เปิดเผยต้นฉบับ Star Wars: Episode IX ในชื่อ Star Wars: Duel of the Fates (พร้อมภาพ Concept Art)

ท่ามการเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่แตกออกมาเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจนของ Star Wars: The Rise of Skywalker กับบทสรุปตำนาน ว่าเหมือนจะไม่ควรค่าแก่การเป็นบทสรุปสักเท่าไหร่สำหรับด้านนึง แต่ได้มีบทต้นฉบับถูกเปิดเผยออกมาให้ เรามาลองดูกันว่าจะถูกใจแฟนคลับที่ไม่ชอบบทสรุปใน The Rise of Skywalker หรือเปล่า

มีการเปิดเผยถึงเรื่องราวต้นฉบับของ Star Wars: Episode IX ที่ Colin Trevorrow ได้เขียนเอาไว้ในตอนแรก ก่อนที่ภายหลังจะไม่ได้ใช้มันและเขียนขึ้นมาใหม่ร่วมกับ J.J. Abrams แทน จนออกมาเป็น Star Wars: The Rise of Skywalker 

เนื้อหานี้มีการเปิดเผยออกมาในโลกออนไลน์บนเว็บ Reddit เป็นบทที่ถูกเขียนโดยตัว Trevorrow และ Derek Connolly แล้วทางด้าน Youtuber อย่าง Robert Meyer Burnett ก็นำมาเปิดเผยให้อีกที ซึ่งมันถูกเขียนไว้ในวันที่ 16 ธันวาคม 2016 (สัปดาห์นึงก่อนที่ Carrie Fisher ผู้รับบท Leia จะเสียชีวิต) 

Star Wars: Episode IX ฉบับนี้ได้ใช้ชื่อว่า Star Wars: Duel of The Fates

STAR WARS: DUEL OF THE FATES

*ภาพประกอบบางภาพเพิ่มอรรถรสเฉยๆ ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องนะ 555
ส่วนบางภาพจะเป็น Concept Art จริงๆ ที่ไม่ได้ใช้ จากทาง Trevorrow*

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเหล่าปฐมภาคี (The First Order) ตัดสัญญาณการสื่อสารระหว่างดวงดาว เพื่อไม่ให้เหล่ากบฏทั่วทั้งจักรวาลได้รับรู้เรื่องราวการต่อสู้ของ Luke บนดาว Crait (Battle of Crait) เหล่ากลุ่มต่อต้าน (The Resistance) จึงมีภารกิจที่จะเปิดการสื่อสารระหว่างดวงดาวขึ้นอีกครั้งเพื่อเรียกรวมพลเหล่ากบฏที่เหลือให้มาเข้าร่วมการต่อสู้แห่งกาแล็กซี่ในครั้งนี้ 

Kuat Shipyards

ฉากแรกเริ่มต้นบนสถานีอวกาศ Kuat Shipyards เป็นที่ที่เหล่าปฐมภาคีใช้สร้างยาน ที่มีลักษณะเหมือนวงแหวนอยู่รอบดวงจันทร์ โดยเราจะเห็น Finn, Poe, Rose และ BB-8 กำลังลักรอบเข้าไปวางระเบิดทำลายที่แห่งนั้น แต่มันก็ไม่เป็นไปตามแผน เมื่อเหล่าปฐมภาคีรู้ถึงแผนนี้เข้า ทำให้ Admiral Vaughn สั่งให้โจมตีพวกนั้นซะ

 
Finn, Poe, Rose

ทันใดนั้นเอง Rey ที่ปลอมตัวเป็น Tusken Raider ก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมเปิดเผยถึงดาบ Lightsaber อันใหม่ของเธอโดยมีลักษณะเป็นดาบสองด้านที่สร้างมาจากไม้ที่เธอชอบพกไว้ประจำกับดาบของ Luke

พวกเขาได้ต่อสู้กันสักพัก และทั้งหมดก็หนีไป โดยการขโมยยาน Star Destroyer มา

Star Destroyer

Knights of Ren

ไม่นานยาน Knife 9 (ยานของเหล่า Knights of Ren) ก็ได้เดินทางมาถึง Kuat และได้ฆ่า Admiral Vaughn ทิ้ง ข้อหาทำภารกิจล้มเหลว

New Coruscant

ตัดมาที Coruscant มันไม่ใช่ดวงดาวที่เราคุ้นเคยกันอีกแล้ว เพราะมันถูกปกครองโดยเหล่าปฐมภาคี ประชาชนตกเป็นทาส Hux ได้ขึ้นเป็นนายก และมีการสั่งประหาร Bisc Kova ผู้ที่ช่วยฝ่ายต่อต้านหลบหนี ด้วยการใช้กิโยตินที่มีใบมีดเป็น Lightsaber

Hux และนายพล Selleck ได้มาประชุมกันร่วมกับพันธมิตรของเหล่าปฐมภาคี พร้อมตระหนักว่า Rey กำลังจะเป็นเจไดคนสุดท้ายจริงๆ ทางสภาต้องการรู้ว่าตอนนี้ Kylo Ren อยู่ที่ไหน เพราะหลังจากสงครามบนดาว Crait เขาก็หายตัวไป Hux รู้เพียงแต่ว่า Kylo กำลังเดินทางออกตามหาพลังบางอย่างอยู่

Hux

Kylo on Mustafar

ณ ตอนนี้ Kylo Ren ได้อยู่บนดาว Mustafar เพียงคนเดียว และเขาได้เผชิญหน้ากับ Darth Maul ในรูปลักษณ์ของดรอยด์

Darth Maul

และ Kylo ก็กำลังถูกวิญญาณของ Luke ตามมาหลอกหลอนอยู่ด้วย 

Luke: "นี่เป็นสถานที่ที่จะนำเจ้าไปสู่ความมืดมิด มันคือหลุมศพที่ว่างเปล่า" 

Kylo: "แล้วเส้นทางของแก นำแกไปถึงจุดไหนล่ะ?"

Luke พยายามเกลี้ยกล่อมให้ Kylo กลับไปหา Leia 

Kylo: "ฉันจะมีพลังให้เหนือกว่าที่เจไดทุกคนเคยมี...แม้กระทั่งแกด้วย"

ในวิหารเจได Kylo ได้เจอกับ Holocron ของ Sith ที่ฉายโฮโลแกรมของ Palpatine ขึ้นมา เป็นจดหมายที่ส่งถึง Vader มีใจความบอกไว้ว่า ถ้า Luke ฆ่า Palpatine ให้ Vader พา Luke ไปที่ Remnicore System เพื่อไปหา Tor Valum อาจารย์ของ Palpatine

หลังจากนั้น Holocron ก็ได้สแกนและรู้ว่า Kylo ไม่ใช่ Vader มันจึงระเบิดทำลายตัวเอง ปล่อยแสงสีแดงเผา Kylo จนเขาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด 

Kor-Alaf

ณ ฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้านที่ Kor-Alaf ตัวของ Leia สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับ Ben (Kylo Ren) และ Chewbacca กับ Connix ได้มาบอกว่าทีมจาก Kuat ได้กลับมาถึงฐานที่มั่นแล้ว และคนที่ฐานทั้งหมดต่างตกใจเมื่อเห็นยาน Star Destroyer กำลังลงจอดบนดาว (ฉากนี้มีฉากตลกๆ ที่ Rey ใช้ Jedi Mind Trick กับเหล่าปฐมภาคีบางคนที่อยู่บนยานลำนั้นด้วย)

Rey ได้สารภาพกับ Finn ว่าเธอรู้สึกว่าเธอไม่รู้สึกเลยว่าเธอเหมาะที่จะเป็นเจได เธอไม่สามารถแบกรับความคาดหวังมากมายอย่างที่หลายๆ คนคาดหวังได้ ดังนั้น Finn จึงถาม Rey ไปว่ายังสัมผัสถึง Kylo ได้อยู่ไหม ทำให้ Rey สารภาพว่าเธอยังคงฝันร้ายอยู่ Finn จึงถามต่อว่าใช่ Kylo หรือเปล่า แต่ Rey ก็บอกไปว่าเธอไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์การเชื่อมต่อของพลังอันนี้ที่มันเกิดขึ้นมาได้

Finn: "เธอต้องตัดเขาออกไปซะ เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว มันสายไปแล้ว

Rey: "มันไม่มีคำว่าสายไปหรอกสำหรับการเปลี่ยนแปลง นายสอนฉันแบบนั้นเองนะ Finn"

และในระหว่างนั้นฝ่ายต่อต้านก็ตระหนักได้ว่าบนยาน Star Destroyer เต็มไปด้วยอาวุธมากมายที่จะสามารถใช้ต่อกรกับเหล่าปฐมภาคีได้ แต่สิ่งเดียวที่ขาดหายไปคือคนที่จะใช้มัน

Rey ได้ศึกษาจากตำราเก่าแก่ของ Jedi และค้นพบบางอย่างในวิหารเจไดใต้ Coruscant ที่ถูกเรียกว่า Force Beacon เป็นระบบการสื่อสารอันเก่าแก่ของสาธารณรัฐเก่า (Old Republic) ที่สามารถส่งสัญญาณไปไกลได้ถึง 50 ดวงดาว ทำให้ฝ่ายต่อต้านวางแผนจะใช้มันเพื่อรวบรวมพันธมิตรในกาแล็กซี่ไปต่อกรกับเหล่าปฐมภาคี

