - ลวดลายพริ้วไหว โดดเด่นงดงามทุกมุมมอง (JS9000/JS8000)
• Curved Screen - จอโค้งรับสายตา ขยายมุมมองการรับชมมากกว่าทีวีทั่วไป (JS9500/JS9000)
• Flat Screen - ทีวีจอแบน
• Auto Depth Enchancer - ปรับความชัดลึกของภาพ ให้มิติภาพสมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ (JS9500/JS9000)
• UHD Resolution - คมชัดสมจริง ความละเอียด 4 เท่า ของ Full HD
• UHD Upscaling - อัพเกรดภาพ ให้มีความละเอียดภาพคมชัดระดับ 4K
• UHD Dimming - ปรับภาพมืดสว่างแม่นยำ ให้ความละเอียดคมชัด
• Smart Hub - คลังความบันเทิง ที่มีให้เลือกสนุกได้ไม่อัน
• Tizen OS - ระบบปฏิบัติการใหม่ทำงานลื่นไหล ไม่มีสะดุด
• Quick Connect - เชื่อมต่อง่าย แชร์จากมือถือสู่ทีวีได้ทันที
• Wi-Fi Built-in - เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย
• HDMI 4.0 - เชื่อมต่อมัลติมีเดียให้คมชัด
• ConnectShare Movie - ดูหนัง ฟังเพลง ง่ายดายผ่าน USB
• Digital TV - รองรับสัญญาณทีวีดิจิตอล เวอร์ชันล่าสุด DVB-T2

โดย SUHD ทีวีจากทาง SAMSUNG ทั้ง 3 รุ่นนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง มาชมรีวิวกัน

SUHD TV JS9500

เริ่มจาก JS9500 ทีวี SUHD จอ Curved ที่มาพร้อมกับ Grand Chamber Design ให้การแสดงผลภาพชัดลึกทุกมิติ เสมือนชมงานศิลปะในแกลลอรี่ ที่มีให้เลือกถึง 3 ขนาดด้วยกัน ทั้งจอกว้าง 105, 88 และ 78 นิ้ว

SUHD TV JS9000

ต่อมาเป็นรุ่นรองลงมาอย่าง JS9000 ที่โดนเด่นด้วย Shirring Design ดีไซน์ด้านหลังเป็นลอนคลื่นสวยงามโดดเด่นทุกมุมมอง ที่ออกมาให้เลือกถึง 2 ขนาดด้วยกันตามความต้องการทั้งขนาด 65 และ 55 นิ้ว

นอกจากนี้ยังมีรุ่น JS8000 ที่เหมือนกับ JS9000 แต่ออกมาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทีวีจอแบน (Flat Screen) อีกด้วย

ฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาของ SUHD TV

Sensational Picture Quality - นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำมากขึ้นแล้ว ทาง SAMSUNG ยังได้พัฒนาการแสดงผลของภาพเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับชมสื่อบันเทิงได้อย่างเต็มอารมณ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Nano Crysal, Brightness, Contrast และ UHD Detail ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

• Nano Crystal Color - เทคโนโลยีใหม่จากทาง SAMSUNG ที่ให้เฉดสีที่กว้างขึ้นมากกว่า UHD TV ทั่วไปถึง 2 เท่า แสดงสีสันได้มากกว่าถึง 64 เท่าและใกล้เคียงกับตาเห็นมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าสีสันดูครบถ้วนและอิ่มตัวมากกว่าทีวีทั่วไป

• Brightness - ด้วยแผงหน้าจอแบบใหม่ รวมทั้งซอฟต์แวร์ Peak Illuminator ทำให้ SUHD ทีวีสามารถแสดงแสงได้มากกว่า UHD TV ปกติถึง 2.5 เท่า การรับชมทีวีในเวลากลางวันที่มีแสงจากพระอาทิตย์ลอดมาจากหน้าต่าง ก็ยังทำให้ภาพยังคมชัดอยู่
• Contrast - นอกจากทางด้านความสว่างแล้ว รายละเอียดในที่มืดก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะจะรับชมหนังเรื่องต่างๆ ที่ทีวีทั่วไปไม่สามารถมองเห็นอะไรที่ซ่อนอยู่ในเงามืด แต่ SUHD นั้นสามารถทำได้

• UHD Detail - ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวมาถึงระดับ UHD ที่มีความละเอียดมากกว่า FullHD ถึง 4 เท่า แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ที่รับชมกันก็ไม่ได้เป็น UHD ทั้งหมด ทาง SUHD จึงมีระบบ UHD Up-scaling ช่วยปรับปรุงให้การแสดงผลของภาพใกล้เคียงกับระดับ UHD โดยอัตโนมัติ ไม่เสียอรรถรสในการชมเนื้อหาต่างๆ

Smart & Convergence - สมาร์ททีวีรุ่นไหนๆ ต่างก็มีความสามารถที่พร้อมจะอำนวยความสะดวกผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบต่างๆ ที่ช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น หรือการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ ซึ่ง SUHD ก็มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Tizen ที่ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น

• Easy Convergence - เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ SAMSUNG ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้นภายในขั้นตอนเดียว และไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมด้วยอีกด้วย
• Morning Brief - ระบบปฏิบัติการ Tizen บน SUHD TV มีแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ให้ผู้ใช้ทราบดั่งเช่นสมาร์ทดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็นวันเวลาปัจจุบัน สภาพอากาศ หรือตารางและกิจกรรมประจำวันได้
• Smart View - ไม่ต้องหารีโมทให้เสียเวลา เพราะสมาร์ทโฟนก็สามารถใช้งานเป็นรีโมททีวีได้ด้วยแอปฯ Samsung Smart View 2.0 โดยนอกจากจะเป็นรีโมทแล้ว ยังสามารถดึงภาพจาก SUHD TV มาเก็บไว้บนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

