0 Justice+League+-+%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8B+%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81

Justice League - จัสติซ ลีก

เข้าฉาย 16 พฤศจิกายน 2560
ผู้ชม : 72,118
ผู้กำกับ : Zack Snyder (แซค สไนเดอร์)
ความยาวหนัง : 120.00
Text Size

หนัง Justice League หรือชื่อไทยว่า จัสติซ ลีก หลังจาก บรูซ เวย์น กลับมาศรัทธาในตัวมนุษยชาติ และได้แรงบันดาลใจจากการเสียสละของซูเปอร์แมน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรคนใหม่อย่าง ไดอาน่า ปรินซ์ ในการเผชิญหน้ากับศัตรูที่อันตรายยิ่งกว่า โดยพวกเขาต้องเร่งมือควานหา เมต้าฮิวแมน มาร่วมกันต่อกรกับภัยคุกคามครั้งใหม่นี้ ซึ่งถึงแม้เหล่าฮีโร่อย่าง แบทแมน, วันเดอร์วูแมน, อควาแมน, ไซบอร์ก และเดอะแฟลช จะรวมตัวกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มันอาจสายเกินไปสำหรับการพิทักษ์โลกให้พ้นจากหายนะครั้งใหญ่หลวง


หนัง Justice League หรือชื่อไทยว่า จัสติซ ลีก Fueled by his restored faith in humanity and inspired by Superman's selfless act, Bruce Wayne enlists the help of his newfound ally, Diana Prince, to face an even greater enemy.

รีวิววิจารณ์หนัง (0)

21 พฤศจิกายน 2560 22:36:14

Justice League หนังรวมพลครั้งแรกของดีซี ที่จะมีทั้งดีและไม่ดี

อย่างแรกเลยสำหรับจักรวาลหนัง DC ของ Warner Bros. ดูกระท่อนกระแท่นไปมาเป็นอย่างมาก หลังจากเละเทะไม่เป็นท่าไปกับ Batman v Superman ในเรื่องของตัวบทที่พยายามเล่นใหญ่ใส่โน้นนี่นั่นเยอะไปหมด ไม่ได้มีการปุพื้นเรื่องราวตัวละครอื่นๆให้คนดูอินไปกับหนัง กลายเป็นหนังยำเละที่โดนหั่นๆๆแล้วก็หั่นจนดูไม่รู้เรื่องเลยในรอบแรก แต่ก็พอจะกู้หน้าขึ้นมาได้บ้างกับ Wonder Woman ในต้นปีที่ผ่านมา อันนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของทิศทางหนังของจักรวาล DC ในอนาคต

สิ่งที่ทำให้หลายคนหวั่นๆกับ จัสติส ลีก เวอร์ชั่นนี้ ก็เพราะดำเนินงานสร้างและกำกับโดยตา แซค สไนเดอร์ ผู้ซึ่งมีดีที่ฉากแอคชั่น เท่านั้น ตัวบทในหนังเรื่องก่อนๆของพี่แกถ้าไม่ได้มีคนเกลาบทที่ดี หนังเรื่องนั้นก็อาจจะเล่าเรื่องได้เละเทะแบบ BvS ก็เป็นได้ แต่ด้วยผลพวงจากปัญหาทางบ้านของตาแซคเอง ทำให้ต้องถอดตัวกลางคันและได้จอร์ช วีดอน ผกก The Avenger/ Avenger Age of Ultron มารับช่วงต่อของหนังแทน ซึ่งเอาจริงๆส่วนตัวผมมีความหวั่นๆกับการให้ ผกก ที่ทิศทางหนัง โทนหนังแตกต่างกันขนาดนี้ มาทำหนังเรื่องเดียวกัน มันจะมีขัดแย้งในโทนหนังหรือไม เป็นอะไรที่น่าหวั่นใจไม่ต้องโดยเฉพาะ ภาษีของหนังจักรวาล DCนั่นยิ่งลุ่มๆดอนๆอยู่ในช่วงนี้

จากการที่ผมเองทำใจเอาไว้เยอะก่อนได้เข้าไปชม ถึงขั้นไม่หวังอะไรเลยจากหนังเรื่องนี้ หลังจากชมจบก็ต้องพบกับคำว่า บันเทิงเกินคาดจริงๆ ตัวหนังนั้นเนื่องด้วยที่เป็นการเล่าเรื่องการรวมพลครั้งแรกของหลายตัวละคร ที่ถูกจับยัดลงในหนังความยาวเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้การดำเนินเรื่องมีความเร่งสปีดอย่างสูงชนิดที่ว่า ถ้าใครหลุดโฟกัสจากหนังไปซักแป๊ป อาจจะเสียอรรถรสในการชมของฉากนั้นๆไปเยอะ หรือขาดความเชื่อมต่อกับเนื้อเรื่องโดยสิ้นเชิงเลยก็ว่าได้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ถ้าหนังขยายเวลาเล่าเรื่องอีกซัก ครึ่งชั่วโมงคงจะลงตัวดีกว่านี้่แน่ หรืออาจจะเป็นแผนของ Warner Bros. อีกครั้งที่จะขายหนังเวอร์ชั่นเต็มตอนลง Home Ent ก็เป็นไป (แต่ในกรณีนี้ตัวหนังเวอร์ชั่นฉายโรงไม่ได้มีความเละเทะแบบ Bvs ที่หลายคนบ่นกัน)

 ข้อดีของจัสติส ลีกคือ ดำเนินเรื่องเร็วเอาใจคอหนังสมัยนี้จริงๆ แอคชั่นจัดหนักมากตามสไตล์แซค และได้มุขตลกของ จอร์ช มาช่วยเสริมให้หนังดูย่อยง่ายและเข้าถึงง่าย ตามสไตล์หนังมาร์เวล แต่ก็ไม่ได้สีสัน หรือโทนหนังใส่ๆสไตล์มาร์เวลจ๋าขนาดนั้น ยังคงมีความดาร์ค และจริงจังลงเหลืออยู่บ้าง เพื่อให้เป็น Theme หลักของหนังจักรวาล DC

ข้อเสียเท่าที่คิดออกตอนนี้คืออย่างแรก ตัวหนังด้วยความที่พยายามที่จะเล่าเรื่องให้รวดเร็ว สั้น กระชับ จนบางครั้งมันอาจจะห้วนไป ถ้าขยายให้หนังยาวขึ้นอีกนิดได้ก็คงจะกลบจุดนี้ไปได้ และอีกส่วนที่เป็นห่วงก่อนชมคือ สไตล์หนังของ แซค และ จอร์ช นั้นมีความแตกต่างกันชัดเจนอยู่ จนทำให้ระหว่างชมก็สามารถเช็คได้ว่า ส่วนนี้ของตาแซค ส่วนนี้ของตาจอร์ช ที่ถ่ายซ่อมเสริมเข้ามา

สรุปแล้วส่วนตัวผมก็บันเทิงกับ จัสติส ลีกเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ มันเกินคาดในหลายๆส่วน โดยเฉพาะด้านความบันเทิง ที่ถือว่าเป็นก้าวที่ 2 ถัดจากวันเดอร์วูแมน ที่ จักรวาล DC จับทางถูกและถ้ายังยึดแนวทางนี้ หนังในภายภาคหน้าคงจะมีอนาคตที่สดใสของคะแนนรีวิวและคำชมจากนักวิจาร์ณ ตามรอยมาร์เวลได้ไม่ยาก 7.5/10 ไปเลยสำหรับเรื่องนี้

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
6
การดำเนินเรื่อง
6.5
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
9
คะแนนเฉลี่ย
7.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
21 พฤศจิกายน 2560 22:00:34

รวมแก๊งค์กล้ามบึกพิทักษ์โลก - รีวิว โนสปอยล์ฉบับเด็กเดินตั๋ว

มันแบกรักแบกสู้มากเลย มีหลายกระแสนะตอนที่เข้าไปดู แต่พิสูจน์ด้วยตาตัวเองกันดีกว่าครับ หลักๆคือดูง่ายนะ ดูง่ายกว่า Batman V Superman หรือ Man of Steel เยอะเลย เรื่องราวดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ง่ายมากม๊ากมาก และบันเทิงดี แต่รู้สึกว่าแก๊งอเวนเจอร์จะบันเทิงกว่าอ่ะ (ก็แหงหล่ะ แก๊งดีซีเขาจะออกเคร่งขรึมกว่าหน่อย) 

ภาพรวมทั่วไปก็อยู่ในมาตรฐานที่พอรับได้แหล่ะ (มาตรฐานนี้เอนเอียงไปทางชอบจักรวาลดีซีกว่าหน่อยๆนะ) แต่เฮียซุปเปอร์แมนมาน้อยจัง คาแรกเตอร์แต่ละตัวก็มารวมกันแบบงงๆหน่อย มาแบบตัวใครตัวมัน ตัวร้ายก็ร๊ายร้ายอย่างกะหลุดมาจากการ์ตูน ส่วนซีจีก็เผาๆเยินๆไปหน่อยอ่ะ (เด็กเดินตั๋วได้ข่าวว่างบหมดไปกับการทำซีจีลบหนวดของนักแสดงซุปเปอร์แมนที่ต้องไว้หนวดเล่นหนังอีกเรื่องด้วย) ส่วนช่วงสู้กันเด็กเดินตั๋วก็หลับใส่เฉยเลย เสียมารยาทจริงๆ แต่ก็นั่นแหล่ะครับ อย่างที่บอก...หนังค่อนข้างจะเรียบง่ายดูกันเพลินๆ ก็ไม่แย่นะครับ แต่เด็กเดินตั๋วชอบแบทแมนดาร์กไนท์, Man Of Steel , Wonder Woman , Suicide Squad , Batman VS Superman มากกว่าเรื่องนี้เยอะเลย แล้วทุกท่านดูแล้วเป็นไงกันบ้างครับ มาแชร์กันบ้าง :)

 

- เด็กเดินตั๋ว -

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
4
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
6
ฝีมือนักแสดง
6.5
กราฟฟิก
5.5
คะแนนเฉลี่ย
5.6
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
20 พฤศจิกายน 2560 17:37:40

Justice League
16 พฤศจิกายน 2560 | Zack Snyder 

หนังจัสติสลีค เป็นเนื้อเรื่องต่อโดยตรงกับ BvS เมื่อไอคอนระดับพระเจ้าอย่างซุปเปอร์แมนตายจากไป เรื่องราวต่อจากนั้นคือความวุ่นวาย และการกลับมาของเทพทำลายล้างที่มีกลิ่นอายความเป็นเอเลี่ยนผสมกับเทพโบราณ โดยจะเริ่มต้นจากการสืบสวนของแบทแมนเกี่ยวกับกล่องสามใบซึ่งปูเอาไว้บางๆใน BvS ที่จะนำไปสู่การรวมทีมซุปเปอร์ฮีโร่ระดับโลก เพื่อโค่นตัวร้ายตัวหลักของเนื้อเรื่อง โดยรวมโครงเรื่องเหมือนอ่านการ์ตูนฮีโร่ยุคเก่าๆแบบสบายๆเลยทีเดียว

หนังเรื่องนี้ดูเพลินๆ แอคชั่นตระการตาตามสูตรผู้กำกับชไนเดอร์ (ถึงแม้จะมีเปลี่ยนตัวผู้กับกับกลางคันก็ตาม) คือต้องออกตัวก่อนว่าเริ่มอ่าน DC มาช่วง NEW 52 ทำให้สำหรับผมแล้ว การดูหนังจิสติสลีคก็เหมือนดูตัวละครที่รักมารวมตัวกันในจอภาพยนตร์ ซึ่งก็เคารพ และสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้น่าสนใจ คือเหมาะกับแฟน DC จริงๆ มีความตลกนิดหน่อยๆ และก็มีความซีเรียสผสมอย่างลงตัว

ในด้านโปรดักชั่น คือเห็นได้ชัดเลยว่ามีฉากถ่ายทำใหม่จำนวนมาก และกราฟฟิคมีอาการลอยออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆ ส่วนตัวเนื้อเรื่องก็มีการปรับลุคให้เบาสบายไม่เครียดหนักๆเหมือนของภาคเก่าๆ โดยเชื่อมเนื้อเรื่องกันด้วยบทโต้ตอบที่มีเสน่ห์และฉากแอคชั่นต่อสู้ที่ถูกออกแบบมาให้แต่ล่ะฮีโร่โชว์ของ มาช่วยเหลือกัน เหมือนคอมโบเวลาเล่นเกมยังไงยังงั้น แต่โครงเรื่องก็เป็นเส้นตรง หลายๆอย่างถูกเขียนขึ้นมาใหม่โดยไม่ค่อยจะเคารพภาค BvS เท่าไหร่นัก คือเห็นชัดเจนเลยว่ามีการแก้ไขกันเกิดขึ้นเยอะมากๆ มีพล๊อตและนำเสนออะไรแปลกๆอยู่เยอะ แต่ก็ยังผ่านมาตรฐานอยู่ดีนะ

น่าเสียดายเหมือนกันที่เสน่ห์การเล่าเรื่องเครียดๆนิ่งหายไป แต่ก็แทนที่ด้วยโปรดักชั่นแบบปลอดภัยแทน ไม่ค่อยมีอะไรใหม่หนังในจิสติคลีคสำหรับคอภาพยนตร์ เพลงที่เคยทำได้ดีในหนังเรื่องก่อนๆเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยเด่นเท่าที่ควร แต่ก็เป็นหนังดูเพลินๆสนองคอ DC ได้ดี ส่วนนักแสดงก็แบกหนังกันพอสมควร แบทแมนอึนมึนๆ วอนเดอร์วูแมนสุดเท่ เฟลชกวนโอ๊ย อควาแมนที่มีการปรับลุคแบบดิบเถื่อน และไซบอร์คแสนเศร้า ซึ่งมันลงตัวอย่างน่าประหลาด

มันเป็นหนังที่มีปัญหาอยู่ในหลายๆส่วน แต่ก็พอกล่อมเกลาผ่านมาตรฐานหนังดีไปได้ ก็เอาใจช่วยว่าหนังในเครือ DC ครั้งหน้าจะดีกว่านี้ แต่จัสติสลีคกำลังมาถูกทางแล้ว เพราะสำหรับแฟนๆ DC เองสามารถหลงรักหนังเรื่องนี้ได้ง่ายๆเลยล่ะ

ได้มีโอกาสไปดูรอบสื่อที่จัดโดย Nokia 8 ประทับใจมากๆ

 



 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
6
การดำเนินเรื่อง
6
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
7.5
กราฟฟิก
6
คะแนนเฉลี่ย
6.5
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
19 พฤศจิกายน 2560 15:16:41

Justice League - จัสติซ ลีก

120 min | Action/Fantasy | Directed by Zack Snyder , Joss Whedon 

เนื้อหาต่อเนื่องจาก Batman vs Superman ทันทีหลังจากที่โลกสูญเสียซุปเปอร์แมนไป ภัยคุกคามโลกครั้งใหม่ก็ตามมาทันที และครั้งนี้ดูจะหนักหนายิ่งกว่าเดิม ทำให้บรูซ เวย์น หรือแบทแมนต้องรวบรวมเหล่าเมต้าฮิวแมนหรือมนุษย์เหนือมนุษย์ทั้งหลายเพื่อจัดตั้งทีมไว้ต่อกรกับภัยร้ายที่ยากเกินกว่าที่จะรับมือเพียงลำพัง 

หลังจากคำวิจารณ์ไม่ค่อยสู้ดีในหลายต่อหลายเรื่องของภาพยนตร์จาก DC Extended Universe แม้ว่าหนังเดี่ยววอนเดอร์วูแมนจะพอเชิดหน้าชูตาได้บ้าง แต่อาการโดยภาพรวมก็ยังน่าเป็นห่วง ยิ่งถ้ามาเจาะกันที่หนังเรื่องนี้ การเปลี่ยนผ่านผู้กำกับในโค้งสุดท้ายของกระบวนการโพสต์โปรดัคชั่นก็ถือว่าเป็นอิทธิพลสำคัญกับหนังที่เราได้ดูในตอนนี้ 

ปัญหาสำคัญของหนังเลยคือการตัดต่อที่เข้าขั้นแย่มาก ซึ่งจะโทษคนตัดต่อก็ยากมาก เพราะตัวหนังค่อนข้างมีปัญหาในทุกภาคส่วน ซีนไหนบ้างที่ถ่ายซ่อมถ่ายแก้สามารถดูได้ในหนังแบบไม่ยากเย็น ซึ่งถ้ารอยรั่วมันยับขนาดนี้ก็ยากที่จะตัดออกมาให้ลื่นไหล ช่วงต้นหนังใช้เวลาไปกับการปูเรื่องในส่วนของ เดอะแฟลช / อควาแมน และ ไซบอร์ก มันอาจจะกระชับเกินไปและไม่มากพอที่จะทำให้เรารู้จักคาแรคเตอร์เหล่านี้ได้ดีพอที่จะอินกับมัน ยิ่งถ้าใครไม่ได้รู้จักพื้นเพก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีกับการสุขเอาเผากินในส่วนนี้มากนัก แต่แม้ว่าช่วงต้นจะดูเหนื่อยและเนือยเพียงใด แต่พอเข้าสู่ช่วงต่อสู้ ก็กลับบันเทิงไปกับการต่อสู้แบบบ้าพลังประหนึ่งกำลังชมดราก้อนบอลซุปเปอร์ที่ประโคมเพลงประกอบฮาร์ดร็อคเท่ๆเข้าไป เพลินดีเหมือนกัน 

คลิกเพื่อซ่อนหรือแสดงข้อความ
 

ย้อนกลับไปช่วงต้นนิดนึง ผมรู้สึกแปลกๆกับการที่หนังแอคเป็น vtr งานศพของซุป ขยี้เรื่องซุป ปูเรื่องซุปจนเยอะและเวิ่นเว้อเกินไป จนทำให้หลายตัวละครที่มันควรจะเพิ่มมิติได้ มันไม่มีแอร์ไทม์มากพอ

อีกจุดหนึ่งที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้คือ มิติของตัวร้ายของเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ผมเสียดายมากที่ Thor ไม่ได้ให้มิติกับเฮล่ามากเท่าที่ควรจะเป็น เรื่องนี้หยาบกว่านั้นมาก สเตเฟ่นวูล์ฟ คือแบบย่างของตัวร้ายที่แย่ และคร่ำครึ คือข้าจะบุกโลก ข้าจะยึดโลกอย่างเดียว ไม่มีแง่มุมอื่น ซ้ำซากและจำเจ 

จอส วีดอน ก่อนหน้านี้อาจเป็นคนดูหนังเหมือนกับเราและสัมผัสได้ถึงความน่ารำคาญหลายต่อหลายอย่างในหนังเรื่องก่อนๆหน้านี้ ก็เลยตัดสิ่งที่ผมรู้สึกรำคาญออกไปเสียสิ้น ซึ่งจุดนี้อาจจะเป็นจุดที่ทำให้ผมเพลินกับหนังมาก แต่เสียดายที่เวลาน้อยและไม่สามารถเติมอะไรไปได้ หนังมันก็เลยไม่มีอะไรเลย ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง คือพอดูละรู้สึกเหมือนมีอะไรเซอร์ไพร์สนะ แต่พอมาคิดดูจริงๆหนังมันไม่มีอะไรเอามากๆ เน้นดูฉากบู๊ ดูเอามันส์ แค่นั้นจบกันจริงๆ