Rey: "ความหวัง คือสิ่งเดียวที่เรายังเหลืออยู่"

Force Ghost ของ Luke ได้ปรากฏตัวขึ้นในระหว่างที่ Rey กำลังฝึก และ Luke ก็พยายามผลักดัน Rey ให้แข็งแกร่งขึ้น ในขณะเดียวกัน Luke ก็พยายามผลัก Kylo ให้ปลดปล่อย Ben ออกมา

Rey: "สมดุล? ความมืดทำให้เกิดแสงสว่าง, แสงสว่างทำให้ความมืดหายไป ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นน่ะหรอคือคำว่าสมดุลแห่งพลัง?"

Luke: "ฉันรู้จักความโกรธนั้น พ่อของฉันก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน"

Rey: "ดังนั้น อาจารย์ของฉันและอาจารย์ของเขาก่อนหน้านั้น และอาจารย์อีกหลายๆ พันคนกำลังจะบอกเราถึงวิธีการใช้ชีวิตงั้นหรอ"

Rey พยายามจะถอยออกจากการเป็นเจได เธอย้ำเสมอว่าเธอไม่ใช่คนสำคัญอะไร แต่ Luke พยายามเกลี้ยกล่อมเธอว่า Force กำลังคุยกับเธออยู่

Kylo on Coruscant

Kylo เดินทางมายัง Coruscant ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการระเบิดของ Horocron ชุดเกราะของเขาเสียหาย หมวกของเขาละลายถูกหลอมติดกับใบหน้า เขาได้เผชิญหน้ากับ Hux และโต้เถียงกัน 

Kylo กำลังจะเดินทางไปยังดาวของ Sith ที่ Remnicore และได้ให้คำสั่งสุดท้ายแก่ Hux เอาไว้ว่า

Kylo: "ตามหาพวกฝ่ายต่อต้าน ล้างบางพวกมันซะ และทิ้งผู้หญิงไว้ให้ข้า"

ก่อนจะเดินทางออกไป Kylo ได้หยิบหน้ากากของ Vader ออกมาพร้อมบอกว่าตอนนี้เขาเข้าใจ Vader แล้ว

Kylo: "คุณยอมให้ความรัก ทำให้การตัดสินใจของคุณชัดเจนสินะ"

พร้อมๆ กับเขวี้ยงหน้ากาก Vader ทิ้งไปนอกระเบียง และหน้ากาก Vader แตกกระจาย

Split Mission

ที่ฐานของฝ่ายต่อต้าน ได้มีการจัดทีมแบ่งไปทำภารกิจขึ้นโดย

Team A ประกอบไปด้วย Rose, Finn, R2-D2, C-3PO ได้รับภารกิจให้เดินทางไปยังวิหารเจไดใต้ Coruscant เพื่อเปิดใช้งาน Force Beacon

Team B ประกอบไปด้วย Rey, Poe, Chewbacca) ได้รับภารกิจให้เดินทางไปยังดวงดาวแห่งหนึ่งเพื่อตามหาคนที่จะมาช่วย Rey หาคำตอบว่าเธอต้องทำอะไร 

ส่วนทางด้าน Leia ได้อยู่ที่ฐานคอยกำกับดูแลฝ่ายต่อต้านทั้งหมด แต่ก่อนที่ Rey จะออกไป Leia ได้บอกกับ Rey ว่าเธอชื่อว่ายังมีความดีหลงเหลืออยู่ในตัว Kylo 

Leia: "เธอไม่เหมือนพ่อหรือพี่ของฉัน เธอคือคนใหม่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม จงจำไว้ว่า Force ได้เลือกเธอ Rey เรื่องราวของเธอจะไม่มีใครได้เขียนมันนอกจากตัวเธอเอง"

ไม่นานเหล่าปฐมภาคีก็ได้ตามรอยยาน Star Destroyer มาจนถึงฐานที่มั่นบน Kor-Alaf แต่ฝ่ายต่อต้านก็หลบหนีไปได้สำเร็จ

Team B on Bonadan

Team B ได้ถูกไล่ล่าโดยยาน Knife 9 (ยานของเหล่า Knights of Ren) และในที่สุดก็ได้ลงจอดบนดาว Bonadan

Poe ได้พา Rey ไปหา Seer ผู้ที่มีความสามารถดึงข้อมูลออกไปจากความทรงจำได้ ทำให้ Seer ดึงแผนผังดวงดาวออกจากหัวของ Rey รวมถึง Kylo ด้วย

ไม่นาน Knights of Ren ก็โผล่มา จึงเกิดการดวลดาบ Lightsaber ระหว่าง Rey และเหล่า Knights of Ren ขึ้น จนในที่สุดก็เป็น Rey ที่สามารถเอาชนะได้ และทั้งหมดก็หลบหนีไป 