• Tizen UI - อินเตอร์เฟซใหม่ที่เข้าใจง่ายและ ระบบประมวลผล Octa-core Processor ทำให้เข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ได้เร็วและง่ายขึ้น แม้ขณะรับชมทีวีอยู่ ก็สามารถสลับไปมากับแอปฯ หรือเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานพร้อมกันแบบ Multi-Link Screen ได้อีกด้วย
• Customized Content - ด้วยแอปฯ และเนื้อหาที่หลากหลายขึ้น จึงมีฟังก์ชั่นในการจัดหมวดหมู่และรูปแบบได้ตามต้องการ เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน

Stylish Design - การดีไซน์ที่ดีนั้น นอกจากจะดูสวยงามหรูหราแล้ว ยังต้องตอบโจทย์การใช้งานอีกด้วย ซึ่ง SUHD TV นี้ก็มีทั้ง 2 ด้านครบถ้วน

• Wider Field of View - ด้วยหน้าจอ Curved ที่โค้งเว้าเข้าหาสายตาผู้รับชม ทำให้ได้ความรู้สึกโอบล้อม มีรัศมีที่เหมาะสมกับการรับชม ในขนาดหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งระบบ Auto Depth Enhancer ของทางซัมซุง ก็จะทำให้ภาพดูมีมิติลึกและสมจริงกว่าอีกด้วย

• Soundbar - นอกจากการรับชมภาพแบบโอบล้อมด้วยดีไซน์ Curved แล้ว ทาง SAMSUNG ก็มีอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่าง Soundbar ในการให้อรรถรสแบบโอบล้อมเช่นกัน ซึ่งใช้การเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth

• Grand Chamber Design - ด้วยการออกแบบขอบจอในลักษณะของกรอบภาพงานศิลป์ ทำให้ SUHD TV ดูสวยงามมีระดับ โดดเด่น ไม่ว่าจะจัดวางที่ไหนก็ตาม

• Shirring Design - ด้วยดีไซน์ลอนคลื่นที่แปลกตา ทำให้ SUHD TV ดูสวยหรู แปลกตากว่าทีวีรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจอ Curved (JS9000) หรือ Flat (JS8000) ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน

• Stand - การออกแบบขาตั้งที่นอกจากจะเพรียวบาง สวยงามหรูหราแล้ว ยังประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งอีกด้วย

SUHD TV และ OLED TV

ความแตกต่างของ SUHD TV ที่เพิ่มขึ้นมาจาก OLED TV นั่นก็คือการแสดงผลที่มากขึ้นทั้งในด้านของความสว่างและเฉดสีต่างๆ ซึ่ง SUHD TV นี้เหมาะสมกับการรับชมในห้องที่สว่างเพราะให้ความสว่างมากกว่า OLED ถึง 2.5 เท่า ให้สีที่มากกว่าถึง 9% และภาพเคลื่อนไหวเร็วขึ้น 6 เท่า โดยใช้พลังงานที่น้อยกว่า ทำให้อายุการใช้งานของ SUHD TV มีมากกว่าอีกด้วย

การใช้งาน SUHD TV

ด้วยความที่ SUHD TV ให้ความสว่างได้มากกว่า TV แบบ OLED จึงทำให้การรับชม TV ในเวลากลางวัน ที่มีแสงแดดจากหน้าต่างมาแข่งกับแสงหน้าจอทีวีนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ทำให้สนุกสนานกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ด้วย SUHD TV ได้ตลอดเวลาได้ทุกเวลา

ด้วย Tizen UI เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้การจัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ก็สามารถใช้งานร่วมกับ SUHD TV ได้อย่างรวดเร็วทั้งการแสดงผลรูปภาพหรือภาพยนตร์จากอุปกรณ์หรือเล่นเกมส์ด้วยสมาร์ทโฟนไปยัง SUHD TV ก็ทำได้เช่นกัน

ซึ่งนอกจากอุปกรณ์อย่างแล็ปท็อป สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแล้ว อุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นบลูเรย์ ซาวน์บาร์ หรืออุปกรณ์สเตอริโอต่างๆ ก็สามารถใช้งานกับ SUHD TV เพื่อเพิ่มอรรถรสความบันเทิงได้อย่างไม่มีที่ติเช่นกัน

สรุป SUHD TV

ข้อดี

• ดีไซน์สวยงามหรูหรา และประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง
• คุณภาพการแสดงผลที่ละเอียดคมชัดมากขึ้น
• แสงสีในการแสดงผลที่กว้างขึ้น ครบทุกรายละเอียด
• Tizen UI ที่สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ข้อสังเกต

• เทคโนโลยีที่ดี มาพร้อมกับราคาที่สูงเป็นธรรมดา

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสมาร์ททีวีที่น่าสนใจที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี 3S ที่เป็นจุดขายในรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแสดงผลที่คมชัดครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะความสว่างที่ทำให้สามารถรับชมทีวีในห้องที่สว่างได้ ทำให้ไม่เสียอรรถรสในการรับชม การใช้งาน UI ที่สะดวกและยืดหยุ่นมากขึ้น รวมทั้งดีไซน์สวยๆ หรูหราแบบเฉพาะตัว จึงเป็นอีกหนึ่ง UHD TV ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว