[หนังน่า] 10 เรื่องจริงที่ถูกตีแผ่บนจอเงิน

โลกนี้ล้วนมีหลากหลายเรื่องราว หลากหลายเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ที่ทั้งหลายเรื่องนั้นก็ได้ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ลงบนจอเงินจากฝีมือผู้กำกับมากหน้าหลายตา หลายๆ เรื่องเราอาจไม่เคยรู้ หลายๆ เรื่องเราอาจรู้แล้วแต่ยังรู้ไม่หมด ทั้งหมดนั้นล้วนแล้วก็ได้ถูกถ่ายทอดมาให้เรารับชมกันในรูปแบบภาพยนตร์อีกที ทั้งนี้ทั้งนี้ นี่คือ 10 เรื่องราว 10 เหตุการณ์ 10 ภาพยนตร์ ที่สร้างเรื่องจริง เตือนก่อนว่าอาจมีสปอยล์!!! (บางส่วน)

1. Dunkirk

ภาพยนตร์ดราม่า แอคชั่น ของเสด็จพ่อโนแลน ที่คว้ารางวัลออสการ์ไปถึง 3 สาขาด้วยกัน ได้แก่ ลำดับภาพยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และลำดับเสียงยอดเยี่ยม 

ภาพยนตร์สร้างจากเหตุการณ์จริงนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม สามแสนกว่านาย ถูกเหล่าทหารนาซีเยอรมันตีต้อนมาจนถึงอ่าว Dunkirk และถูกปิดล้อม ทางออกเดียวของเหล่าสหพันธมิตรก็คือทะเล จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีเหตุการณ์ข้อถกเถียงในประวัติศาสตร์ขึ้นนิดหน่อยจากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากผู้นำทัพนาซีที่สั่งบุกล้อม Dunkirk เกิดสั่งชะลอการโจมตี ไม่รู้เนื่องด้วยเหตุใด ว่ากันว่าไม่อยากให้เหนื่อยเปล่าเสียกำลังพล เลยจะใช้กองทัพอากาศ หรือมีการเจรจาลับ จดหมายลับ เพื่อเกลี้ยกล่อมอังกฤษให้มาเป็นพันธมิตรกับนาซีเยอรมัน หรือว่ามีการเจรจาให้ผู้นำสหพันธมิตรทั้งหมดยอมแพ้ และอีกนัยหนึ่งเหล่านาซีประเมินแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเสียแรง เปลืองกระสุนเพื่อสังหารเหล่าสหพันธมิตร ปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวก็ตายเอง และโอนกำลังไปใช้ยึดประเทศอื่นดีกว่า? ก็อาจจะเป็นไปได้ทั้งหลายรูปแบบ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในที่สุดเหล่านาซีเยอรมันก็ถาโถมบุกอย่างหนัก แต่ก็พลาดท่าเสียทีไปซะแล้ว เพราะในที่สุดทหารทั้งสามแสนกว่านายก็อพยพไปยังเดนเวอร์อย่างปลอดภัย ด้วยการช่วยเหลือจากเรือของประชาชน และจากฝ่ายรัฐบาล นับได้ว่าถือเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่านาซีเยอรมัน ที่ปล่อยทหารเหล่านั้นหลุดมือไป แต่ในที่สุดหลังจากวันนั้นนาซีก็สามารถตีฝรั่งเศสแตกและยึดกรุงปารีสได้สำเร็จ

2. American Sniper

เรื่องจริงอันแสนน่ายกย่องและเจ็บปวดของ Chris Kyle (รับบทโดย Bradley Cooper) หน่วยพลซุ่มยิงของ Navy Seal ที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่าสังหารศัตรูเยอะที่สุดในกองทัพสหรัฐ โดยสังหารไปทั้งสิ้น 160 คน และจริงๆ อาจถึง 250 คนก็เป็นได้ 

เขาได้เข้าร่วมรบที่อีรักถึง 4 ครั้ง ในระหว่างปี 2003 - 2009 โดยมีภรรยาของเขากับลูกอีกสองคนอยู่ที่บ้าน เรื่องราวที่เราได้เห็นในภาพยนตร์ที่สังหารพลซุ่มยิงของอีรักนามว่า มุสตาฟา ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะในหนังสือของเขาก็มีการกล่าวถึงแค่เพียงย่อหน้าเดียวเท่านั้น ถึงเขาจะยิงจริงๆ ระยะก็ไกลมากๆ และไม่สามารถทราบได้ว่าคนที่เขายิงคือมุสตาฟาหรือเปล่า แต่เขายิงได้ระยะ 2,000 หลาจริงๆ ซึ่งเท่ากับ เกือบ 2 กิโลเลยทีเดียว!!! เขารอดจากการยิง 3 ครั้ง เครื่องบินตกอีก 2 ครั้ง แต่เขาต้องมาจบชีวิตลงอย่างไม่คาดฝัน