Kylo on Remincore 

Kylo ได้เดินทางมาถึง Remincore และได้เผชิญหน้ากับ Tor Valum (อายุ 7000 ปี เป็นเอเลี่ยนไม่ทราบสายพันธุ์, สูงเรียว, มีกล้ามเนื้อที่แลดูแข็งแรง ลักษณะคล้ายๆ ในนิยายของ Lovecraft)

Tor Valum

Kylo จึงได้ฝึกวิชากับ Valum และได้เข้าไปยังถ้ำแห่งหนึ่ง ณ ถ้ำแห่งนั้นเขาได้ต่อสู้กับ Vader และเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงมาก และ Kylo ก็แพ้ (เดาว่าน่าจะคล้ายๆ กับที่ Luke เคยฝึกกับ Yoda บนดาว Dagobah ใน Empire Strikes Back)

Battle of Coruscant

Leia ขอให้ Lando รวบรวมเหล่าพวกขนของเถื่อนและต่อสู้กับเหล่าปฐมภาคี 

ท้องถนนบนดาว Coruscant ที่เปลี่ยนไป

บนดาว Coruscant พวกเขาก็ได้เปิดใช้งาน Force Beacon เพื่อขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรในกาแล็กซี่ จากการอัดคลิปของ Leia ผ่าน BB-8

ทางด้านของ Rose ก็พลาดท่าเสียทีโดนเหล่าปฐมภาคีจับตัวไป เลยทำให้ Finn/R2-D2/C-3PO ได้ปลุกระดมผู้คนบนดาว Coruscant ให้เข้าปะทะกับเหล่าปฐมภาคี

ไม่นาน Leia ก็ได้นำกองกำลังมาสมทบ เกิดเป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่บนดาว Coruscant ขึ้น ทั้งบนอวกาศ และบนภาคพื้นดิน (Chewie ขับยาน X-Wing รบด้วย)

X-Wing

ในระหว่างการสู้รบก็เกิดการสูญเสียขึ้น เมื่อ R2 โดนยิงที่หัวและเครื่องก็ดับลง ทำให้เกิดเป็นฉากดราม่าซีนอารมณ์ของ C3-P0 ขึ้น ทางด้าน Finn ก็พูดไม่ออกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงความเศร้าเสียใจของ Chewbacca ที่ได้แบก R2 ขึ้นหลังไป

Rey vs. Kylo

Rey เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดบนดาว Mortis

Rey และ Kylo ได้เดินทางมาถึง Mortis และทั้งสองก็ได้ปะทะกัน

ในระหว่างการปะทะกัน มีการเปิดเผยว่า Kylo เนี่ยแหละ คือคนที่สังหารพ่อแม่ของ Rey ตามคำสั่งของ Snoke และท้ายที่สุดก็เป็น Rey ที่ชนะ

ขณะที่ Kylo กำลังจะตาย ได้มีการปรากฏตัวของ Force Ghost ทั้ง Luke, Obi-Wan, Yoda เพื่อมาช่วย Ben แต่ก็ไม่สำเร็จ Ben ได้สลายหายไป

End

ฝ่ายต่อต้านได้รับชัยชนะและเหล่าปฐมภาคีก็พ่ายแพ้ จากการพ่ายแพ้นั้น ทำให้ Hux เสียสละชีวิตตัวเองฆ่าตัวตายโดยใช้ Lightsaber ด้วยวิธีการ Seppuku (การฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้องในยุคซามูไรของประเทศญี่ปุ่น)

Finn และ Rose ได้พาเหล่าเด็กๆ บนดาวดวงนั้น พวกเขาคือเด็กผู้มี Force กลับไปหา Rey เพื่อให้เธอฝึกฝนเจไดรุ่นต่อไป โดยหนึ่งในเด็กพวกนั้นคือ เด็กชายผู้ถือไม้กวาดในตอนจบของ Star Wars: The Last Jedi

เด็กดึงไม้กวาดตอนจบ Star Wars: The Last Jedi

ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีการยืนยันจากทางตัว Trevorrow และ Lucasfilm ถึงบทนี้แต่อย่างใด ก็นับว่าเป็นข่าวลือ (ที่ได้รับความนิยมสูงมากๆ ในขณะนี้) ก็อ่านได้เพลินๆ แหละน่า ถึงอย่างไรก็ตามเราก็คงได้แต่รอติดตามเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ต่อไปในอนาคต ทั้งฉบับหนังและซีรีส์ทาง Disney+ เน้อ

*ภายหลังมีภาพ Concept Art ของ Trevorrow ออกมาให้ดูชมกันด้วย (รวมให้ดูอีกที)