Last Christmas - ลาสต์คริสต์มาส
หนัง Last Christmas หรือชื่อไทยว่า ลาสต์ คริสต์มาส เอมิเลีย คลาร์ก (Game of Thrones), เฮนรี่ โกลดิ้ง (A Simple Favor, Crazy Rich Asians), มิเชลล์ โหย่ว และเอ็มม่า ธอมป์สัน ร่วมแสดงใน Last Christmas ภาพยนตร์กำกับโดย พอล ฟีก (A Simple Favor, Spy, Bridesmaids) ภาพยนตร์โรแมนติคคอเมดี้เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงของจอร์จ ไมเคิล ภาพยนตร์เขียนบทโดยเอ็มม่า ธอมป์สัน (Sense and Sensibility, Bridget Jones’s Baby) และไบรโอนี่ คิมมิงส์ เคท (เอมิเลีย คลาร์ก) แต่งตัวรุ่มร่ามอยู่ในชุดเอลฟ์ เธอทำงานอยู่ในร้านขายของคริสต์มาสต์ในลอนดอน กำลังอยู่ในช่วงย่ำแย่ในชีวิต และทอม (เฮนรี่ โกลดิ้ง) ชายหนุ่มที่ดูดีเกินจริงได้เข้ามาในชีวิตเธอและพาเธอก้าวข้ามอุปสรรคในชีวิต และลอนดอนก็เข้าสู่ช่วงมหัศจรรย์ของปี บางครั้ง คุณก็เพียงแค่ปล่อยให้หิมะตกไป ฟังเสียงของหัวใจ และมีศรัทธา Last Christmas มีเพลงของจอร์จ ไมเคิลในภาพยนตร์ รวมถึงเพลงชื่อเดียวกับภาพยนตร์ นอกจากนี้ ยังมีเพลงของจอร์จ ไมเคิล ที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมา จอร์จ ไมเคิล คือศิลปินระดับตำนานที่เคยได้รับรางวัลแกรมมี่ มียอดขายอัลบั้มมากกว่า 115 ล้านอัลบั้ม มีเพลงขึ้นอันดับ 1 ถึง 10 เพลง ภาพยนตร์อำนวยการสร้างโดย เดวิด ลิฟวิงสโตน จากคาลามิตี้ฟิล์มส์, เอ็มม่า ธอมป์สัน, พอล ฟีก และเจสซี่ เฮนเดอร์สัน จากฟีกโค เอนเตอร์เทนเมนท์ ภาพยนตร์บริหารงานสร้างโดย ซาร่าห์ แบรดชอว์
Kate is a young woman subscribed to bad decisions. Her last date with disaster? That of having accepted to work as Santa's elf for a department store. However, she meets Tom there. Her life takes a new turn. For Kate, it seems too good to be true.
รีวิววิจารณ์หนัง (0)
Last Christmas เมื่อเพลงคุ้นหูถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์
เหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ทุกๆ ปลายปีเพลง Last Christmas จะถูกนำมารีมิกซ์ใหม่ หลายเวอร์ชั่น หลายนักร้องมาก ซึ่งก็ได้รับความนิยมที่จะเปิดฟังในทุกๆ ปี จนมาถึงปีนี้ได้มีการหยิบเอาเนื้อหาในเพลงนี้มาตีความใหม่ สร้างเป็นเรื่องราวความรักขึ้นฉายบนจอใหญ่
เรื่องราวว่าด้วยสาวผู้ซึ่งผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ต้องพยายามใช้ชีวิตให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เธอเองก็รู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป จนกระทั่งวันนึงเธอได้พบชายในฝันที่มาช่วยนำพาให้ชีวิตเธอกลับเข้าร่องเข้ารอยอีกครั้ง
เอาจริงๆ แล้วตัวหนังนั้นไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หรือเกิดคาดเดาอะไรเลย การดำเนินเรื่องค่อนข้างจะธรรมดาด้วยซ้ำไป ผมเองขนาดเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรระหว่างดูยังสามารถรับโน้นชนนี่ เดาเรื่องช่วงท่ายของหนังได้เป๊ะๆแบบฉากต่อฉากเลยทีเดียว แต่ในความง่ายๆของหนังเรื่องนี้นั้น มันเต็มไปด้วยความโรแมนติก เพลิดเพลินไปกับบทเพลงประกอบในหนัง และบรรยากาศ Christmas ชวนให้อบอุ่นหัวใจ
สรุปแล้วนั้นถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นหนังที่เดาเรื่องราวได้ไม่ยาก แต่ตัวหนังเองนั้นก็สามารถนำพาคนดูให้เอ็นจอยกับความโรแมนติก ทำหน้าที่เป็นหนังครอบครัวดูแล้ว Feel Good ในช่วงปลายปีได้อย่างเต็มเปี่ยม เหมาะแก่การชวนคนที่รักมาชมด้วยกันเป็นอย่างมาก 8/10
[รีวิว] Last Christmas
--- 6.5/10 ---
หนังรักธรรมดาๆ ช่วงคริสต์มาส
เพลินกำลังดี โรแมนติคนิดหน่อย ดราม่าน้อยๆ
ดูง่าย เดาง่าย ไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่
อย่างที่เคยบอกไว้ในรีวิวของ ฮาร์ทบีท ว่าช่วงท้ายๆ ปี ต้องมีหนังรักๆ รอมคอม อะไรแนวนี้เข้ามาช่วงนี้เสมอ ซึ่งหนังไทยก็มีไปละ คราวนี้มาหนังต่างประเทศบ้าง กับเรื่อง Last Christmas ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เพราะประเด็นบางอย่างของตัวนางเอกช่างเหมือนกับใน ฮาร์ทบีท เสียเหลือเกิน
Last Christmas เป็นเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงสุดคลาสสิค Last Christmas ของ George Michael กับเรื่องราวของหญิงสาวที่ได้ประสบอุบัติเหตุเมื่อคริสต์มาสปีที่แล้ว และเธอก็เริ่มแปลกไป จนกระทั่งเธอได้มาพบกับชายหนุ่มผู้ดูเลิศเลอเพอร์เฟ็ค ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงเริ่มมากขึ้น พร้อมๆ กับชีวิตเธอที่เปลี่ยนไป
ตัวหนังไม่มีอะไรซับซ้อน เดินเรื่องง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก เพลินๆ เรื่อยๆ ภาพรวมมันก็โอเคนะ ไม่ได้หวานจนเลี่ยน ซึ้งจนน้ำตาไหล หรือดราม่าจนร้องห่มร้องไห้ แต่ทุกอย่างมันจะอยู่กลางๆ หมดเลย พอหนังดำเนินไปเรื่อยๆ มาถึงจุดนึงเราจะจับทางได้ละว่า “มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ” และมันก็เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆ แบบไม่มีผิดเพี้ยน กลายเป็นเดาเรื่องออกง่ายๆ เลย แถมยังมีประเด็นหลายๆ ส่วนที่นั่งคิดแล้วคิดอีก ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมีเลยด้วยซ้ำ ใส่เข้ามาโดยไม่จำเป็น และไม่ได้ส่งผลอะไรกับหนังเลย
หนังแสดงด้วยดารามีชื่อมากมายไล่ไปตั้งแต่คู่พระ-นาง Emilia Clarke, Henry Golding ตามมาด้วย Michelle Yeoh และ Emma Thompson แต่รู้สึกว่าหนังใช้ดาราเหล่านี้ไม่คุ้มเลยจริงๆ แต่ละคนมีความสามารถและศักยภาพที่สามารถแสดงอะไรออกมาได้เยอะกว่านี้มาก แต่บทมันไม่สามารถส่งพวกเขาให้โชว์ฝีมือได้เลยจริงๆ เสียดายความสามารถอะ มันเลยเหมือนกลายเป็นเหมือนหนังที่เหล่าดารามาเล่นขั้นเวลาว่างเฉยๆ ไปซะได้
แต่ก็ยังดี ที่เรายังได้เห็นความน่ารัก โก๊ะๆ เปิ่นๆ ของ Emilia Clarke ให้พอสลัดคราบแม่มังกรออกมาได้บ้าง (ถ้าใครนึกไม่ออก ก็คล้ายๆ อย่างใน Me Before You) และได้ฟังเธอร้องเพลง Last Christmas เพราะๆ ให้พอยิ้มได้บ้าง อีกทั้งสาวๆ คงเพลินๆ กับความหล่อของ Henry Golding ด้วยแหละ (ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ค่อยได้โชว์ฝีมือการแสดงอะไรเท่าไหร่ก็ตาม)
สรุปแล้ว หนังกลายเป็นกลางๆ ไปหมดทุกส่วน ถามว่าสนุกไหม ก็โอเคนะ เหมือนที่เราพูดบ่อยๆ (ดูได้เพลินๆ) ถือว่าเป็นหนังขั้นวันหยุดที่ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้แหละ
สรุปผลวิจารณ์หนัง