ภาพของ Eddie Ray Routh 

หลังจากที่กลับมาจากการรบ Chris ได้ก่อตั้งบริษัทช่วยเหลือเหล่าทหารผ่านศึก โดยการพาไปยิงปืน พูดคุย จนเขาได้เจอกับ Eddie Ray Routh ชายหนุ่มผู้ที่ทำให้เขาต้องจบชีวิตลง วันนั้นเขาก็รับทหารผ่านศึกรายนี้จะพาไปยิงปืน และนั่นแหละครับ คือภาพสุดท้ายที่ภรรยากับลูกๆ ได้เห็นเขาตอนยังมีชีวิตอยู่ จากคำให้การของ Eddie เขาได้สังหาร Chris และเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยจากเบาะหลัง โดยอ้างเหตุผลว่า "ทั้งสองไม่ยอมคุยกับตนและกลัวว่าจะถูกพาไปฆ่า" แต่หลายฝ่ายคิดว่ามือพระกาฬอย่าง Chris และเพื่อนของเขาจะพลาดท่าเสียทีให้กับทหารผ่านศึกรายนี้หรอ หรือจริงๆ แล้วโดนสั่งเก็บกันแน่ โดยในตอนแรกคดีความเหมือนจะตัดสินว่า Eddie จะมีสภาวะทางจิตผิดปกติและอาจพ้นโทษ แต่ท้ายที่สุดแล้วศาลก็สั่งจำคุก Eddie ตลอดชีวิต

3. Hacksaw Ridge 

เรื่องจริงอันน่าเหลือเชื่อของทหารหนุ่มผู้ไม่ยอมถือปืนและมุ่งแต่จะช่วยชีวิตคน จากสงครามโลกครั้งที่ 2 เราอาจได้ยินคำกล่าวยกย่องทหารหลายนายที่สังหารคนไปเป็นเบือ แต่ไม่ใช่กับเขาคนนี้ เพราะเขาไม่ได้ถือปืนออกรบด้วยซ้ำ เขาคือ Desmond T. Doss (รับบทโดย Andrew Garfield) นายทหารหนุ่มผู้ผอมแห้งแรงน้อย มีอยู่เหตุการณ์นึงที่ทำให้ชื่อของเขาถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ ซึ่งคือเหตุการณ์ที่ทหารอเมริกาและพันธมิตรต้องขึ้นไปสู่หน้าผาอันสูงชันเพื่อยึดฐานที่มั่นเตรียมจะไปยึดโอกินาว่า แต่ในพื้นที่เหล่านั้นมีทหารญี่ปุ่นซ่อนอยู่ ซึ่งแน่นอนเหล่าทหารอเมริกาและพันธมิตรต่างแตกพ่ายยับ ในเหตุการณ์นั้น พลทหาร เดสมอนต์ ดอสส์ ก็ได้วิ่งเข้าสู่สมรภูมิด้วยมือเปล่า ในฐานะแพทย์สนาม และช่วยชีวิตผู้คนไปได้ถึง 75 นายเพียงตัวคนเดียว

4. The Social Network

กำลังเป็นประเด็นในโลกออนไลน์และสิ่อต่างๆ ทั่วโลกกับเรื่องราวของ Mark Zuckerberg (รับบทโดย Jesse Eisenberg) กับปมข้อมูลรั่วไหล แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะมาพูดถึง เรื่องราวต้นกำเนิดก่อนที่จะมาเป็น Social Network อย่างที่พวกเรารู้จักกันในตอนนี้กับ Facebook

เรื่องราวของชายหนุ่มที่เป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุด และสร้างเว็บที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนโลกทั้งใบเลยทีเดียว โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะได้ทราบเรื่องราวชีวิตของเขาตั้งแต่เรื่องเรียน แฟน เพื่อน ครอบครัว และการเผชิญหน้ากับปัญหาที่รุมเร้า กว่าจะมาเป็น Facebook ให้เราได้เล่นกันอย่างในทุกวันนี้ เขาต้องประสบกับปัญหาอะไรบ้าง ลองไปรับชมดูกันได้เลย 

5. The Founder 

ความลับของ McDonald ที่คุณไม่เคยรู้ นี่คือเรื่องราวของ Ray Kroc (รับบทโดย Michael Keaton) เซลแมนผู้ขายเครื่องปั่นจนในที่สุดเขาได้กลายมาเป็น ผู้ก่อตั้ง เราจะได้ทราบทุกเบื้องลึก เบื้องหลัง ผลประโยชน์ หลักการดำเนินธุรกิจ และความทะเยอทะยานที่ชัดเจน 