เพราะไฮไลท์สำคัญของหนังมันดันไปซ่อนไปซุกตัวอยู่ในรายละเอียดในฉากหรือแฟลชแบ็คบางจุด รวมไปถึงฉากท้ายเครดิตที่แทบจะพีคและน่าสนใจกว่าหนังทั้งเรื่องด้วยซ้ำ บ่นจนสงสาร แอบเอาใจช่วยให้ DCEU พยุงตัวอยู่ได้ ยังอยากเห็นโปรเจ็คหน้าๆอยู่ เพราะมันมีหลายตัวที่น่าสนใจมาก 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
5
การดำเนินเรื่อง
5
ดนตรีประกอบ
7.5
ฝีมือนักแสดง
7
กราฟฟิก
6
คะแนนเฉลี่ย
6.1
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
16 พฤศจิกายน 2560 22:41:33

Justice League 

หลังได้ดูหนังจบ ต้องบอกเลยว่ามันช่างเติมเต็มความฝันของเรามากมายทีเดียว หลังจาก Man of steel ฉาย เราก็เฝ้ารอให้รวมทีมกันสักที วันนี้ความฝันนั้นเป็นจริงแล้ว ... 

ส่วนตัวแล้ว ชอบ Man of steel มาก แบบว่า Superman มันต้องแบบนี้สิ แต่ความชอบของเราก็ไม่เหมือนใครหลายคน เพราะหนังโดนวิจารณ์พอสมควร (หนังมีความจริงจัง ทำให้หลายคนอาจจะไม่ชอบแต่ส่วนตัวแล้วชอบ superman ภาคนี้มากที่สุด)

ต่อมาก็ตามด้วยเรื่อง Batman V Superman เรื่องนี้ต้องบอกว่าโดนวิจารณ์เละ แบบไม่เหลือชิ้นนี้ แต่เรากลับชอบ ชอบมากจนขนาดไปดูในโรง IMAX ถึงสามรอบด้วยกัน แบบว่าดูจบ มันมีเรื่องให้คิดตามอีกหลายอย่าง ดูแล้วอยากไปดูซ้ำอีกหลายๆรอบ

จนมาถึงวันนี้ Justice League ก็ได้เข้าโรงสักที รอมานานมากจริงๆ เกริ่นมายาวแล้วขอสรุปที่ได้ไปดูมาแบบไม่สปอยดังนี้ครับ

ข้อดี

1. หนังจัดหนักตั้งแต่เปิดเรื่องมาเลย เนื้อเรื่องไม่อืด หนังสองชั่วโมงรู้สึกสั้นมากทีเดียว

2. การเกลี่ยบทนี่ดีมากทีเดียว ตัวละครทุกตัวมีบทบาท มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ฺBatman นี่เท่มาก ฉากบู๊ก็ทำดีมากจริงๆ (ฝั่งเมืองนอกบอกเบนแสดงแข็ง แต่ตอนไปดูเรารู้สึกธรรมชาติมากนะ) Wonder Woman น่ารักเหมือนเคย แอร๋ย ยอมใจในความสวย โอ๊ยดีเกิน Flash ตัวฮาประจำทีมจริงๆ แย่งซีนแทบทุกฉาก Aquaman แอบตกใจ บทไม่เด่นเท่าที่ควรเลย แบบดูธรรมดา แต่ฉากกินเหล้านี่เถื่อนดิบจริงๆ5555 สุดท้าย Cyborg ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่ดีเลยนะ แบบเป็นตัวละครเดียวที่มีที่มาที่ไปชัดเจนที่สุด 

3. คราวนี้ DC เก็บความลับจากตัวอย่างหนังได้ดีมาก ไปดูแล้วชอบฉากที่เก็บไว้มาก เอาเป็นว่าระวังโดนสปอยนะ รีบๆไปดูเลย 

4. IMAX ภาพเต็มตามาก สีสวย เสียงอลังมาก (เสียงดังจนพื้นสั่น สุดยอดมาก) แนะนำให้ไปดูระบบนี้ครับ

5. ฉากสวยหลายฉากมากจริงๆ ดูแบบสามมิติจะโอเคมาก (แต่ CG ลอยหลายฉากเดี๋ยวจะพูดตรงข้อเสียนะครับ)

6. ดูจบแล้วยอมรับว่า อิ่มเอมใจ บันเทิงที่สุด มีฉาก End Credit สองฉากที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดนะครับ 

ข้อเสีย

1. CG ลอยหนักมาก บางฉากนี่จะร้องไห้ มันลอยไปเว้ยยยยย แบบไม่สมจริงอย่างแรง สีสวยจริง แต่ลอยมาก (ดูไปสักพัก ก็คงจะชินเอง)

2. เนื้อเรื่องเส้นตรงเกินไป เลยไม่มีอะไรน่าจดจำ หรือเอากลับไปคิดต่อหลังหนังจบ

3. ตัวร้าย คือดีนะแต่มันไม่สุดจริงๆ มันเหมือนยังได้อีกอะ อันนี้เสียดายจริงๆ

4. การที่หนังดำเนินเรื่องกระชับ รวดเร็ว ทำให้ตัวละครบางตัวมันดูแปลกๆไม่สมเหตุสมผลบางอย่าง เอาจริงๆ Aquaman บทไม่ค่อยเด่นเลยอะ (ในตัวอย่างจะดูเด่นมากนะ แต่ไปดูจริงๆมันก็งั่้นๆ TT) เสียดายพอสมควร

5. Sound ไม่ติดหูเลย ไม่เหมือนเรื่องก่อนๆที่ได้ Hans Zimmer มาทำ อันนั้นคือดูหนังเสร็จต้องมาหาฟังต่อ แต่คราวนี้เฉยๆมาก 

6. สุดท้าย Sub Thai แย่มาก ไม่ได้แปลผิดนะ แต่แปลได้ไร้อารมณ์ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คือทำให้เสียอารมณ์ในการดูอย่างแรง มีตัวอย่าง sub ที่ทำให้เสียอารมณ์นะ แต่กลัวสปอยเลยขอปิดไว้ (ไม่ได้สปอยมาก)

คลิกเพื่อซ่อนหรือแสดงข้อความ
 

อยากให้ไปดูกันนะ สนุกจริงๆ บันเทิงมากเลยแหละ

เราชอบความ dark แบบ man of steel หรือ batman v superman มากกว่า ส่วน Justice League สำหรับเรามันเฉยๆไปหน่อยถ้าเทียบกับสองเรื่องก่อนหน้า

สุดท้ายจะสนุกไม่สนุกต้องไปดูเองนะครับ :))

 

สรุปผลวิจารณ์หนัง

บทหนัง
6.5
การดำเนินเรื่อง
7
ดนตรีประกอบ
7
ฝีมือนักแสดง
9
กราฟฟิก
7
คะแนนเฉลี่ย
7.3
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
GUEST
Takky
19 พฤศจิกายน 2560 11:41:31
ราคาตั๋วเท่าไหร่คะ

ความคิดเห็น (0)

18 พฤศจิกายน 2560 21:27:03
ราคาตั๋วเท่าไหร่
สมาชิกไทยแวร์เข้าสู่ระบบด้วย
21 พฤศจิกายน 2560 17:31:36
ขึ้นอยู่กับโรงหนังที่ไปดูครับ เพราะแต่ละโรงแต่ละทีก็ราคาไม่เท่ากัน