สองพี่น้องตระกูล McDonald

โดยจริงๆ แล้ว Ray Kroc เป็นเพียงผู้ก่อตั้งเท่านั้น แต่เจ้าของจริงๆ ก็คือสองพี่น้องสกุล McDonald นั่นแหละ แต่เขาได้เป็นคนขยายแฟรนไชส์และกล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงร้านนี้ ด้วยความทะเยอทะยานที่ต่างกันทำให้ Ray ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ และเรื่องนี้จะได้เห็นอย่างชัดๆ เลยว่า โลกธุรกิจมันโหดร้าย

6. Catch Me if You Can

สร้างจากเรื่องจริงอันน่าเหลือเชื่อของ Frank Abagnale (รับบทโดย Leonardo Dicaprio) นักต้มตุ๋นชื่อดังกระฉ่อนโลก 

เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่หนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 17 ปี การโกงครั้งแรกของเขาคือการเซ็นเช็คปลอม ต่อมาด้วยการปลอมตัวเป็นนักบินของสายการบินชื่อดังเพราะเมื่อเขาทำอาชีพนี้แล้วผู้คนจะเชื่อถือและจะรับเช็คของเขาทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังปลอมเป็นหมอรักษาเด็กอีกด้วยแต่เขาก็ค้นพบว่ามันยากเกินไป เขาไม่สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้เลย แถมต่อมาหลังจากที่ย้ายไปอยู่กับคนรักของเขา เขาได้ปลอมตัวเป็นทนายความ แต่เมื่อเขาโดนจับได้เขาก็ได้มาปลอมตัวเป็นอาจารย์สอนสังคมแต่ก็ค้นพบว่าเงินเดือนมันไม่พอใช้ เขาจึงกลับไปปลอมตัวเป็นนักบินอีกครั้ง แต่เป็นสายการบินของฝรั่งเศส และนั่นทำให้เขาโดนจับเข้าคุกในที่สุดเป็นเวลา 12 ปี แต่แล้วก็โดนปล่อยตัวออกมา ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ต้องช่วยเหลือองค์กรต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการปลอมแปลงเช็คและการต้มตุ๋นอื่นๆ โดยไม่มีค่าจ้าง เขาก็ขวนขวายหางานแต่ก็ไม่มีที่ไหนถูกใจเขา จนในที่สุดเขาก็ไปยังธนาคารแล้วก็บอกเล่ากลโกงของเขาให้ธนาคารฟังเพื่อช่วยปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคารแห่งนั้น จนสุดท้ายเขาก็ได้เปิดบริษัท Abagnale & Associates เป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับเช็คจนทำให้เขาได้มีเงินมากมายโดยไม่ต้องปลอมแปลงแม้แต่น้อย

7. Wolf of Wall Street

เรื่องราวของหมาป่าผู้กระหายแห่ง Wall Street อย่าง Jordan Belfort (รับบทโดย Leonardo Dicaprio) เจ้าของวลี "Sell me this pen" "ขายปากกานี่ให้ฉันสิ" เรื่องราวที่ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือที่ตัวเขาเองได้เขียนในชื่อเดียวกัน 

โดยเป็นเรื่องราวตั้งแต่ก่อนเขาได้เข้ามาเดินบนทางสายนี้ ชายผู้สามารถขายได้ทุกสิ่ง จนกระทั่งกลายเป็นบุคคลที่ทำเงินได้อย่างมหาศาลจนใช้เงินไม่ทัน เรียกได้ว่าใครได้ดูก็ต้องอิจฉาชีวิตเขาก่อนโดนจับแน่นอน เราจะได้เห็นความกล้า ความบ้าบิ่น และการเกิดมาเป็นนักขายของ Jordan Belfort คนนี้ โดยหลังจากที่เขาพ้นคุกออกมาแล้ว สิ่งที่เขาทำคือทุกวันนี้เขาเดินสายจัดสัมนาเกี่ยวกับเทคนิคการขายและก็เรื่องหุ้นต่างๆ แถมเขายังบอกว่าเงินที่เขาติดหนี้ลูกค้าเขาได้ชดใช้ไปหมดแล้วอีกด้วย

8. 127 Hours

เรื่องจริงที่ใครดูแล้วก็อาจจะกลัวการปีนเขากันไปตามๆ กัน เรื่องราวของชายหนุ่มผู้กล้าตัดแขนตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด ใครได้ดูเรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นหนังฉากเดียวทั้งเรื่อง ที่เราได้เห็นถึงความทรมานและหดหู่ของ Aron Ralston (รับบทโดย James Franco) 

ส่วนหนึ่งจากคลิปที่เจ้าตัวได้ถ่ายไว้ตอนกำลังจะตัดแขนตัวเอง

โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเขาได้เดินทางเพียงลำพังไปปีนเขาที่ บลู จอห์น แคนยอน ที่อุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา โดยที่เจ้าตัวไม่ได้บอกใครเลยสักคน และนั่นจึงทำให้เขาพลาดท่าตกลงไปในซอกผา แถมซวยซ้ำซ้อนมีหินที่มีน้ำหนักกว่า 360 กิโลกรัมมาทับแขนเขาอีกต่างหาก แถมมือถือของเขายังตกลงไปด้วย เรียกได้ว่าซวยจริงๆ เขาได้ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ตัวเองรอด เขาติดอยู่ในซอกหินนั่นนานถึง 5 วัน เสบียงก็หมด เขาถึงกับต้องดื่มปัสสาวะตัวเองเพื่อปะทังชีวิต ระหว่าง 5 วันเขาก็ได้บันทึกวิดีโอระบายความรู้สึกกับเพื่อนๆ ครอบครัว และคนรักของเขา จนท้ายที่สุดเขาเกือบจะล้มเลิกความพยายามและยอมแพ้ เขาได้ใช้มีดที่พกติดตัวมาตัดแขนตัวเองให้ขาด โดยใช้เวลาถึง 20 นาที และเมื่อเขาปีนขึ้นมาได้เขาได้พยุงตัวเองสภาพเลือดโชกไปไกลถึง 13 กิโลเมตร และได้รับความช่วยเหลือในที่สุด

9. Rush

Niki Lauda (Daniel Brühl)

James Hunt (Chris Hemsworth)

Niki Lauda & James Hunt (ภาพจริง)

อุบัติเหตุรถเสียหลักเกิดเพลิงไหม้ของ Niki Lauda (เหตุการณ์จริง)

สองตำนานนักแข่ง F1 ที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ กับ Niki Lauda (รับบทโดย Daniel Brühl) นักแข่งอัจฉริยะจากออสเตรเลีย และ James Hunt (รับบทโดย Chris Hemsworth) นักแข่งมือดีผู้บ้าบิ่นจากสหราชอาณาจักร ที่ทั้งสองต่างแก่นแย่งชิงดีชิงเด่นกันมาในทุกสนาม แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์อันน่าสุดสะเทือนใจและเกือบทำให้ Lauda ต้องเสียชีวิต

ด้วยความผิดพลาดจากการขับในสนามที่อันตรายทำให้ Lauda โดนไฟคลอกและโคม่าอยู่ 4 วันเต็ม หลังจากนั้นเขาก็สามารถกลับมาแข่งต่อได้ ในสนามชิงแชมป์สุดท้ายตัวเขาได้ถอนตัวออกจากการแข่งเพราะเจอกับสถานการณ์เดียวกันกับตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุ ในสนามนั้น Hunt ก็ได้แชมป์ไปและเลิกขับ F1 อีกเลย หลายๆ คนมองว่า Hunt ต้องเสียชีวิตด้วยการใช้ชีวิตอย่างโลดโผน ไม่ด้วยเรื่องรถ ผู้หญิง ก็สุรา แต่เขากลับเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย ด้วยวัยเพียง 45 ปี 

ส่วน Lauda ก็แข่งขันต่อและได้แชมป์มาอีกเป็นกอบเป็นกำ จนเขามาเปิดสายการบิน Lauda Air เราอาจจะคุ้นเคยกับเหตุการณ์นี้ในปี 2534 เพราะเครื่องบินสายการบินนี้ได้ตกที่ไทย และผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งลำ

10. Top Secret วัยรุ่นพันล้าน

และนี่คือภาพยนตร์ไทยที่เราไม่ค่อยได้เห็น ภาพยนตร์เรื่องจริงที่ถูกสร้างออกมาเป็นแนวนี้สักเท่าไหร่ นี่คือเรื่องราวของ ต๊อบ-อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ (รับบทโดย พีช พชร) ผู้ที่เรารู้จักกับผลิตภัณฑ์เขาเป็นอย่างดี นั่นก็คือ เถ้าแก่น้อย เรื่องราวของชายหนุ่มที่ผันตัวเองจากเด็กติดเกมส์ มาเป็นมหาเศรษฐี ชายหนุ่มผู้ล้มลุกคลุกคลาน ลองผิดลองถูก จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เราจะได้เห็นเรื่องราวตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่จะมาเปิดบริษัท เถ้าแก่น้อย เป็นภาพยนตร์ไทยไม่กี่เรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนช่างฝัน และอยากทำธุรกิจเพิ่มขึ้นมากมายเลยทีเดียว

เรื่องราวเหตุการณ์จริงที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์เหล่านี้นั้น หลายๆ เรื่องก็มีการแต่งเติม บางส่วน ให้มีความสนุกสนาน ความบันเทิง มากขึ้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ก็ล้วนหยิบประเด็นสำคัญของเหตุการณ์จริงมาเล่าให้เราได้รู้อย่างที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน